เกษียณคนน่ะธรรมดา แต่เกษียณใจนี่ซิ คงแย่


ในการจัดงานของกลุ่มการพยาบาล งานมุทิตาจิตแก่ผู้เกษียณนั้น เราจะทำกันทุกปี วิธีการติดต่องานและเตรียมสื่อ บท ฯลฯ ก็มีแนวทางปฏิบัติในแบบที่เข้าใจกัน คือหากต้องการงานนำเสนอเจ้าของงานก็ต้องทำบทมาให้ รวมรูปภาพต่างๆมาให้ เมื่อได้ครบถ้วนทั้งหมด งานนำเสนอก็จะเริ่มการผลิตไปตามลำดับ ตามกรอบเวลานัด หรือตามข้อกำหนดบริการนั้นๆ

หากในวันนี้ ที่นี่มีเรื่องราวของความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย เดือนกันยายน ๒๕๕๕ มีหัวหน้าพยาบาลเป็นผู้เกษียณ การจัดงาน การประสานงานต่าง ก็เปลี่ยนไป หลายอย่างก็ไม่ได้ทำตามแนวทางที่กำหนดไว้ (ต้องเตรียมสิ่งต่างๆที่จำเป็นในการจัดทำมาให้พร้อม) วันนี้ทางผู้จัดหาคนทำบทให้ไม่ได้ ปกติจะมีคนช่วยเขียนหากแต่วันนี้คนช่วยมีงานรัดตัวไม่สามารถช่วยเขียนได้  คนทำงานนำเสนอก็รอบท คนสั่งงานก็ไม่สันทัดในเรื่องราวตรงนี้ เกิดเป็นความหนักใจของทั้งผู้ผลิตงานนำเสนอและผู้ขอให้ผลิตงานนำเสนอ

พี่ๆผู้จัดงานเกษียณซึ่งรับผิดชอบจัดงานและต้องทำบทมาให้ ท่านไม่สันทัดและคิดว่าทางงานเขียนบทนี่ผู้ผลิตควรที่จะให้บริการตรงนี้ได้ ด้วยพี่ผู้จัดงานนั้นคุ้นเคยกันกับผม เมื่อวันจัดงานเกษียณใกล้เข้ามา ท่านก็ได้ปรึกษาและสอบถามผมว่า งานนำเสนอที่ได้ขอไปน่ะเป็นอย่างไรบ้าง ได้เล่าความเป็นไปเป็นมาให้ผมได้ทราบ ปรากฏว่ามีจุดที่ต้องแก้เพื่อให้งานเดินไปได้ก็คือการเขียนบท

 

ปกติผมนั้นรับผิดชอบด้วยการใช้สื่อในห้องประชุม งานนำเสนอไม่ค่อยได้ทำ ยิ่งเขียนบทนี่เกือบไม่ได้ทำ ความเชี่ยวชาญ ชำนาญนั้นขาดไป ผมเองเมื่อทราบดังนั้นก็พยายามหาทางออกด้วยว่าเข้าใจและตระหนักถึงผลเสียต่อการขาดงานนำเสนอมุทิตาจิตไปจากรายการของงาน ผมจึงตัดสินใจช่วยแก้ปัญหาเรื่องการทำบท พยายามรวบรวมข้อมูลและเนื่องด้วยในเทศกาลช่วงใกล้สิ้นสุดอายุราชการ ผู้เกษียณเกือบทุกท่านจะไปพักผ่อนกัน หน่วยงานก็ตอบแทนให้แก่ความเสียสละที่ช่วยงาน รพ.พิจิตรกันมา เราสามารถพบท่านได้ค่อนข้างยาก ผมได้กำหนดการในการฉายงานนำเสนอคือ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๕

ในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๕ ผมได้พกกล้องวิดีโอไปด้วยและได้ติดต่อผู้เกษียณทุกท่านเพื่อพูดคุยเรื่องราวในชีวิตของท่านเพื่อนำมาเขียนบท มุ่งหวังให้เป็นบที่แนะนำสิ่งดีๆ เป็นแบบอย่างแก่น้องๆ พยาบาลรุ่นต่อไปได้ยึดถือปฏิบัติ

ผมใช้เวลาไปจนเที่ยง จากนั้นก็นำข้อมูลต่างๆ มาเรียบเรียงให้สละสลวยนะ จากนั้นก็พิมพ์ออกมา งานพิมพ์ตรงนี้ผมได้มา เวลาก็ล่วงไปสามสี่โมงเย็นแล้ว จวนเลิกงาน

ก่อนเลิกงานก็ต้องติดต่อผู้อ่านบท วันนี้เราได้พี่สมภพ เครือเช้าซึ่งสนิทกันและท่านก็เต็มใจช่วยเนื่องด้วยเป็นงานเกษียณของพี่แจ๊ดซึ่งเคยร่วมงานกันและเคารพนับถือกัน เรานัดว่าจะมาบันทึกเสียงในช่วงเช้าของวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๕

ผมได้นำบทส่งไปให้พี่เค้าและเราได้บันทึกเสียงกันกว่าจะแล้วเสร็จก็ห้าโมงเช้าของวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๕ จากนั้นก็นำเสียงมาผสมกับภาพ ตั้งแต่ตอนนั้นต่อเรื่อยไปจนกระทั่งสองนาฬิกาของวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๕ งานนำเสนอก็แล้วเสร็จ ผมก็ได้พักผ่อน

รุ่งเช้าของวันที่ ๒๖ กันยายน วันนี้เป็นปกติของไทยอยู่แล้ว ผมนั้นรับผิดชอบด้านโสตฯ ก็จะมีงานประเดประดังกันเข้ามา ตั้งแต่การเตรียมห้องให้พร้อม, การเตรียมสื่อเพลง ,การเตรียมตารางงาน แทรกขัดจังหวะด้วยการขอให้ช่วยทำการ์ด ทำตรงโน้นตรงนี้ วุ่นไปหมด

แต่ผมก็สบายใจแล้วว่างานนำเสนอที่ได้เข้าไปช่วยพี่ผู้จัดงานนั้นสำเร็จพร้อมแล้ว

ก่อนงานเริ่มในช่วงบ่าย ช่วงเช้าทางทีมงานพี่พยาบาลก็ได้รับชมงานนำเสนอเขาเรียกภายหลังว่า“วีดิทัศน์ภาพประทับใจ” เมื่อเห็นงานออกมาอย่างนี้ท่านก็ได้ความมั่นใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามตารางงาน

ในช่วงบ่าย งานมุทิตาจิตพยาบาลประจำปีนี้ก็เริ่มขึ้น บริเวณการจัดงานนั้นเค้าทำกันอย่างประณีต สวยงาม ประดับประดาไปด้วยพุ่มดอกไม้ ระย้าดอกกล้วยไม้ สอดรับกับผ้าสีอ่อนที่พลิ้วไหวเป็นเส้นเรียงรายปลายทางคือซุ้มแห่งเกียรติยศ  เสียงดนตรีไทยจากเด็กๆบรรเลงขับกล่อม

 

พิธีเริ่มด้วยน้องๆพยาบาลตั้งแถวเรียง ข้างละห้าหกคนจุดตะเกียงชูขึ้นทำเป็นซุ้ม จากนั้นประตูก็เปิดออก พี่ๆพยาบาลผู้เกษียณก็เดินลอดซุ้มด้วยท่าทีที่สง่า เข้าสู่บริเวณงาน จากนั้นพิธีเปิดงานก็เริ่มขึ้น โดยนายแพทย์วิริยะ เอี๊ยวประเสริฐ รองผู้อำนวยการ รพ.พิจิตร ต่อด้วยพิธีบายสีพี่ผู้เกษียณ การกล่าวความรู้สึก หลังจากนั้นก็ท่านทั้งสี่ก็ได้มานั่ง ณ จุดที่กำหนดไว้ งานนำเสนอ ภาพประทับใจก็เริ่มขึ้นเสียงปรบมือเป็นกำลังใจก็ดังขึ้นเป็นระยะๆ รอยยิ้ม เสียงกรี๊ดแห่งความสุข ทุกสิ่งทุกอย่างได้เกิดขึ้น ณ ตรงนั้น...งานนำเสนอก็ได้ทำหน้าที่ของเค้า ได้รับความพอใจ เสียงปรบมือ รอยยิ้ม สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลยหากเราไม่ลงมือทำ... เมื่อจบการนำเสนอ พี่ผู้จัดงานวันนี้ท่านก็เป็นพิธีกรด้วย ก็ได้กล่าวขอบคุณผมในเวทีซึ่งผมก็ปลื้มนะแทบจะหลบออกจากห้องเลย ผมไหว้ตอบ ...จากนั้นรายการถัดไปก็เริ่มต่อไป  คุยตรงนี้ก็คือ เมื่อคนที่เรารู้จักเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ เค้าเอ่ยปากบอกกล่าวแก่เรา เราจะไม่ช่วยนั้นมันทำไม่ได้หรอก

และด้วยเหตุนี้ก็ทำให้เราได้แสดงความสามารถออกมา ได้เรียนรู้เพิ่มเติม ทำให้มั่นใจกับคำว่า “หากเราพูดคำว่าทำได้ เราก็จะทำได้นั่นเอง ”

 

 

หมายเลขบันทึก: 503658เขียนเมื่อ 27 กันยายน 2012 04:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 ตุลาคม 2012 20:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

เห็นด้วยค่ะ “หากเราพูดคำว่าทำได้ เราก็จะทำได้นั่นเอง"

คนบางคนต่างจากคนอื่นและทำได้ดีกว่าคนอื่นก็เพียงเพราะเจ้า "can do attitude" นี้และค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับคุณปริม ดีใจจังที่แวะมาอ่านอ่ะครับ เป็นคำแนะนำบ้าง กำลังใจกันบ้าง แต่ทุกอย่างก็ดีมากๆ ครับ สำหรับคนที่เขียนอะไรที่ฝากไว้ให้เพื่อนๆ ได้อ่าน ประมาณนั้น ขอบคุณนะครับ สนุกกับวันทำงานนะครับคุณปริม

พี่ก็เชื่อเช่นนั้น...คุณเพชรทำได้และได้ดีเสียด้วย

ความกลัว ความกังวล เป็นอุปสรรคในการลงมือทำ  ทำเสียก่อนแล้วเจอกับอุปสรรคก็ยังจะง่ายกว่าการกลัวเสียก่อนลงมือทำครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท