บันทึกการทำงาน : วิชาชีพ "ครู"


"ให้เถอะครับ" ให้ความรู้กับลูกศิษย์ยังไม่พอ ให้เอาใจใส่ด้วย ดูแลให้เหมือนเป็นลูกเป็นหลานจริงๆ ของเรา คำพูดเหล่านี้อาจได้ยินกันมามากมายแล้ว แต่คนที่ทำตามคำพูดนี้ได้ หาไม่ได้ง่ายๆ แน่นอน

          นี่ก็เข้าเดือนที่ 9 แล้วสำหรับการมาทำงานกับคณะศึกษาศาสตร์ เป็นการเปลี่ยนแปลงการทำงานของตัวเองอีกครั้งหนึ่งที่แรกๆ ก็ดูเหมือนจะเจอเรื่องเลวร้ายในชีวิต แต่ ณ ตอนนี้ก็มีเรื่องดีๆ เข้ามาทดแทนให้รู้สึกดีๆ ต่อการทำงานอีกครั้ง

          เมื่อก่อนตอนเด็กเคยมีผู้ใหญ่หลายคนถามว่าโตมาอยากเป็นอะไร อาชีพเดียวที่ไม่เคยตอบเลย ก็คือครู เพราะตั้งแต่จำความได้ จะรู้แค่ว่าครูทำไมต้องดุขนาดนั้น ทำไมต้องตีเด็ก ทำไมต้องกลัวเวลาเจอครูก็ไม่รู้ ต้องคอยหลบไม่ให้เห็นกันตลอด

          มา ณ จุดนี้ อายุก็จะเข้าเลข 4 เข้าไปทุกที เพิ่งมาเข้าใจ ก็ตรงที่ได้มีโอกาสเข้ามาช่วยงานกับการเป็นวิทยากรของ ผศ.จรูญ พานิชย์ผลินไชย อาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่เป็นวิทยากรให้กับ โครงการพัฒนาครู-บุคลากรทางการศึกษาฯ ในหัวข้อ จิตวิญญาณของความเป็นครู ซึ่งต้องพูดให้กับคุณครูมากมาย จากหลากหลายโรงเรียน หลากชุมชน หลายจิตใจ ซึ่ง อ.จรูญ ได้ทำการบ้านอย่างหนักที่จะทำอย่างไร ให้สามารถปลุกจิตวิญญาณของความเป็นครูให้กับบรรดาคุณครูได้ และทุกครั้งที่ได้มีส่วนช่วย อ.จรูญ ก็จะได้อะไรดีๆ จากการพูดของอาจารย์ทุกครั้ง

          การอบรมของโครงการนี้ วันเสาร์ที่ผ่านมา (8 ก.ย.55) ก็เข้าไปรุ่นที่ 43 แล้ว อาจารย์ก็ยังบรรยายให้กับผู้เข้าอบรมแบบหมดพลังเหมือนทุกครั้ง และพูดได้เลยว่าทุกครั้งที่ตัวเองสังเกตุเห็น ในหัวข้อของ อ.จรูญนั้น จะมีผู้เข้าอบรมต้องแอบเสียน้ำตา ให้กับเรื่องราวที่ อ.จรูญ ได้พูดให้ฟัง

          ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเป็นครูโดยแท้จริง ความเป็นครูของ อ.จรูญนั้น หายากเหลือเกินในตัวตนของคนที่เป็นครู ยิ่ง อ.ในมหาวิทยาลัยด้วยแล้ว มีน้อยมาก หลายครั้งเคยเห็นอาจารย์คนอื่น ที่เป็นวิทยากร (ไม่ขอระบุว่าในการบรรยายครั้งไหนหรือที่ไหน) แบบที่ไม่น่าจะเชื่อเลยว่าเป็นอาจารย์ได้ พูดแบบตามสไลด์ PPT เปี๊ยบเลย เหมือนมาอ่านให้ผู้เข้าอบรมฟัง บางคนก็เปิดคลิป VDO ให้ดู แล้วตัวเองไปนั่งหลับหลังห้อง ยิ่งบางคนมายืนทำท่า กอด อก แบบเบ่งอำนาจซะว่าตัวเองเป็นวิทยากรเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ว่าจะไม่พูดเรื่องไม่ดีของใครแล้วเชียว

          มาถึงความเป็นครูอีกครั้งที่ อ.จรูญได้บอกให้กับผู้เข้าฟังทุกคน ว่า "ให้เถอะครับ" ให้ความรู้กับลูกศิษย์ยังไม่พอ ให้เอาใจใส่ด้วย ดูแลให้เหมือนเป็นลูกเป็นหลานจริงๆ ของเรา คำพูดเหล่านี้อาจได้ยินกันมามากมายแล้ว แต่คนที่ทำตามคำพูดนี้ได้ หาไม่ได้ง่ายๆ แน่นอน อ.จรูญยังบอกอีกว่า ตัวอ.นั้นเป็นครู ไม่ใช่อาจารย์ และภูมิใจกับความเป็นครูมาก และทุกครั้งที่คุยกัน อ.ก็ยังเรียกแทนตัวเองว่า "ครู" อยู่เสมอ วันนี้ตัวเองรู้สึกดีๆ กับวิชาชีพความเป็น "ครู" มาก และขอเป็นกำลังใจให้กับคุณครูทุกท่าน ที่เอาใจใส่ดูแลลูกศิษย์โดยที่ไม่คิดถึงประโยชน์ส่วนตัวค่ะ

ขอบคุณค่ะ

รัตน์ทวี อ่อนดีกุล

หมายเลขบันทึก: 501782เขียนเมื่อ 10 กันยายน 2012 16:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 กันยายน 2012 20:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

พัฒนากันไปนะคะ...การพัฒนา...นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลนะคะ

ขอบคุณบทความดีดี...มีคุณภาพ

ขอบคุณกำลังใจจาก อ.นุและ Dr.Ple มากค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท