วันนี้ได้มีโอกาสคุยกับหมอที่โรงพยาบาลท่านหนึ่ง คุณหมอท่านนั้นกำลังจะไปเรียนต่อหลังจากที่จบเฉพาะทางมาแล้ว ถามท่านเพื่อทำความเข้าใจว่าจบเฉพาะทางมาแล้วจะไปเรียนต่ออะไรอีก ในวิชาชีพแพทย์นั้นหลังเฉพาะทางแล้วก็จะมีเฉพาะทางต่อๆลงไป อายุท่านไม่มากนัก จึงสนใจวิธีคิดว่าแพทย์เป็นวิชาชีพที่ย้ายง่าย ย้ายงานบ่อย ไปเรียนต่อเฉพาะทางหรือทำอะไรก็ง่ายและสะดวกนั้นคือสิ่งสามัญที่เราทุกคนทราบดี (ซึ่งเป็นความแตกต่างจากวิชาชีพพยาบาลของเราสิ้นเชิง )
ดิฉันจึงถามท่านว่าย้ายงานบ่อยๆไม่ใจหาย หรือห่วงความผูกพันเก่าๆบ้างหรือ คุณหมอตอบดิฉันกลับแบบทำให้ดิฉันสนใจคำพูดนั้นค่ะ ท่านตอบแบบนี้นะค่ะว่า คนที่จะไปไม่ทุกข์เท่ากับคนที่อยู่หรอกเพราะคนที่จะไปในที่ใหม่ๆต้องปรับตัวเข้ากับคนใหม่สถานที่ใหม่คนใหม่และสิ่งท้าทายใหม่ๆ แต่คนที่อยู่นี้นะซิต้องอยู่กับความเคยชินเก่าๆ ฟังแล้วก็คิดตาม ใช่เลยนะทำไมนะแค่กลับมุมคิดทำไมเราคิดไม่ได้(เคยห่วงและคิดแทนแต่คนที่จะอยู่ว่าเขาจะทุกข์เจอมุมคิดนี้เข้าไปทำเอานะทำไมแค่นี้ ลองกลับมุมคิดแค่นี้คิดไม่ได่้นะฉัน)
ดิฉันนำมาคิดเทียบกับเรื่องส่วนตัว ดิฉันกลัวและกังวลหลายอย่างจึงทำให้ไม่กล้าที่จะตัดสินใจเปลี่ยนแปลงเรื่องบางเรื่องของชีวิต ห่วงนูนนี้นั้นไปหมด ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยกลัวสักเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวนี้คิดเยอะสารพัด อาจเป็นเพราะอายุที่มากขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงอย่างที่ดิฉันคิด ทำไมการคิดที่เราคิดว่ารอบคอบและมีเหตุผลมันจึงทำให้ดัชนีความสุขในตัวดิฉันลดน้อยลงไปเยอะเลยค่ะ แปลกจัง หรือบางครั้งมันอาจเป็นไปได้ว่าหากเราต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างเราก็อย่าได้ห่วงกังวลกับคนที่อยู่ข้างหลังมากนัก
........เพราะสุดท้ายแล้วจริงๆคนทุกคนก็สามารถที่จะปรับตัวปรับความรู้สึกกันได้ทุกคนเช่นนั้นซึ่งน่าจะเป็นความจริงที่สัมบูรณ์โดยไม่มีอะไรมาลบล้างด้วย สิ่งมีชีวิตทุกชนิดรวมทั้งคนด้วยจะปรับตัวเพื่อความอยู่รอดเสมอ ......ดังนั้นอย่ากลัวที่จะเปลี่ยนแปลงเลย...เพราะชีวิตคนเราความเปลี่ยนแปลงคือความสม่ำเสมอคือเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอ