หน้าแรก
สมาชิก
นางสาว ภัทราพร พุ...
สมุด
วิชาปัญหากฎหมายระ...
“การใช้สิทธิในสัง...
นางสาว ภัทราพร พุทธมงคล
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
“การใช้สิทธิในสังหาริมทรัพย์ระหว่างการขนส่ง" ในกฎหมายขัดกันของไทยและ รัฐเซียเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร”
หลักถิ่นที่ทรัพย์ตั้งอยู่เจ๋งกว่าหลักสัญชาติจริงหรือ
“
การใช้สิทธิในสังหาริมทรัพย์ระหว่างการขนส่ง
"
ในกฎหมายขัดกันของไทยและ รัฐเซียเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร
”
กฎหมายขัดกันของ
รัสเซีย
มาตรา
1249
ว่าด้วยเรื่องการใช้สิทธิในสังหาริมทรัพย์ระหว่างการขนส่ง
มีใจความสาระสำคัญดังต่อไปนี้
“
เว้นแต่ในระหว่างคู่กรณีจะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่น
ท่านว่าในเรื่องการใช้สิทธิ์ในทรัพย์สินและสิทธิ์อื่นๆในสังหาริมทรัพย์ในระหว่างการขนส่งตกอยู่ภายใต้สัญญาที่ถูกกำหนดตาม
กฎหมายของประเทศที่สังหาริมทรัพย์ได้ถูกส่งไป
”
กฎหมายขัดกันของ
ไทย
ที่มีบัญญัติไว้ใน
พรบ.ว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมาย พุทธศักราช
2481
ได้กล่าวถึงเรื่อง
“
การใช้สิทธิในสังหาริมทรัพย์ระหว่างการขนส่ง" ไว้
ในมาตรา
16
ซึ่งมีใจความสาระสำคัญดังต่อไปนี้
“
ให้ใช้กฎหมายแห่ง
ถิ่นที่ทรัพย์สินตั้งอยู่
บังคับแก่สังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์
อย่างไรก็ดี
ในกรณีการส่งสังหาริมทรัพย์ออกนอกประเทศให้ใช้
กฎหมายสัญชาติของเจ้าของทรัพย์
บังคับแก่ทรัพย์นั้นตั้งแต่เวลาส่งทรัพย์ออกนอกประเทศ
”
หลักกฎหมายขัดกันของรัฐเซียและของไทยมีความเหมือนและความแตกต่างกันในเรื่องดังต่อไปนี้
คือ
กฎหมายขัดกันของรัฐเซียและกฎหมายขัดกันของไทย มี
ความเหมือนกัน
ดังต่อไปนี้คือ
ตามหลักของกฎหมายโดยทั่วไปในเรื่องสัญญาของประเทศไทยนั้น ให้ถือ หลักการแสดงเจตนาโดยสุจริตและชอบด้วยกฎหมาย เป็นสำคัญ
กล่าวคือ
หากคู่สัญญาได้มีการแสดงเจตนาหรือได้ตกลงกันในเรื่องใดเป็นอย่างอื่นไม่เหมือนกับที่บัญญัติไว้ในกฎหมายของไทยไว้ในสัญญาโดยสุจริตไม่ได้ถูกบังคับหรือถูกฉ้อฉลให้แสดงเจตนาและไม่เป็นการขัดกับหลักกฎหมายและศีลธรรมอันดีของประชาชน
ให้ถือข้อตกลงดังกล่าวระหว่างคู่สัญญาเป็นข้อสรุปหรือข้อกำหนดในเรื่องนั้นๆ
หากเปรียบเทียบหลักการแสดงเจตนาของคู่สัญญา หรือ
Choice of
Law
กับกฎหมายในประเทศอื่น จะเห็นได้ว่า ทุกประเทศทั่วโลกรวมทั้งกฎหมายของรัฐเซียต่างให้ความสำคัญกับหลักทั่วไปนี้แทบจะทุกประเทศ
ยกตัวอย่างประเทศอังกฤษและประเทศต่างๆในยุโรปที่ป็นภาคีใน
EC Directive
ว่าด้วยเรื่องกฎหมายขัดกัน หรือ
Applicable Law
นั้น
มีหลักในการพิจารณาในปัญหาข้อกฎหมายโดยสังเขปดังต่อไปนี้
กล่าวคือ
(1)
ให้พิจารณาในเบื้องต้นก่อนว่าคู่สัญญาได้มีการแสดงเจตนาให้ใช้กฎหมายของประเทศใดบังคับใช้ก็ให้ถือว่ากฎหมายฉบับนั้นเป็น
Applicable Law
ที่จะใช้กำหนดเรื่องแบบ
( Formation)
ความสมบูรณ์หรือมีผลบังคับใช้
(Validity)
เรื่องสิทธิ หน้าที่ และเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
(2)
หากคู่สัญญาไม่ได้แสดงเจตนาที่จะเลือกใช้กฎหมายใดที่จะมาบังคับใช้ไว้ในสัญญา
ให้นำหลักในกฎหมายขัดกันมาปรับใช้เป็นกรณีๆไป
ดังนั้น เราสามารถ ยกเรื่องนี้ขึ้นมาวินิจฉัยกับปัญหาความเหมือนกันของกฎหมายขัดกันของไทยและกฎหมายขัดกันของรัฐเซียโดยได้บทสรุปดังต่อไปนี้ คือ
ประโยคแรกที่ว่า
“
เว้นแต่ในระหว่างคู่กรณีจะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่น
”
ตามมาตรา
1249
ของ
กฎหมายขัดกันของรัสเซีย
เป็นการบ่งชี้ให้เห็นว่า ประเทศรัฐเซียให้ความสำคัญกับหลักการแสดงเจตนาของคู่สัญญาเช่นเดียวกับประเทศไทย
จึงมีความเหมือนกันตามความที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น
2.
กฎหมายขัดกันของรัฐเซียและกฎหมายขัดกันของไทยมี
ความแตกต่าง
กันดังต่อไปนี้คือ
หากคู่สัญญาไม่ได้แสดงเจตนาที่จะเลือกใช้กฎหมายใดที่จะมาบังคับใช้ไว้ในสัญญา
ให้นำหลักในกฎหมายขัดกันมาปรับใช้เป็นกรณีๆไป
เมื่อนำหลักทั่วไปดังกล่าวข้างต้นนี้มาปรับใช้กับเรื่อง
“
การใช้สิทธิในสังหาริมทรัพย์ระหว่างการขนส่ง" ในกฎหมายขัดกันของไทยและ รัฐเซีย มีความแตกต่างดังต่อไปนี้
2.1
ขอบเขต
มาตรา
16
ตามกฎหมายขัดกันของไทย
มีใจความสาระสำคัญดังต่อไปนี้
“
ให้ใช้กฎหมายแห่ง
ถิ่นที่ทรัพย์สินตั้งอยู่
บังคับแก่สังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์
”
เมื่อทำการเปรียบเทียบบทกฎหมายของทั้งสองประเทศจะเห็นได้ว่า กฎหมายขัดกันของไทยได้ระบุในกรณีที่สังหาริมทรัพย์ไม่ได้ถูกขนส่งหรือถูกเคลื่อนย้ายไว้อย่างชัดเจนว่าให้ใช้กฎหมายแห่ง
ถิ่นที่ทรัพย์สินตั้งอยู่
บังคับแก่สังหาริมทรัพย์
ส่วนกฎหมายขัดกันของรัฐเซียไม่ได้ระบุเกี่ยวกับเรื่องนี้
ดังนั้นกฎหมายขัดกันของไทยจึงมีขอบเขตที่กว้างกว่ากฎหมายขัดกันขอรัฐเซีย
2.2
กฎหมายสาระบัญญัติ
มาตรา
1249
ของ กฎหมายขัดกันของรัสเซีย
มีใจความสาระสำคัญดังต่อไปนี้
“
ท่านว่าในเรื่องการใช้สิทธิ์ในทรัพย์สินและสิทธิ์อื่นๆในสังหาริมทรัพย์ในระหว่างการขนส่งตกอยู่ภายใต้สัญญาที่ถูกกำหนดตาม
กฎหมายของประเทศที่สังหาริมทรัพย์ได้ถูกส่งไป
”
มาตรา
16
ของ กฎหมายขัดกันของไทย มีใจความสาระสำคัญดังต่อไปนี้
“
อย่างไรก็ดี
ในกรณีการส่งสังหาริมทรัพย์ออกนอกประเทศให้ใช้
กฎหมายสัญชาติของเจ้าของทรัพย์
บังคับแก่ทรัพย์นั้นตั้งแต่เวลาส่งทรัพย์ออกนอกประเทศ
”
หลักตามกฎหมายขัดกันของรัฐเซียและไทยมีใจความสาระสำคัญที่แตกต่างกัน
กล่าวคือ
กฎหมายขัดกันของรัฐเซียระบุให้นำ
กฎหมายของประเทศที่สังหาริมทรัพย์ได้ถูกส่งไป
(
หลักถิ่นที่ทรัพย์ตั้งอยู่
)
มาบังคับใช้
ส่วนกฎหมายขัดกันของไทยให้นำกฎหมายสัญชาติของเจ้าของทรัพย์
(
หลักสัญชาติ
)
มาบังคับใช้ ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวอาจจะทำให้ได้ผลของกฎหมายที่แตกต่างกัน และหรือ ในข้อเท็จจริงที่เหมือนกันอาจต้องใช้กฎหมายที่แตกต่างกันมาบังคับใช้
กล่าวคือ
ประเทศที่สังหาริมทรัพย์
ได้ถูกส่งไป
อาจจะไม่ได้เป็น
ประเทศเดียวกับที่เจ้าของทรัพย์มีสัญชาติ
เช่น นาย
A
(
ผู้ซื้อมีสัญชาติรัฐเซียและเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เพราะได้มีการชำระราคาค่าสินค้าเรียบร้อยแล้วและเลือก
Incoterm
Ex Work
คือได้ซื้อสินค้าที่หน้าโรงงานโดยให้ขนส่งสินค้าในภายหลัง
)
และ
นาย
B (
ผู้ขายมีสัญชาติไทย
)
โดยผู้ซื้อได้ตกลงให้ นาย
B
ดำเนินการขนส่งสังหาริมทรัพย์จากประเทศไทยส่งไปยังประเทศอังกฤษให้แก่ตน
กรณีนี้คู่สัญญาไม่ได้แสดงเจตนาเป็นอย่างอื่นว่าให้ใช้กฎหมายใดบังคับใช้
ก็ให้นำกฎหมายขัดกันมาบังคับใช้
ตามกฎหมายขัดกันของรัฐเซีย
ให้นำ
กฎหมายของประเทศที่สังหาริมทรัพย์ได้ถูกส่งไป
กล่าวคือ กฎหมายของประเทศอังกฤษ
ส่วนกฎหมายขัดกันของ
ไทยให้นำกฎหมายสัญชาติของเจ้าของทรัพย์
กล่าวคือ กฎหมายของประเทศรัฐเซีย
จะเห็นได้ว่า ข้อเท็จจริงเหมือนกันแต่ใช้กฎหมายแตกต่างกันมาบังคับใช้ เพราะกฎหมายขัดกันในแต่ละประเทศได้วางหลักกฎหมายไว้แตกต่างกัน
ตามความคิดเห็นของผู้เขียน เห็นว่า ในกรณีสังหาริมทรัพย์ในระหว่างขนส่งนั้น
กฎหมายไทยควรเปลี่ยนแปลงไปใช้หลักถิ่นที่ทรัพย์ตั้งอยู่ หรือกฎหมายของประเทศที่สังหาริมทรัพย์ได้
ถูกส่งไป เหมือนของประเทศรัฐเซีย เพราะ หากนำหลักสัญชาติมาปรับใช้ในเรื่องทรัพย์นั้นจะมีความไม่แน่นอนและอาจมีปัญหาข้อกฎหมายมาสู่ศาลจำนวนมาก
สรุป
ในเรื่อง
“
การใช้สิทธิในสังหาริมทรัพย์ระหว่างการขนส่ง" ในกฎหมายขัดกันของไทยและ รัฐเซียเหมือนกันตามหลักทั่วไปเรื่องการแสดงเจตนา และแตกต่างกันในแง่ของขอบเขตและสาระสำคัญของหลักกฎหมายขัดกัน
เขียนใน
GotoKnow
โดย
นางสาว ภัทราพร พุทธมงคล
ใน
วิชาปัญหากฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล
คำสำคัญ (Tags):
#ปัญหากฏหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล
หมายเลขบันทึก: 50083
เขียนเมื่อ 14 กันยายน 2006 15:32 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:54 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
นางสาว ภัทราพร พุ...
สมุด
วิชาปัญหากฎหมายระ...
“การใช้สิทธิในสัง...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท