นสพ. เดอะ เนชั่น ฉบับวันที่ ๓๑ ส.ค. ๕๕ ลงบทบรรณาธิการเรื่อง Alarming Figures Reveal The Extent of Exclusionซึ่งผมตีความว่าสะท้อนภาพความไม่เป็นธรรมในสังคมไทย
บทความระบุว่า แต่ละปีจะมีเด็กถูกทอดทิ้งจากระบบการศึกษา ๕ แสนคน หรือ ๕ ล้านคนใน ๑๐ ปี และก่อความสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ๓๗.๕ ล้านล้านบาท หรือ ๕ เท่าของ GDP โดยเขาอ้างผลการวิจัยของ สสค.
ในจำนวน ๕ ล้านคนนี้ ๓ ล้านคนต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน ณ จุดใดจุดหนึ่ง ตัวเลขนี้ตรงกับผลการวิจัยของสภาการศึกษา ที่บอกว่า นักเรียนประถมร้อยละ ๒๐ ออกกลางคัน และตัวเลขของระดับมัธยมคือร้อยละ ๓๐ รวมแล้วเพียงร้อยละ ๓๐ ของเด็กเข้าสู่ระบบอุดมศึกษา
บทความบอกว่า นี่คือหลักฐานว่าระบบการศึกษาไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้เด็กทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันที่จะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ และเป็นหลักฐานว่าระบบการศึกษาไม่เอื้อต่อเด็กด้อยโอกาส
สาเหตุไม่ได้อยู่ที่ขาดเงิน เพราะงบประมาณด้านการศึกษาสูงมากถึงร้อยละ ๒๐ ของงบประมาณแผ่นดิน แต่อยู่ที่วิธีใช้เงิน ว่าเอาไปใช้ทำอะไร
ผลการวิจัยหาสาเหตุของการหลุดออกไปจากระบบการศึกษาของเด็กได้แก่
ผมมองว่า นี่คือความเป็นจริงของสังคม ที่แตกต่างไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง อาจจะเรียกว่า 21st Century Reality ก็ได้ ที่ 21st Century Education จะต้องปรับตัว พัฒนาตัว หรือปฏิรูปตัวเอง เพื่อทำงานให้แก่สังคมประเทศชาติในความเป็นจริงใหม่นี้
หัวใจคือ การศึกษาต้องเชื่อมโยงกับชีวิตจริงของผู้คนในสังคม ซึ่งหมายความว่า ควรส่งมอบอำนาจในการจัดการและกำกับผลลัพธ์ของการศึกษาให้แก่พื้นที่ ยกเลิกระบบรวมศูนย์อย่างในปัจจุบัน เพราะได้พิสูจน์แล้วว่าล้มเหลว
วิจารณ์ พานิช
๓๑ ส.ค. ๕๕
บนเครื่องบินกลับจากหาดใหญ่
ขอบคุณสำหรับข้อมูลสำคัญครับ อาจารย์หมอ ;)...
อ่านข้อความแล้ว รู้สึกเศร้าใจกับเด็กไทยหลายล้านคนที่กล่าวถึง ความจริงคนไทย ที่เก่ง ๆ มีความรู้ มีอำนาจมีตั้งมากมายแต่ไม่สามารถทำอะไรได้เท่าที่ควรจะได้ เราต้องร่วมมื อร่วมพลังคิด เพื่อพัฒนาคุณภาพของคนไทยกันอย่างจริงจังกันเสียที
ขออนุญาตนำไปแบ่้งปันบน Social Network นะครับ
ขอบพระคุณครับ