บ้านต้นกระถิน


อย่างไรยังยืน

หมู่บ้านแห่งหนึ่งในชลบทมีบ้านทรงไทยหลังหมู่หนึ่งมีขานดใหญ่มาก ตรงกลางมีต้นกระถิ่นใหญ่มากๆ ปลูกอยู่ ทุกคนที่พบเห็นเยี่ยมชมจึงเรียกบ้านหลังนี้ว่า บ้านต้นกระถิน ซึ่งเป็นบ้านของเศรษฐีท่านหนึ่ง และมีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาของต้นกำเนิดของต้นกระถิ่น ต้นนี้ สืบต่อๆ กันมา

ย้อนหลัหกลับไปกว่า สี่สิบปี หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเด็กหนุ่ม 2 คน ชื่อ นายเหมื่อน และ นายคล้าย เป็นเพื่อนรักกัน สองคนนี้มีฐานะที่แตกต่างกันพอสมควร นายเหมื่อนมีฐานะที่ดีกว่า นายคล้าย ทั้งสองใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านตามภาษาชาวบ้านธรรมดา

ครั้นนายเหมื่อนมักใช้จ่ายเงินทองฟุ่มเฟือนอยู่เสมอ ส่วนนายคล้ายใช้จ่ายเงินอย่างมัธยัสถ์ นายคล้ายก็มักจะเตือนนายเหมื่อนอย่างเสมอว่าพยายามใช้จ่ายเงินให้น้อยลงบ้าง นายเหมื่อน มักค้อนแคะเสมอว่า นายไม่มีเงินอย่างฉัน ถ้าานยมีอย่างฉันก็คงต้องใช้จ่ายอย่างฉัน ฉันมีเงินมากมายไม่ต้องกลัวหมดหรอก

เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน พ่อและแม่ ของนายเหมื่อน ก็สิ้นลง ทิ้งเงินทองให้ นายเหมื่อน นายเหมื่อนไม่ทำการทำงาน ใช้เงินที่ พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ ส่วนนายคล้ายซึ่งเป็นเพื่อนสนิท มักให้คำแนะนำเสนอมาว่าให้นำเงินไปลงทุน แต่เนื่องจากเงินที่ทิ้งไว้มีจำนวนมากนายเหมื่อน คิดว่าใช้อย่างไรก็ไม่หมด จึงไม่ฟังคำทัดทาน ส่วนนายคล้ายซึ่งมีเงินไม่มากนักจึงหันไปทำการค้า นายคล้ายจึงมีความจำเป็นต้องย้ายออกไปจากหมู่บ้าน ทั้งสองจึงต้องแยกออกจากกัน

ยี่สิบปีผ่านไปนายเหมื่อนซึ่งใช้จ่ายเงินไม่ระมัดระวังใช้จ่ายเงินจนหมด แปรสภาพไปเป็นขอทาน เที่ยวขอทานไปเรื่อยๆ ส่วนนายคล้ายจากเงินที่น้อยนิด นำไปทำการค้า จนกลายเป็นเศรษฐี วันหนึ่งนายคล้ายจัดทำบุญ ทำทาน แจกข้าวสาร บังเอิญ นายเหมื่อน ข้าไปขอรับทาน นายคล้าย เมื่อเห็นนายเหมื่อนก็จำได้ทันทีว่า เป็นเพื่อนของตน แต่นายเหมื่อน จำนายคล้ายไม่ได้

เศรษฐี จึงเรียกนายเหมื่อน เขามาคุยด้วยโดยให้ข้อเสนอกับนายเหมื่อน ว่า ให้นายเหมื่อนช่วยเป็นยาม ให้ไปพักที่กระท้อมปลายไร่ แล้วให้นายเหมื่อน ให้ข้าวและให้เก็บยอดกระถิ่นปลายไร่ ที่มีขนาดไม่ใหญ่นั้สูงเพียงตา ที่อยู่บริเวณกระท่อม กินเป็นกับข้าว เป็นค่าตอบแทน นายเหมื่อนเมื่อได้ยินดังนั้น คิดว่าตนเองก็แก่แล้ว แค่นั่งๆ นอนๆ เฝ้าปลายไร่ จึงรับข้อเสนอ

เวลาผ่านไปสองเดือน นายเหมื่อนก็เข้ามาขอพบเศรษฐี เศรษฐีจึงให้พบ เศษรฐีจึงถามว่าไงสบายดีหรือ แล้วที่มามีอะไรหรือ นายเหมื่อน ตอบว่า “ต้นกระถิ่นปลายไร่ ล้มเสียแล้ว ไม่มียอดกระถิ่นให้เก็บกินอีกแล้วครับ” เศษรฐีจึงตอบว่า “อ้าวจริงหรือ ถ้างั้นก็ให้ ย้ายที่อยู่จากกระท้อมที่อยู่ถัดไปอีกหน่อย ที่กระท้อมนั้นก็มีต้นกระถิ่นอยู่เหมื่อนกัน ก็เก็บกินต่อไปแล้วกัน”

เวลาผ่านไปสองปี นายเหมื่อน เหมื่อนกับว่าจะหายไป ไม่เข้ามาขอพบเศรษฐีอีกเลย เศรษฐีจึงให้คนไปตาม นายเหมื่อน เข้ามาหา เมื่อนายเหมื่อนเข้ามา เศษรฐี เศรษฐีจึงถามขึ้นว่า

เศรษฐี เป็นไงนายเหมื่อน ทำไมครั้งนี้หายไปนานจังต้นกระถิ่นเป็นไงบ้างล่ะ”

นายเหมื่อน “ท่านเศษรฐีครับ กระถิ่นที่ท่านเศษรฐีให้กระผมเก็บยอดมากินต้นนี้ไม่เหมื่อนต้นเดิมนี้ครับ ต้นนี้ใหญ่โตมาก ต่างกับต้นเดิมเล็กนิดเดียวครับ”

เศรษฐี “อย่างไรหรือ ??”

นายเหมื่อน “ก็ต้นเล็กน่ะ เด็ดยอดไป เด็ดทุกวันไม่กี่วันก็ไม่มียอดให้เด็ดแล้ว ต่างกับต้นใหญ่ครับ เด็ดตรงนี้ ตรงนั้นขึ้น เด็ดตรงนั้นตรงนี้ขึ้น มียอดให้เด็ดตลอด ไม่เคยขาด”

นายเหมื่อน “......”

เศรษฐี “นั้นเป็นไร ตอนนี้ นายเหมื่อนรู้หรือยังล่ะว่า กระถิ่นต้นแรก ต้นเล็ก ก็เหมื่อนกับกิจการ ขนาดเล็กหากเด็ดยอดกระถิ่น อย่างไม่ระมัดระวังไม่ปล่อยให้ตันกระถิ่นเหลือยอดงอกเงย สักพักก็ไม่มียอดให้เด็ด กระถินก็จะตายในที่สุด เปรียบได้กับกิจการขนาดเล็ก หากเราใช้จ่ายไม่รู้จักเก็บออม เพื่อการลงทุนขยายงานเพิ่ม สักวันกิจการที่ทำไว้ก็จะล้มลง เนื่องจากเงินงอกเงือยไม่มากพอค่าใช้จ่าย”

นายเหมื่อน “......”

เศรษฐี “ส่วน ต้นกระถิ่นขนาดใหญ่ เด็ดตรงนั้น ขึ้นตรงนี้ เด็ดตรงนี้ขึ้นตรงนั้น ก็เปรียบได้ว่าเป็นกิจการขนาดใหญ่ เมื่อกิจการใหญ่พอถึงจุดๆ หนึ่งแล้ว เราจะเก็บเกี่ยวใช้จ่ายเท่าไรก็ไม่หมด เงินที่ได้จากกิจการก็จะมีเข้ามาเรือยๆ”

เศรษฐี “ถึงตอนนี้ท่านเข้าใจหรือยังล่ะ.....”

ตอนนี้เอง เศษรฐีก็แสดงตัวทันที ว่าตนคือ นายคล้าย เพื่อนรักของนายเหมื่อนในสมัยก่อน นายเหมื่อน คิดย้อนถึงคำพูดของนายคล้าย ถึงกับน้ำตาไหลนองหน้า และสำนึกผิด

จากนั้น นายคล้าย จึงให้ที่ดิน บริเวณกระท้อม และเงินก้อนหนึ่งกับนายเหมื่อน นายเหมื่อนก็นำเงินไปทำการค้า เก็บออม ขยายกิจการจนฐานะกลับมาดังเดิม จากนั้น เพื่อเป็นการเตือนใจ นายเหมื่อนจึงปลูกบ้านทรงไทยหมู่หนึ่ง บริเวณรอบต้นกระทิ่น ตันใหญ่ต้นนี้ นี้เอง

 

ขอบคุณ

นาย สุวิชัย ธรรมศรีสกุล

(เรื่องนี้แต่งขึ้นจากความทรงจำในวัยเด็ก เพื่อเตือนสติ หากผิกพลาด หรือไปตรงกับเรื่องใด ก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย)

หมายเลขบันทึก: 501570เขียนเมื่อ 8 กันยายน 2012 00:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 กันยายน 2012 00:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท