ในสัมยแต่ก่อนเมื่อบ้านเมืองยังไม่มีตลาดสดจับจ่ายซื้อขายสินค้ากันเหมือนปัจจุบัน การจะกินเนื้อสัตว์หมู วัว ควาย จำเป็นต้องรวบรวมเงินไปซื้อสัตว์ที่มีชีวิตมาฆ่าแล้วตกปุ้น(แบ่งหุ้น)กันไปตามหุ้นที่ได้ตกลงกันไว้
เช่นว่า ในหมู่บ้านป่า มีนายเด่นเป็นคนที่รับทำเนื้อหมูขาย แต่ละวันเขาจะไปสอบถามเจ้าของหมูตามหมู่บ้านต่างๆว่าหมูแต่ละตัวราคาเท่าใด เช่น หมูชาวบ้านที่จะขายราคาตัวละ 500 บาท เขาจะไปสอบถามชาวบ้านว่า ในวันนี้มีใครบ้างที่ต้องการเนื้อหมู ราคาตัวหมูวันนี้ 500 บาท หากลงหุ้นก็จะหุ้นละ 50 บาท
ส่วนชาวบ้านจะซื้อกี่หุ้นก็ว่ากันไปตามนั้น เมื่อครบเงิน 500 บาท นายเด่นก็จะรวบรวมเงินไปซื้อหมูมา ฆ่าำชำแหระ ในเวลาบ่ายแล้ว แบ่งหมูเป็นหุ้นได้ 10 หุ้นขายแก่เจ้าของเงินที่ร่วมลงทุนมา
วิถีแห่งการฆ่าสัตว์เพื่อแบ่งหุ้นเป็นมาช้านานแต่โบราณที่ชาวบ้านล้านนารู้จักกันดีก่อนที่จะมีตลาดสดอย่างเช่นทุกวันนี้
วิถีชีวิตของนายเด่นแต่ละวันก็จะเดินไปตามหมู่บ้านใกล้เคียงแล้ว หาซื้อหมูเพื่อตกปุ้นจนเป็นอาชีพตั้งแต่หนุ่มจนแก่เฒ่า มีเงินเลี้ยงลูกหลานเติบใหญ่มากหลากหลายคน จนอายุเขาย่างเข้าสู่วัย 81 ปี
อยู่มาเขาเดินลงท่าน้ำพลาดหกล้ม เขาตกใจร้องออกมาเหมือนเสียงหมูถูกน้ำร้อน ดิ้นรนริมท่าน้ำ ผู้คนได้ยินจึงช่วยกันพาส่งโรงพยาบาล
ไม่นานนักเขากลับบ้าน แต่ฝันเห็นแต่พวกหมูทั้งหลายพากันมารุมกัดแทะเล็มจนนอนไม่ได้ พอหลับตาจะงีบหลับเสียงหมูมันมาร้องรบกวนตลอดเวลา จนไม่เป็นอันจะกินจะนอน อาการซูบผอมลงแม้จะได้กิน แต่ไม่ได้นอน ไม่ได้หลับลุกๆนั่งๆ
บรรดาเพื่อน ญาติๆนึกว่าเขาเป็นบ้า จึงนำส่งโรงพยาบาลประสาทตรวจโรคแล้วก็ไม่มีอะไรจะต้องรักษาร่างกายปกติ เพียงแต่ซูบผอมเพราะไม่ได้นอนหลับ
อยู่ต่อมาเวลาใกล้ยามเย็นเขาล้มฟุบอีกครั้ง บรรดาญาติลูกหลานจึงรีบนำขึ้นบ้าน เขาเอามือดึงหมอนหนุนออกแล้วร้องหาเขียงหมูมารองหัวหนุนนอน ญาติๆไม่ยอมทำเขาร้องโอดโอยเหมือนหมูถูกฆ่า มีญาติคนหนึ่งอดใจไม่ได้จึงรีบไปหาเขียงหมูมาให้เขาหนุนแทนหมอน เขาดีใจรีบดึงเขียงมารองหัวนอนดิ้นไปมาและแล้วลมหายใจระรวยอ่อนลง ญาติรีบนำเขาส่งโรงพยาบาล
ที่สุดแพทย์ลงความเห็นว่าเขาเป้นโรคหัวใจวาย....และสิ้นใจ
บรรดาพี่น้องญาติ ลูกหลานจึงนำศพกลับมาทำบุญที่บ้าน โดยมีเขียงหมูรองหัวศพของเขานอนอยู่ในโลงและเผาไปในที่สุด.
หลายคนบอกว่า บาปที่เคยฆ่าหมูบั่นทอนชีวิต บางคนบอกว่า กรรมตามทันหลา่ยคนบอกว่าประสบการณ์ที่เขาทำซ้ำๆมันฝังในใต้จิตสำนึกตอนใกล้ตายจึงกลับมาหลอนจิตให้หวั่นไหว....
แต่พวกเราที่อ่านจะคิดอย่างไร?...ก็แล้วแต่ครับ...เอาเรื่องมาเล่าตามที่ได้เห็นแล้วบันทึกไว้ให้ผู้คนรุ่นหลังได้อ่านเล่นๆ....
เคยได้ยินเรื่องแบบนี้เหมือนกันครับ เป็นคนฆ่าหมูขายในตลาด
ไหว้สาคุณธวัชชัยครับ.....
ขอบคุณครับที่มาแอ่วและอ่านครับ....
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน......พรหมมา