" รถบรรทุก " - ๑
* รถยนต์เป็นพาหนะแบบหนึ่งที่คนเรานำออกมาใช้งาน. ใช้กันมานานมากแล้ว. แรกๆก็นำมาใช้ส่วนตัว.ต่อมาได้พัฒนาขึ้นเพื่อนำมาบรรทุกคน สัตว์ สิ่งของ และอื่นๆ ฯ
รถบรรทุก.
จากรถสี่ล้อเล็กกลายมาเป็นหกล้อเล็ก..กลางและใหญ่.. รถตู้หรือรถบัสใหญ่..ต่อมาพัฒนาเป็นรถบัสแอร์..เท่านั้นยังไม่พอมีการพัฒนามาเป็นสิบล้อและสิบแปดล้อ..หรือรถเทรลเลอร์.แถมยังกลัวจะขาดทุนกำไรจึงพัฒนามาเป็นสิบล้อและมีรถพ่วงตามหลังอีก ๑ คัน..นายทุนหรือเจ้าของบริษัทต่างๆ..มีเงินซื้อรถแต่มักจะไม่ยอมซื้อตัวคนขับ นำมาเลี้ยงดู ให้เงินเดือนและสวัสดิการที่ดี. มีเวลาพักผ่อนอย่างเพียงพอ..ที่สำคัญต้องไม่โลภ. ถ้าทำได้ยังไงๆกิจการของท่านต้องไม่มีทางเจ๊งหรือขาดทุน.. ทุกวันนี้มิได้เป็นเช่นนั้น.
เบรครถนั้นมันไม่ได้แตกกันง่ายๆหรอกน๊ะ ! -ไม่ใช่ขวดน้ำ.
พนักงานขับรถพอจ้างมาก็ไม่สามารถอยู่ทน..เพราะหลายบริษัทฯใช้งานยิ่งกว่าเครื่องจักร เวลาพักผ่อนนั้นแม้จะมีให้..แต่ก็ยังไม่ค่อยพอสำหรับมนุษย์เพราะเฒ่าแก่หรือเจ้าของ..มักจะให้ไปส่งของข้ามจังหวัด ข้ามคืนข้ามวัน บางคนขับกันจนกว่ารถจะพังจึงจะได้พักผ่อน รถไม่เคยมีการตรวจเชคสภาพตามระยะ.บางบริษัทมีรถหลายคัน..สมพงษ์ระหว่างรถรอซ่อมเธอไปขับฮีโน่หน้าตัดก่อนน๊ะ เพราะลูกค้าสั่งสินค้าเข้ามามาก..แล้วนายสมพงษ์จะมีเวลาพักไหมล่ะ ? ถ้าได้นอนพักบ้างก็คงไม่เป็นไรแต่สมพงษ์เล่นหลับใน.ตายสิครับ.ไอ้หยาอั๊วะขาดทุงกามรายไปแล้วน่อ.
ผมไม่ได้หลับ..หลับที่ไหนล่ะ ! - บอกว่าไม่ได้หลับ.
อุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นในแต่ละปีนั้น มูลค่าความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินแทบจะประเมินค่ามิได้อันเกิดจากหลายสาเหตุ..ความพร้อมของพนักงานขับรถ..สภาพถนน..สิ่งแวดล้อม..ที่สำคัญผู้ใช้รถใช้ถนนด้วยกัน อันนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นเสมอ เท่านั้นยังไม่พอและไม่ควรมองข้ามคือ..คนข้ามถนนนี่แหละ!ตัวสำคัญ..เคยสังเกตบ้างไหม?บ่อยครั้งที่สัญญานไฟยังแดงอยู่.เออ..พี่แกไม่ยอมข้าม..ดันมาข้ามตอนไฟเขียวที่คนขับเองก็กำลังเร่งจะผ่านไป..ตายบ้าง..สาหัสบ้าง..รอดบ้าง..พอเกิดอุบัติเหตุแล้วก็พบ แต่ความสูญเสีย..เสียพ่อไปบ้าง..เสียคนที่เป็นเสาหลักไปบ้าง..
คนขับรถพ่วงแวะเข้าไปดูราคาทอง. - คนเดินตัดหน้าครับ.
เท่านั้นยังไม่พอ..คนขับรถต้องถูกขังกว่าจะมีคนมาประกันตัวออกไป..หลายคนต้องตายทั้งที่อยู่ในบ้านตัวเองแท้ๆเช่นรายที่ผมกำลังเขียนถึงนี่..วันนี้ ๕ ก.ย. ๕๕ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี รับแจ้งมีรถพ่วงพุ่งชนร้านทองและเกิดเหตุระเบิด เมื่อประมาณ ๑๕๐๐ น. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิสิฎฐ์ โปรยรุ่งโรจน์ รองผบก.ภ.จว.ชลบุรี ที่เกิดเหตุในตลาดบ้านสวนซอย ๑๑ ตำบลบ้านสวนพบรถบรรทุกพ่วง ๑๘ ล้อ บรรทุกหินเต็มคันรถ โดยส่วนหัวพุ่งอยู่ในร้านและมีเสียงระเบิดดังเป็นระยะ ส่งผลให้ไฟลุกไหม้ร้านและแผงร้านค้าด้านข้างเสียหายไปด้วย..
ถ้าชนคนเดินตัดหน้า..จะเสียหายน้อยกว่าหลบเข้าร้านแบบนี้.
เจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำดับนานกว่า ๓๐ นาที เพลิงจึงสงบ..นอกจากนี้ มีผู้บาดเจ็บโดนไฟคลอกอาการสาหัส ๒ราย คือนายวิ เชียร ทองอยู่อายุ ๓๕ ปี ผู้ดูแลร้านทองและนายเดชนิกรณ์ เฟื่องฟูอายุ ๒๗ ปี โชเฟอร์รถพ่วง หลังเพลิงสงบได้เข้าไปตรวจสอบพบศพน.ส.พนัสกร ทองอยู่ อายุ ๓๒ปี พนักงานร้านทอง โดนไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก และเศษทองรูปพรรณที่โดนความร้อนจับตัวกันเป็นก้อนตกเรี่ยราด..จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่รถพ่วงวิ่งมาตามถนน ระหว่างนั้นมีชายขาพิการเดินข้ามตัดหน้ารถพ่วง..
สามารถควบคุมเพลิงได้โดยจนท.ดับเพลิง. - มิใช่โดยละม่อม.
ทำให้คนขับตกใจ.หักพวงมาลัยหลบอย่างกระทันหัน ก่อนจะเสียหลักพุ่งเข้าไปในร้านทอง จนถังก๊าซเอ็นจีวีที่ติดตั้งมาจำนวน๘ ถังเกิดระเบิด๒ ถัง จนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้และทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว..ค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณแล้ว..กว่า ๒๐ ล้านบาท.
ความเห็น (2)
น่ากลัวจริงๆครับ ยิ่งปัจจุบันนี้ รถโดยสาร อย่างเช่น รถทัวส์ ติดแก๊สกันหมดเลย ไม่มองถึงความปลอดภัย ผู้โดยสารหวังแต่กำไร
ขอขอบคุณ บันทึกดีๆ ครับ
สวัสดีครับ และขอบคุณที่แวะมาอ่าน..รถติดแก๊สน่ากลัวจริงๆเพราะผมดูการสาธิตแล้ว อันตรายมากเจ้าของรถเปลี่ยนไปใช้แก๊สเพื่อประหยัดแต่..ไม่ยอมลงทุนติดตั้งเซฟทีคัทอีก ๑ ชุด..ระหว่างใช้งานถ้าท่อทางเดินแก๊สหลุด ระบบจะตัดอัตโนมัติแล้วเปลี่ยนไปใช้ระบบน้ำมัน ปลอดภัยกว่ามาก..แม้จะต้องจ่ายเงินเพิ่ม..เพื่อความปลอดภัยของเจ้าของรถและผู้โดยสาร ผู้มีอำนาจควบคุมการผลิตหรือติดตั้งก็มิได้เอาใจเราไปใส่ใจพวกมัน..เอาแต่เงินเท่านั้น ! ทั้งบนโต๊ะและหรือใต้โต๊ะ.คนพวกนี้ต้องให้ญาติพวกมันถูกย่าง จึงจะคิดได้หรือต่อมจะเริ่มทำงาน.