Project Approach
การเรียนการสอนแบบโครงการ
“ ประสบการณ์และการสืบค้นหาความรู้ตามความสนใจเป็นรากฐานของการเรียนรู้อย่างมีความหมาย ด้วยการได้ค้นพบในสื่งที่ต้องการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างมีแบบแผน ”
หลักการ
การเรียนการสอนแบบโครงการ ( Project Approach ) ได้นำแนวคิดของ John Dewey มาประยุกต์เป็นรูปแบบการเรีนยการสอน โดยมีหลักสำคัญคือ การพัฒนาเด็กสามารถทำได้ด้วยการให้เด็กเป็นผู้รู้จักแสวงหาความรู้ ความร่วมมือและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เพื่อค้นคว้าหาคำตอบในเรื่องที่ตนเองสนใจ เด็กสามารถสร้างการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นได้ในตัวเด็กเอง
โครงการการคือ การสืบค้นหาข้อมูลอย่างลุ่มลึก ตามหัวข้อเรื่องที่เด็กสนใจ เน้นให้เด็กกระทำอาจเป็นรายบุคคลหรือรายุล่มก็ได้ ดครงการนั้นจะต้องประกอิบด้วยทฤษฏีและหหลักการ มีการดำเนินงานเป็นขั้น ๆ โดยใช้วิชาหลาย ๆ วิชาที่เกี่ยวข้องมาบรูณาการ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ระยะเวลาทำโครงการขึ้นอยู่กับเรื่องที่เด็กสนใจ
กระบวนการ
โครงการถือเป็นการเรียนรู้ที่เต็มไปด้วยความหมาย เหมาะกับพัฒนาการเด็ก เป็นการศึกษาอย่างลุ่มลึกในช่วงเวลาที่สามารถได้ตามความสนใจของเด็ก โดยมีกิจกรรมหลักในการทำโครงการดังนี้
กิจกรรมทั้ง 4 กิจกรรม เด็กจะได้เรียนรู้ในแต่ละระยะของโครงการ ซึ่งมีอยู่ 4 ระยะ ( บางตำราแบ่งเป็น 3 ระยะ )
ระยะที่ 1 เริ่มต้นโครงการ เป็นขั้นตอนที่เด็กและครูร่วมกันอภิปรายเพื่อเลือกหัวข้อเรื่องที่จะทำการสืบค้น โดยให้หลักเกณฑ์ดังนี้
ระยะที่ 2 วางแผนโครงการ เป็นขั้นตอนการกำหนดจุดประสงค์ ขอบเขตเนื้อหาที่ต้องการศึกษา
ระยะเวลาและวิธีการศึกษา
ระยะที่ 3 ดำเนินการ เป็นขั้นตอนของการดำเนินโคตรงการตามแผนที่กำหนด ระยะนี้ถือเป็นหัวใจของโครงการ ครูจะเป็นผู้จัดหา จัดเตรียมแหล่งข้อมูลให้เด็กสืบค้น ไม่ว่าจะเป็นของจริง หนังสือ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ หรือแม้แต่การออกไปศึกษานอกสถานที่หรือนัดหมายผู้เชี่ยวชาญ วิทยากรท้องถิ่น เพื่อให้เด็กทำการสืบค้นสังเกตอย่างใกล้ชิดและบันทึกสิ่งที่พบเห็น อาจมีการเขียนภาพที่เกิดจากการสังเกต จัดทำกราฟ แผนภูมิไดอะแกรม หรือสร้างแบบต่างๆ สำรวจ คาดคะเน มีการอภิปราย เล่นบทบาทสมมติเพื่อแสดงความเข้าใจในความรู้ใหม่ที่ได้
ระยะที่ 4 สรุปผลโครงการ เป็นระยะสรุปเหตุการณ์ รวมถึงการเตรียมการเสนอรายงานและผลที่ได้ในรูปของการจัดแสดง การค้นพบ และจัดทำสิ่งต่างๆ สนทนา เล่นบทบาทสมมติ หรือจัดนำชมสิ่งที่ได้จากการก่อสร้าง ครูจะจัดให้เด็กได้แลกเปลี่ยนสิ่งที่ตนเรียนรู้กับผู้อื่น เด็กสามารถช่วยกันเล่าเรื่องการทำโครงการให้ผู้อื่นฟัง โดยจัดแสดงสิ่งที่เป็นจุดเด่นให้เพื่อนในชั้นเรียนอื่น ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง และ ผู้บริหารได้เห็น ครูจะช่วยเด็กเลือกวัสดุอุปกรณ์ที่จะนำมาแสดง ซึ่งการทำเช่นนี้เท่ากับช่วยให้เด็กทบทวนและประเมินโครงการทั้งหมด ครูอาจเสนอให้เด็กได้จินตนาการความรู้ใหม่ที่ได้ผ่านทางศิลปะ ทางละคร สุดท้ายครูนำความคิดและความสนใจของเด็กไปสู่การสรุปโครงการ และอาจนำไปสู่หัวเรื่องใหม่ของโครงการต่อไป
ที่มา : กุลยา ตันติผลาชีวะ,รศ.ดร.รูปแบบการเรียนการสอoปฐมวัย.
กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์มิตรสัมพันธ์ กราฟฟิค,2551
กิตติคุณ สุมนอมรวิวัฒน์,และคนอื่นๆ.รวมนวัตกรรมทฤษฏี
การศึกษาปฐมวัยสู่การประยุกต์ใช้ในห้องเรียน.
พิมพ์ครั้งที่2.กรุงเทพฯ:สำนักพิมพ์สาราเด็ก,2552
Project Appoach ทั้ง 4 ขั้นตอน เป็นระบบ ที่น่าจะได้ผล ผลิต และผลลัพธ์ ที่ดีนะคะ "นักเรียน" จะเป็น "ศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ ...อย่างแท้จริง"
ขอบคุณมากนะคะ กับบทความดีดี มีประโยชน์ จริงๆ"
การเรียนการสอนแบบโครงการ หรือ การเรียนรู้คู่การปฏิบัตินั่นเอง...ขอบคุณครับ