ชื่อเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านด้วยหนังสืออีเล็คทรอนิคชุดแบบฝึกทักษะ
การอ่านตัวสะกดและบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียชุด กลอนสี่ ของดีเมืองยศ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ผู้ศึกษา นางพัชรพรรณ จันทร์สุข
หน่วยงาน โรงเรียนชุมชนบ้านนากอกหนองบก
องค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ปีที่พิมพ์ 2554
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านด้วยหนังสือ
อีเล็คทรอนิคชุดแบบฝึกทักษะการอ่านตัวสะกดและบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ชุด กลอนสี่ของดี
เมืองยศ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนบ้านนากอกหนองบก องค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ที่เรียนจากแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านด้วยหนังสืออีเล็คทรอนิคชุดแบบฝึกทักษะการอ่านตัวสะกดและบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ชุด กลอนสี่ ของดีเมืองยศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีคะแนนหลังเรียนสูงเกินเกณฑ์ร้อยละ 80 (3) ศึกษาดัชนีประสิทธิผล ของแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านด้วยหนังสืออีเล็คทรอนิคชุดแบบฝึกทักษะการอ่านตัวสะกดและบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ชุด กลอนสี่ ของดีเมืองยศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนบ้านนากอกหนองบก องค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย (4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนบ้านนากอกหนองบก องค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านด้วยหนังสืออีเล็คทรอนิคชุดแบบฝึกทักษะการอ่านตัวสะกดและบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ชุด กลอนสี่ ของดีเมืองยศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 โรงเรียนชุมชนบ้านนากอกหนองบก องค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธรจำนวน 18 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling ) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย (1) หนังสืออีเล็คทรอนิคชุดแบบฝึกทักษะการอ่านตัวสะกดจำนวน 8 เรื่อง 8 เล่มและแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ชุด กลอนสี่ ของดี เมืองยศ จำนวน 4 เรื่อง 4 เล่ม (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านด้วยหนังสืออีเล็คทรอนิคชุดแบบฝึกทักษะการอ่านตัวสะกดและบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ชุด กลอนสี่ ของดีเมืองยศ จำนวน 20 ข้อ (3) ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านด้วยหนังสือ
อีเล็คทรอนิคชุดแบบฝึกทักษะการอ่านตัวสะกดและบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ชุด กลอนสี่ ของดี
เมืองยศ (4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านด้วยหนังสือ
อีเล็คทรอนิคชุดแบบฝึกทักษะการอ่านตัวสะกดและบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ชุด กลอนสี่ ของดี
เมืองยศ จำนวน 10 ข้อ
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านด้วยหนังสืออีเล็คทรอนิคชุดแบบฝึกทักษะ
การอ่านตัวสะกดและบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ชุด กลอนสี่ ของดีเมืองยศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนบ้านนากอกหนองบก องค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.36/84.72 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 โรงเรียนชุมชนบ้านนากอกหนองบก องค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ที่เรียนจากแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านด้วยหนังสืออีเล็คทรอนิคชุดแบบฝึกทักษะการอ่านตัวสะกดและบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ชุด กลอนสี่ ของดีเมืองยศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
3. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านด้วยด้วยหนังสืออีเล็คทรอนิคชุดแบบฝึกทักษะการอ่านตัวสะกดและบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ชุด กลอนสี่ ของดีเมืองยศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนบ้านนากอกหนองบก องค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย มีค่าเท่ากับ 0.84 คิดเป็นร้อยละ 84
4. ความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนบ้านนากอกหนองบก องค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ที่เรียน
จากแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านด้วยหนังสืออีเล็คทรอนิคชุดแบบฝึกทักษะการอ่านตัวสะกดและบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ชุด กลอนสี่ ของดีเมืองยศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในภาพรวมพบว่า มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.68) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ผู้เรียนตรวจสอบผลการตอบคำถามได้ (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.84) รองลงมา คือ ภาพประกอบช่วยทำให้เข้าใจเนื้อหาถูกต้องและการเสนอกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.77) และข้อที่มีค่าน้อยที่สุด คือ ภาษาที่ใช้เหมาะสมกับผู้เรียน (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.43)
ไม่มีความเห็น