คนมาบริจาคโลหิตมากกว่าเดิม เพราะอะไร


เราจะพบว่า ทุกครั้งจะมีคนหน้าใหม่เข้ามาร่วมด้วยเสมอ ๆ อย่างครั้งนี้มี 15 คน ครั้งก่อนมีถึง 19 คนแนะ บางคนก็เคยบริจาคมานานแล้ว มาเริ่มใหม่ที่นี่ บางคนก็เพื่อนชวนมา หรือบางคนก็เดินมาโดยไม่ได้ตั้งใจ พอเราชวน คนโน้นคนนี้พูดโน้มนำเขาก็บริจาคได้

และแล้วกิจกรรมบริจาคโลหิตสำหรับปีงบประมาณนี้ครั้งแรกก็ผ่านพ้นไปด้วยดี เมื่อวันที่ 10 ต.ค.นี้ มีคนมาบริจาคได้ทั้งหมด 53 ถุง มากกว่าทุกครั้ง

และเราก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย อยากบอกว่าดีใจมาก มาก ครั้งนี้เราพยายามดูแลตนเองอย่างเต็มที่ หลังจากพลาดมาแล้ว 2 ครั้งติด ๆ กัน ด้วยเหตุผลที่ไม่อยากจะรับได้คือ “เลือดลอย” ครั้งแรกที่ลอย เจ้าหน้าที่ก็บอกให้กินยาเหล็ก เขาให้มาถุงหนึ่ง เราก็โยนทิ้งไม่เอา ไม่สน ไม่เห็นเป็นอะไร เลือดเราไม่น่ามีปัญหาอะไร พอครั้งที่ 2 ไม่ได้อีก ครั้งนั้นเสียใจมากเพราะตามไปให้ที่รพ.สุราษฎร์อีกทีนึง ไปกัน 8 คน เขาได้กัน 4 คน พี่เขาก็แนะนำเหมือนเดิมว่าให้กินยา เขาให้เรามากิน 3 เดือนเลยนะ กลับมาเราก็เริ่มกิน แต่ไม่ครบ 3 เดือนหรอกเพราะมันเยอะไป พอคราวนี้หลังจากรอให้คนซา ๆ ก็ไปให้ประวัติ แล้วก็ถึงคิวเจาะปลายนิ้ว คอยลุ้นอยู่นะ พอเจ้าหน้าที่บอกว่าจม เราทำท่าดีใจออกไป เพื่อน ๆ ก็ร่วมดีใจกันใหญ่จนเจ้าหน้าที่ที่เจาะเขาตกใจ เขาเลยทำท่าไม่แน่ใจว่าทำไมเราถึงดีใจขนาดนี้ เขาก็เลยขอทดสอบกรุ๊ปเลือดอีกที ว่า OK มั้ย สุดท้ายก็ได้ เลยได้ให้จริง ๆ

ทำไม เราถึงอยากให้มาก ๆ ขนาดนี้ เพราะเราเป็นคนจัดงานนี้ ประสานงาน เตรียมงาน มันเหนื่อยหลายอย่างนะ เราก็อยากเป็นผู้ให้ด้วยคนสิ เพราะเรารู้สึกว่า มันเป็นการให้ที่ผ่านการลงทุนมาระดับหนึ่ง แต่เป็นการลงทุนเพื่อตัวเองนะ เพราะคนที่จะให้เลือดคนอื่นได้ ก่อนอื่นเราต้องสุขภาพดี ไม่ได้เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังอะไร ไม่ได้ on ยาอะไร ดูแลสุขภาพได้ดี แล้วเมื่อให้ไป เราก็ไม่สูญเสียอะไรเลย แต่มันทำให้ช่วยคนได้เยอะนะ

คนเราต้องก้าวผ่านความกลัวเจ็บ ถามว่าเจ็บมั้ย เราเจ็บนะ เพราะคนที่แทงเข็มบอกว่า เราให้มาหลายครั้งแล้วใช่มั้ย เพราะตอนแทงเขารู้สึกเลยว่า มันเหมือนมีแผลเก่า ๆ อยู่ ( เราให้ข้างเดิมมาตลอด ) สงสัยครั้งหน้าต้องลองเปลี่ยนข้างแล้วแหละ

การดำเนินการเรื่องนี้ ทำให้เราเกิดบทเรียน หรือได้เห็นปรากฎการณ์หลายอย่างนะ

อย่างแรก เราต้องจองวันที่บริจาคล่วงหน้ากับสภากาชาดเลย เพราะครั้งที่แล้วไม่ได้จองก่อน ทำให้เราต้องพาคนไปให้ที่รพ.สุราษฏร์เอง เลยทำให้หลายคนไม่ได้ไป แล้วก็ทำให้แต่ละคนต้องเสียเวลาในการทำงานนานมากเกือบ 3 ชั่วโมงแนะ แต่ถ้าเขา mobile มาที่นี่ แต่ละคนใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีเอง ( ถ้าไม่ต้องรอคิวซักประวัติ หรือรอเตียงว่างนะ)

 

อย่างที่สอง เราจะพบว่า ทุกครั้งจะมีคนหน้าใหม่เข้ามาร่วมด้วยเสมอ ๆ อย่างครั้งนี้มี 15 คน ครั้งก่อนมีถึง 19 คนแนะ บางคนก็เคยบริจาคมานานแล้ว มาเริ่มใหม่ที่นี่ บางคนก็เพื่อนชวนมา หรือบางคนก็เดินมาโดยไม่ได้ตั้งใจ พอเราชวน คนโน้นคนนี้พูดโน้มนำเขาก็บริจาคได้ ( ก็ได้มา 2 – 3 คน )

 

ต่อมา คนเก่า ๆ บางคนก็หายไป แต่มีสาเหตุนะ เช่นไม่พร้อมบ้าง ( ไม่รู้เพราะอะไร) นอนดึกบ้าง ลืมวันที่บริจาคบ้าง มีประจำเดือนหรือ ป่วยและให้ไม่ได้แล้ว เช่นเป็นเบาหวาน เป็นพาหะไวรัสบีบ้าง

 

สิ่งที่เราได้ทำเพิ่มเติม สำหรับครั้งนี้มี 2 อย่าง คือ

  1. การบอกกำหนดการล่วงหน้าตลอดปี อีก 4 ครั้งไปเลย เพราะเราได้ไปประสานจองคิวไว้เรียบร้อยแล้ว คือเราอยากให้การบริจาคนี้เป็นประจำทุก ๆ 3 เดือน แล้วแจ้งให้ทุกคนเห็นล่วงหน้า เขาจะได้เตรียมตัว และก็มาเข้าร่วมกิจกรรมที่รพ.ได้เลย

  2. เราทำบัตรสะสมแต้มให้กับสมาชิกที่บริจาคด้วย แล้วบอกว่าถ้าครบ 5 ครั้งให้มารับของที่ระลึกที่งานวิชาการ อันนี้เป็นสิ่งที่เราทำสนุก ๆ เหมือนกับเป็นการเชื่อมต่อ เป็นการสร้างความรู้สึกว่าเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ไม่ได้หวังอะไรมาก

สุดท้ายเราพบว่า คนที่มาร่วมกิจกรรม รู้สึกดีทุกคน แม้บางคนอาจผิดหวังที่เขาไม่สามารถให้ได้ในครั้งนี้ แต่ก็รู้วิธีการดูแลตนเองให้พร้อม เช่นการนอนให้เพียงพอ การรับประทานยาเหล็ก

 

เราคิดว่า ถ้าเราจัดไปเรื่อย ๆ จำนวนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมนี้จะมากขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอนทั้งคนเก่า และคนที่จะมาใหม่  เราเชื่อเช่นนั้น

 

แต่เราก็ไม่ทิ้งคนที่อยากให้แต่ให้ไม่ได้ เพราะมีปัญหา เช่นไม่สบายนะ โดยเราก็เปิดช่องว่า เขาสามารถทำดีโดยวิธีอื่น ๆ ที่เราจัดให้ เช่นการบริจาคต่าง ๆ ที่เรามีอยู่สม่ำเสมอในองค์กร แต่สิ่งที่อยากทำคือการหาวิธีโน้มนำคนที่มีสุขภาพดี แต่กลัวเข็ม ( โดยเฉพาะพยาบาลเราเองแหละเยอะเลย ) ว่าจะทำอย่างไรดีน๊อ ให้เขาก้าวข้ามผ่านตรงนี้ไปให้ได้ แต่เราก็ทำใจได้นะ เพราะมันก็เป็นเช่นนั้นเองแหละ

สุดท้ายเรื่องนี้ก็เป็นการตอกย้ำว่า “ อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดี เพราะถ้าหากเราไม่ท้อใจ เราก็จะเก็บเกี่ยวในเวลาอันสมควร”  จากพระคัมภีร์  กาลาเทีย บทที่ 6 ข้อที่ 9

หมายเลขบันทึก: 505930เขียนเมื่อ 17 ตุลาคม 2012 13:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม 2012 16:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

มาร่วมอนุโมทนาบุญที่มีอานิสงส์สูงมากเช่นนี้ค่ะ..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท