เสียงเพรียกจากข้างถนน : ไปกินข้าวกันเถอะ


พวกเค้าจะต้องทำอย่างไรที่จะสามารถมีที่ยืนในสังคมอย่างได้รับการยอมรับได้ มีเงินที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงมีอาชีพสุจริตที่ได้รับการยอมรับทำ แต่ก่อนอื่นพวกเราต้องยอมรับพวกเค้าก่อน แล้วเราพร้อมจะมอบโอกาสครั้งแรกนี้ให้กับชีวิตของพวกเค้าหรือยัง
ไปกินข้าวกันเถอะ

                เดือนกันยาที่ฝนฟ้าร่วงหล่นลงมาเยี่ยมเยือนกรุงเทพฯจนชุ่มฉ่ำไปทั่ว หลังจากหายหน้าไปเสียนานทำให้รู้สึกดีเป็นพิเศษเพราะ ตามความเชื่อของคนไทยในเมืองเกษตรกรรมแห่งนี้ ฤดูฝนเป็นฤดูแห่งการให้กำเนิด ฤดูแห่งความงอกงามและงอกเงยของพืชผล จึงถือได้ว่าเป็นฤดูแห่งการก่อเกิดและความอุดมสมบูรณ์โดยแท้ แม้วันนี้ฝนฟ้าจะตกไม่ต้องตามฤดูกาลและคอนกรีตไม่สามารถให้กำเนิดชีวิตจากน้ำฝนได้ก็ตาม แต่สำหรับผมก็ยังคงรู้สึกดีและมีอารมณ์ร่วมกับสายฝนเสมอมา น่าแปลกตรงที่เดือนนี้เป็นเดือนแห่งการประชุมสัมมนาสำหรับทีมงานอิสรชนโดยแท้ เพราะตอนนี้ตารางงานประชุมสัมมนายาวมาตั้งแต่ต้นเดือนไปจนถึงปลายเดือนเข้าแล้ว ทำให้เราทุกคนไม่กล้ามองเงากระจกกันไปเลย เพราะช่วงไหนก็ตามที่งานประชุมสัมมนาร่างกายจะขยายใหญ่ขึ้นทั้งๆที่พ้นวัยเจริญเติบโตมาก็นานพอดูแล้วสำหรับแต่ละคน  ยิ่งบางคนที่มีอายุหน่อยในทีมพอมีหน้าท้องพอกพูนเพิ่มขึ้น ยิ่งดูภูมิฐานเหมือนตาลุงแก่ๆเข้าไปทุกที แต่ทุกครั้งที่มีงานสัมมนาสิ่งหนึ่งที่เราอยากทำแต่ทำไม่ได้ซักที นั่นก็คือเก็บอาหารพกห่อออกมาจากงาน เพื่อเอาไปให้ลูกๆ(ศิษย์) เพราะคนเร่ร่อนในความดูแลของพวกเราไม่มีโอกาสที่จะเข้าไปกินอาหารในโรงแรมอย่างที่พวกเราได้กิน ทำให้พวกเราอดคิดถึงพวกเค้าไม่ได้ทุกครั้งที่เราเห็นอาหารบุฟเฟ่ต์ในโรงแรม นึกเห็นภาพเมื่อพวกเค้าจะต้องมายืนอยู่ตรงนี้ มีอาหารตั้งเรียงยาวยืดให้พวกเค้ามาเลือกตักเลือกหยิบไปกิน สภาพจะออกมาอย่างไร บางทีเรานึกเป็นเรื่องตลกว่า พวกนี้คงกอบและโกยอาหารมาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้มาไว้ในชามของตัวเอง แต่จากการคุยเล่นก็กลายเป็นแนวความคิดจริงๆขึ้นมาว่า ถ้าเราจะหาทางให้พวกเค้าได้กินอาหารดีๆอย่างนี้อย่างมีมารยาท ไม่ถูกสังคมและคนอื่นที่มองเข้ามาดูถูกเอาจะทำอย่างไร

         จึงเกิดเป็นแนวความคิดของกิจกรรม ชวนน้องกินข้าวนี้ขึ้นซึ่งแม้ตอนนี้เป็นแค่กิจกรรมที่เริ่มวางแผน แต่เราก็พร้อมรับสมัครผู้ที่สนใจ จะร่วมกิจกรรมนี้ของเราแล้ว โดยเนื้อหาของกิจกรรมคือ ผู้ที่สนใจจะต้องเสียเงินค่าอาหารบุฟเฟ่ต์โรงแรมให้เราหนึ่งมื้อ ในราคา 2 คน แล้วก็จูงมือคนเร่ร่อนที่คุณจ่ายค่าอาหารให้ เข้าไปทำกิจกรรมร่วมกันกับคุณตลอดทั้งวัน ที่สำคัญเราจะรับทานบุฟเฟ่ต์ร่วมกัน โดยคุณจะต้องเป็นครูสอนมารยาทให้กับคนเร่ร่อนในความดูแลของตัวเองด้วย แล้วมาลองดูกันว่าเราได้เรียนรู้อะไรจากกันและกันบ้างตลอดทั้งหนึ่งวันที่ผ่านมา เชื่อแน่ว่ากิจกรรมของเรา จะสามารถสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน และความเข้าใจให้เกิดขึ้น ระหว่างพวกเราทุกคน     

            โดยเราทุกคนจะมาร่วมสร้างความหวังและความฝันให้กับพวกเค้า โดยการวางเงื่อนไขในชีวิต สร้างความต้องการให้เกิดขึ้น ว่าวันนี้พวกเค้าได้รับโอกาสเข้ามารับทานอาหารโรงแรม รับรู้มารยาทในสังคม รับรู้การใช้ชีวิตในสังคมโดยมีคนนำพาพวกเค้าเข้ามาแล้ว แล้ววันต่อๆไปถ้าพวกเค้าต้องการจะเข้าไปอยู่ที่ตรงนั้นด้วยตัวเอง ต้องการจะมีพื้นที่ยืนในสังคม หรือแม้แต่ต้องการจะมอบโอกาสอย่างนี้ให้กับเด็กคนอื่นๆบ้างสักครั้งในชีวิต พวกเค้าจะต้องทำอย่างไรที่จะสามารถมีที่ยืนในสังคมอย่างได้รับการยอมรับได้ มีเงินที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงมีอาชีพสุจริตที่ได้รับการยอมรับทำ แต่ก่อนอื่นพวกเราต้องยอมรับพวกเค้าก่อน แล้วเราพร้อมจะมอบโอกาสครั้งแรกนี้ให้กับชีวิตของพวกเค้าหรือยัง

 กสิณ กสิกรรม


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท