ปัจจุบันภาครัฐ ได้มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร มาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการ และให้บริการประชาชนและภาคธุรกิจเอกชน เป็นการบริหารจัดการภาครัฐสมัยใหม่ที่ เรียกว่ารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ (e-Government) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ปรับปรุงการบริการแก่ประชาชน การบริการด้านข้อมูลและสารสนเทศเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ประชาชนมีความใกล้ชิดกับภาครัฐมากขึ้น สื่ออิเล็กทรอนิกส์ จึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเข้าถึงบริการของรัฐโดยจะต้องมีความร่วมมือจาก 3 ฝ่ายได้แก่ ภาครัฐ ภาคธุรกิจและประชาชน ผลพลอยได้ที่สำคัญ คือ หลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใส ที่มีมากขึ้นในกระบวนการทำงานของระบบราชการ อันเนื่องมาจากการเปิดเผยข้อมูล และประชาชนสามารถเข้ามาตรวจสอบได้ตลอดเวลา และยังเป็นการลดคอร์รัปชั่นอีกด้วย
http://www.kmitl.ac.th/agritech/nutthakorn/04093009_2204/isweb
การบริหารจัดการภาครัฐผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
1. ระบบการจัดการความเปลี่ยนแปลงของผู้นำ การบริการ e-Government เป็นการทำงานที่จะต้องใช้การตัดสินใจของผู้บริหาร เนื่องจากต้องอาศัยการตัดสินใจในการเปลี่ยนแปลง ทั้งกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีการปฏิบัติงาน นอกจากนั้น ยังต้องสนับสนุน คน เงิน งบประมาณ ให้มีจำนวนเพียงพอ และต่อเนื่อง ดังนั้นการพัฒนา e-Government จะต้องได้รับการผลักดันจากผู้นำประเทศ ให้ เกิดการเปลี่ยนแปลง ผู้นำจะต้องพัฒนาปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องในทุกองค์กรดังนี้ ความมุ่งมั่นของผู้บริหารในระดับองค์กร เช่น CEO จะต้องสนใจและมุ่งมั่น ในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และต้องทุ่มเททรัพยากรที่เกี่ยวเนื่อง ในการพัฒนาอย่างเต็มที่ โครงสร้างกระบวนการบริหาร และกฎหมายควบคุมต่างๆ จะต้องมีการปรับปรุงให้สามารถดำเนินงานได้ ตลอดจนปรับกระบวนการให้สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ระบบการจัดการโครงสร้างพื้นฐาน การให้บริการ e-Government จะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเข้าถึงการให้บริการ โดยสามารถแยกออกได้เป็นเรื่องต่าง ๆ ดังนี้ โครงข่ายการสื่อสารโทรคมนาคม ที่พร้อมใช้เพื่อการสื่อสาร และสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ทั่วถึง และเท่าเทียม ในกรณีนี้รัฐจะต้องเร่งพัฒนาเครือข่ายโทรคมนาคมรวมถึงปัจจัยอื่น ที่ทำให้กระแสสารสนเทศ สามารถส่งไปถึงประชาชนอย่างทั่วถึง ในราคาที่เป็นธรรม ฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ ต้องมีอย่างพอเพียงเพื่อให้ทั้งภาครัฐ และประชาชนสามารถใช้เครื่องมือในการให้บริการของภาครัฐ และภาคประชาชนในการเข้าถึงบริการต่าง ๆ ที่รัฐจัดทำให้ ฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสมกับท้องถิ่น และภูมิประเทศ เช่น ตู้บริการสาธารณะ (Kiosk) และศุนย์โทรคมชุมชน อาจจะใช้เป็นเครื่องมือที่รัฐสามารถจัดหา และส่งไปยังพื้นที่ต่างๆได้ ทรัพยากรมนุษย์ ข้าราชการ และประชาชนจะต้องมีการพัฒนาทักษะ และเรียนรู้ที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติงานและการให้และการรับบริการ เพื่อให้เกิดผลแบบพลวัตรอันเกิดจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกับชีวิตประจำวัน ในการทำงาน และความบันเทิง ตลอดจนมีความสามารถในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้
3. ระบบการจัดการความรู้และชุมชน ความสำเร็จของ e-Government ที่แท้จริงจะต้องมีเป้าหมายคือ ทำเพื่อประชาชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ดังนั้น "ความสำเร็จของการออกแบบการบริการ e-Government คือ การยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง" เนื่องจากประชาชนในประเทศไทย มีความแตกต่างกันมาก ทั้งในด้านของโอกาส และพื้นฐานการศึกษา คนกลุ่มนี้รวมถึง คนที่อยู่ในชนบท คนพิการ คนที่มีปัญหาทางภาษา และคนที่ไม่สามารถ ปรับตัวเข้ากับสังคมข้อมูลข่าวสารได้ ซึ่งเป็นจำนวนมากในประเทศไทย ความหลากหลายดังกล่าวทำให้การบริการ เหมือนๆ กัน ไม่สามารถกระจายสู่ประชาชนทุกกลุ่มได้เท่าเทียมกัน จึงต้องมีการจัดการอบรมให้แก่ประชาชนสามารถใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการรับรู้ข้อมูลสารสนเทศ เพิ่มขีดความสามมารถของประชาชนจำนวนมาก ให้เข้าถึงบริการของรัฐ เพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยทำให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ ระหว่างประชาชนและหน่วยราชการ เพิ่มความเชื่อมั่นของประชาชน ในการรับบริการอย่างปลอดภัย และเป็นส่วนตัว
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=modoko&date=27-01-2009&group
การสร้างความเชื่อมั่น ในการบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ หน่วยงานภาครัฐ ต้องมีการนำบริการจากภาครัฐ สู่ประชาชน โดยใช้อิเล็กทรอนิกส์เป็นสื่อในการให้บริการ โดยใช้หลักการของ ที่เดียว การพัฒนา e-Government ทำให้สามารถสร้างเว็บท่า (Web Portal) ที่สามารถบูรณาการบริการต่าง ๆ ที่เคยอยู่กระจัดกระจาย มารวมอยู่ที่เดียวกัน เพื่อให้ง่ายต่อประชาชนในการติดต่อที่จอเดียว หรือ หน้าต่างเดียวเพื่อบริการเบ็ดเสร็จ ทันใด รายการทางอิเล็กทรอนิกส์ สามารถทำได้และมีการตอบรับแบบทันที ไม่ต้องเสียเวลารอคอย การตอบกลับทางเอกสาร ทำให้งานต่างๆ ที่ต้องรอคำตอบนานๆ สามารถได้รับคำตอบในทันทีทันใด ทั่วไทย การใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้การเชื่อมโยงประชาชนชาวไทยไม่ว่าอยู่ที่ไหนในโลก ทุกเวลา เนื่องจากคอมพิวเตอร์แม่ข่าย และระบบอินเทอร์เน็ต สามารถเปิดไว้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แบบเดียวกับตู้ ATM ทำให้การบริการต่าง ๆ ที่เคยต้องทำในเวลาราชการ สามารถทำได้ตามที่ประชาชนสะดวก ทั่วถึง และเท่าเทียม การให้บริการ e-Government ทำให้ประชาชน และผู้ด้อยโอกาส จะได้มีโอกาสในการรับบริการ โดยไม่ต้องเดินทาง และประชาชนที่ด้อยโอกาสสามารถรับบริการที่สะดวกสบาย เช่นเดียวกับประชาชนในเมือง ได้อย่างเท่าเทียมกัน โปร่งใส และเป็นธรรมภิบาล การบริการ e-Government ทำให้บริการของรัฐในหลายๆ เรื่องที่เคยไม่โปร่งใส เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง เป็นต้น สามารถดำเนินการ แบบเปิดเผยผ่านระบบออนไลน์ ที่มีผู้เข้าร่วม และรู้เห็นจำนวนมากได้ มีการคาดการณ์ว่าการทำให้โปร่งใสและเป็นธรรม
ขอขอบคุณ 03 อรดี ลีลาศ ,03 เสาวภา สุภาษร, 02 ชฎารัตน์ ปุระมาปัด ที่แวะมามอบดอกไม้ เป็นกำลังใจ
ขอขอบคุณท่าน ผศ.วิไล แพงศรี มากค่ะ ที่แวะเข้ามามอบดอกไม้เป็นกำลังใจ
ขอขอบคุณ ท่าน Somsri มากค่ะ ที่ได้เข้ามามอบดอกไม้เป็นกำลังใจ
ขอขอบคุณ EGA ที่แวะเข้ามามอบดอกไม้เป็นกำลังใจ