๑๔ วันที่ ปักกิ่ง (วันที่ ๙)

วันที่ ๒๓ สิงหาคม

วันนี้ออกจากที่พัก แต่เช้าครับ ๐๘๐๐ น. มี นักศึกษา Post-Doc มาดูแล ชื่อ Dr. Wein Jun Gao มาพาผมเข้าชุมชน Community ในที่นี้คือคอมมูนแบบดั้งเดิม อยู่ไม่ไกลจากที่พัก แต่ทาง CASS กลัวผมไปไม่ถูก กิจกรรมวันนี้ผมได้อานิสงค์จากคณะดูงานของไต้หวันครับ เขากำหนดมาดูงานอยู่แล้ว เลยพ่วงเข้าไป ทั้งไต้หวัน ไทยแลนด์ ออกจากที่พักน้องที่พาไปกลัวจะไม่สะดวกเลยจะไปแท็กซี่ แต่โบกอยู่นาน ผมเลยเสนอให้ไปรถใต้ดินแล้วต่อรถบัส นั่งรถใต้ดินสาย ๒ จาก Beijing Railway Station ไปลงที่สถานี Fuxinmen แล้วต่อสาย ๑ ไปสถานี Muxidi จากนั้นต่อรถเมล์สาย  ๔๐ ไปก็ถึงทีนัดหมาย ชุมชนYuetan ,Xicheng  District (e-mail:[email protected]) เป็นคอมมูนดั้งเดิมในปักกิ่งอายุประมาณ ๖๐ ปี ช่วงหลังปฏิวัติเลยครับ แต่เดิมเป็นชุมชนคนงานใคอมมูนโรงงานผลิตรถยนต์ครับ ปัจจุบันไม่มีแล้ว ประชากรจากเดิม ๒๘๐๐ กว่า ตอนนี้ ๖๐๐๐ กว่าครับ สภาพชุมชน เป็นสีเหลี่ยมบล็อค เลยครับ นี้มีทุกอย่าง ที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร โรงเรียน สถานีตำรวจ ตามความจำเป็นที่มีได้ครับ

วันนี้คณะของผมนำโดย Prof.Dr.WANG Ying, Dr. Lijie Fang ,Dr. Wein Jun Gao จาก Institute of Sociology CASS และทางไต้หวัน ๓ คน คือ Prof. Dr. HU Meng Ching Department of Adult and Continuing Education National Chung Cheng University Taiwan , Mr. WU Ming Ju จากที่เดียวกัน และอาจารย์อีกสุภาพสตรีอีกคน(ลืมชื่อครับ) รวมทั้งหมด ๗ คน เข้าไปชุมชน โดยมีประธานชุมชน ต้อนรับ ท่านประธานชุมชน อายุ ๘๐ ปี แล้วยังแข็งแรงอยู่ พร้อมทีมงาน มาบรรยายสรุปครับ ทั้ง๖ คน ฟังภาษาจีนได้หมด เหลือผมที่ต้องฟังผ่าน Dr. Wein ที่ช่วยแปลให้ ช้ากว่าหน่อย หัวเราะทีหลัง เข้าใจทีหลังครับ โดยรวม การทำงานของชุมชนเป็น NPO(Non-Profit Organization) ดูแลชุมชนเอง ภายใต้การกำกับของท้องถิ่น ประมาณ อบต.บ้านเรานะครับ ที่นี่ส่วนใหญ่เหลือผู้สูงอายุที่เกษียณแล้วครับ กิจกรรมหลักที่ชุมชนจัดคือ adult college, elderly care center และ occupation skill training school ครับ งบประมาณมาจากท้องถิ่น และเก็บจากคนในชุมชนบ้าง ทางชุมชนมีกระบวนการทำงานเป็นเครือข่ายเขาเรียกอย่างนี้ มีชุมชนเป็นศูนยกลางและช่วยงานกัน มีการให้คำปรึกษาปัญหาชุมชนทางออนไลน์ และ โทรศัพท์  ในส่วน adult college จัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยเช่นการเขียนอักษรจีน ศิลปะ ดนตรี กีฬาเพื่อสุขภาพ ให้กับผู้สูงวัยทั้งหลาย เรียกว่าเดินลงมาจากห้องทำกิจกรรม เย็นกลับไปที่ห้องไม่ต้องออกมานอกชุมชนเลย ส่วน elderly care center บริการผู้สูงอายุแบบประจำ ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่ดูแลตนเองไม่ได้ (www.zglry.org) มีค่าบริการตามสภาพอาการของผู้สูงอายุนั้น ทางศูนย์มีบริการส่งอาหารกลางวันให้ผู้สูงอายุที่อยู่ในบ้านคนเดียว โดยใช้จักรยานส่งตามชุมชน และมีค่าบริการายเดือน ปัญหาที่พบในชุมชน คือเด็ก เยาวชน ไม่ได้เข้ามาช่วยชุมชนในการทำงานมากนักมีแต่ปู่ย่าตายาย ทำให้ช่วงในการทำงานขาดไปและเยาวชนไม่เรียนต่อ ไม่อยากทำงานหนัก ทางชุมชนมีโรงเรียนฝึกอาชีพอยู่ก็จัดหลักสูตรงานที่เด็ก เยาวชนต้องการ คือ Airline Business จำพวกทำเรื่องตั๋วเครื่องบินออนไลน์ ประมาณเด็กไม่อยากทำงานหนัก ไม่อยากเจอคน ทำงานกับคอม น่ะครับ ตามลิ้งค์นี้ครับ (www.jxfw.org.cn) สอบถามแล้วครูใหญ่เป็นคนในชุมชน ทำงานกินเงินเดือน อบตนี่แหละ แต่หลักสูตร สามารถบริหารเอง เรียนหลักสูตร ๑ เดือน ค่าเรียน ๓,๐๐๐ หยวน สามารถทำงานด้าขายตั๋วเครื่องบินได้ ก็มีรายได้อย่างน้อย เดือนละ ๓,๐๐๐-๕,๐๐๐ หยวน ก็อยู่ในชุมชนได้ กระบวนการจัดการเรียนรู้ของชุมชน ที่นี่สามารถอยู่ได้แต่ไม่แน่ใจว่าจะอยู่ได้นาน เท่าใดครับ ในเมื่อความเจริญรอบด้านเข้ามาล้อมรอบอยู่แล้ว

ช่วงกลางวัน ทางทีมพาไปกินอาหารของมณฑลหูหนาน ครับ ร้านใกล้ชุมชน เพื่อที่จะได้ทำงานต่อ มณฑลหูหนานนี้อยู่ทางใต้ของจีนนะครับ เป็นมณฑลเกิดของท่านประธานเหมา รสชาติอาหารเยี่ยมครับ มีรสเผ็ด มีแกงกะทิคล้ายแกงเผ็ดบ้านเราครับ

 

แถมท้ายเรื่องไต้หวันครับ โชคดีมากวันที่มาลงชุมชนกับคณะทางไต้หวัน ท่านอาจารย์ Prof. Dr. HU Meng Ching Department of Adult and Continuing Education National Chung Cheng University Taiwan (www.ccu.edu.tw) ท่านอยู่วงการเดียวกันกับเรา พูดคุยกันรู้เรื่องดีครับ นอกจากนี้ท่านยังเป็น President, Taiwan Active Aging Association เป็นองค์กรที่ทำงานด้านผู้สูงอายุ ท่านยินดีที่จะต้อนรับเราที่มหาวิทยาลัยของท่าน ที่ภาควิชาท่าน มีอาจารย์ ๑๕ คน นิสิต ป โท และเอก พอสมควรพอท่านถามถึงจำนวนอาจารย์ของภาควิชา กญ เรา  ท่านก็สงสัยว่าทำไมเราถึงอยู่ได้  อย่างไรก็ตามท่านออกปากชวนไปดูงาน หรือสัมมนาที่ไต้หวันทั้งที่ มหาวิทยาลัยของท่าน และ องค์กรที่ท่านเป็นประธานอยู่ ซึ่งพอดีกับผมอาจจะได้ทุน สกว ทำวิจัยเรื่องการศึกษานโยบายทางศึกษาของประเทศเอเซียตะวันออก : เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ในเร็วๆนี้ก็คงจะได้มีโอกาสไปคารวะกันสักจอก รวมถึงนิสิตของเราด้วยครับ ถ้ามีโอกาสคงได้ไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน