1. ห้องตรวจสวนหัวใจ Cath.Lab
จะวินิจฉัยโรครักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดแพทย์ที่ทำการรักษา แพทย์สาขาอายุรกรรมหัวใจและหลอดเลือด เป็นสายขาดแคลน
2. ในห้อง มี single plane คือ มองได้ด้านเดียว และ bi plane คือ มองได้
ทั้ง 2 ด้าน ทั้ง frontal view และ lateral view เป็นเครื่องสวนหัวใจ โดยจะมี X-ray ถูกปล่อยออกมา ทำให้บุคคลที่ปฏิบัติการ ได้แก่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พยาบาลผู้ช่วย นักรังสี และ นักเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก ต้องใส่อุปกรณ์กันรังสี คือ เสื้อตะกั่ว และ แว่นกันรังสี
3. ห้องอุปกรณ์ มีหลากหลายหัตถการ ได้แก่ สายสวนต่างๆ ลวดนำ และ Balloon
4. ผู้ป่วยที่ทำรักษา จะมี 2 ประเภทคือ ผู้ป่วยเด็กและผู้ป่วยผู้ใหญ่
4.1 ผู้ป่วยเด็ก มักเป็นแบบพิการแต่กำเนิด รักษาโดย Non-invasive คือ วิธี
ECHO, X ray, CT, MRA เป็นแบบไม่ใส่สายเข้าไปในคนไข้ จะมองเห็นแต่ภาพรอบนอก แล้วดูพยาธิสภาพ จากนั้นก็วางแผนรักษา
4.2 ผู้ป่วยผู้ใหญ่ จะทดสอบโดยการวิ่งสายพาน (วิ่งออกกำลังกาย) ดู EKG แล้วดูความผิดปกติ จะรักษาโดย non-invasive เช่น CT หรือ MRI แต่หากจะวินิจฉัยว่ามีความผิดปกติที่ส่วนไหน อย่างไร ให้แน่ใจ 100% ก็ให้ใช้วิธี cardiac cath
คนไข้ที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด จะมีภาวะที่ซับซ้อน จึงต้องฉีดสี ทำ Angiogram คือการทำ cardiac cath จะสามารถเห็นว่าเส้นเลือด หรือ ลิ้นหัวใจผิดปกติที่ไหน อย่างไร โดยฉีดสีจะฉีดผ่านสายสวยเฉพาะ คำนวณปริมาณสีที่ฉีดเข้าไปตามน้ำหนักตัว ส่วนมากไม่เกิน 5 cc ต่อ น้ำหนัก 1 กิโลกรัม
Cardiac cath จะแตกต่างจาก X-ray ตรงที่ว่า X-ray จะได้ภาพนิ่ง แต่ Cardiac cath จะได้ภาพแบบ cinema คล้ายภาพยนตร์เป็นภาพต่อเนื่อง
5. Stem cell ปัจจุบันยังเป็นเพียงการทดลอง ยังไม่มีการทำมาใช้รักษาจริง
6. คนไข้ ที่มารักษาในรพ.ศรีนครินทร์โดยวิธี PCI มีประมาณ 1,000 รายต่อปี
เส้นเลือดของหัวใจมี 2 เส้นใหญ่ๆ คือ left coronary และ right coronary และมีแขนงย่อยๆมีมาก หากเส้นเลือดตีบ 1-2 เส้น ในตำแหน่งที่ไม่สำคัญ ก็จะรักษาโดยวิธีการ balloon แต่หากตีบตัน 3 เส้นขึ้นไป จะรักษาโดยวิธี by pass คือ ผ่าตัด โดยใช้เส้นเลือดที่ แขน หรือ ขา มาทดแทน (ห้ามใช้เส้นเลือดเทียม) (แต่ถ้าไม่ใช้ by pass ของเส้นเลือดที่หัวใจ เช่น เส้นเลือดที่จะไปฟอกที่ไตตีบ ก็ใช้เส้นเลือดเทียมแทนได้)
7. คนไข้ที่มาพบจะมี 2 ประเภทคือ แบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรัง
- แบบเฉียบพลัน คือ หลอดเลือดแขนงใด แขนงหนึ่งตีบตัวชั่วขณะ กล้ามเนื้อหัวใจจะขาดเลือดไปเลี้ยงชั่วคราว จะมาด้วยอาการเจ็บหน้าอกชั่วขณะ
- แบบเรื้อรัง คือ เส้นเลือดหัวใจอุดตันถาวรกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปเลี้ยง เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจตาย จะมีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง เกิดอาการหัวใจวาย เป็นอันตรายถึงชีวิตเรียกกว่า โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย แต่ส่วนใหญ่ที่มาพบคือ จะเจ็บหน้าอก เหนื่อย ไม่มีแรง เพราะหัวใจบีบตัวไม่ดี แสดงว่าหัวใจขาดเลือดเพราะเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบ
คนไข้ที่มาพบ จะมีตั้งแต่เด็กแรกเกิด (congenital heart disease) จนถึงผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบันที่น่าตกใจคือ ผู้หญิงวัย 25 ปี ที่ไม่เคยเป็นโรคอะไรเลย ก็เป็นโรคนี้ได้ โดยมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง หรือเครียด (ความเครียดทำให้ไขมันสะสมเพิ่มขึ้น) หรือผู้ชายวัน 26 ปีที่เป็น heavy smoking (สูบบุหรีวันละ 2 ซอง) ก็เป็นโรคนี้เช่นกัน ดังนั้น เรื่องของพฤติกรรมมีส่วนสำคัญมากไม่แพ้เรื่องอายุที่เป็นสาเหตุให้เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ
1 | 553070012-2 | นายจิรเดช เลิศประเสริฐกุล |
2 | 553070045-7 | นายปฐวี แสงมงคลพิพัฒน์ |
3 | 553070088-9 | นางสาวเพ็ญพิสุทธิ์ ตั้งกฤตยกวิน |
4 | 553070015-6 | นางสาวชญานิศ วัฒนาชีพ |
5 | 553070041-5 | นายนันท์นภัส เกตุดาว |
6 | 553070074-0 | นายวิมุติ โลหะทิน |
7 | 553070126-7 | นางสาวณัฐชยา บุญสาร |
8 | 553070156-8 | นางสาวปณิดา ตปนียากร |
9 | 553070135-6 | นายเทอดธรรม อุปัชฌาย์ |
10 | 553070205-1 | นางสาวสโรชา มัชฌิกะ |
11 | 553070092-8 | นางสาวกมลทิพย์ จันทรสาขา |
12 | 553070141-1 | นายธมกร แดงศรี |
13 | 553070155-0 | นายบดินทร์ ตันติอนุนานนท์ |
14 | 553070227-1 | นายเอกวุฒิ มั่นคง |
15 | 553070225-5 | นางสาว อัญชลีพร ศรีนาทม |
16 | 553070095-2 | นางสาวกรองแก้ว สายเมฆ |
17 | 553070094-4 | นายกรธวัช ฉัตรรัตนเวช |
18 | 553070254-8 | นายนนท์ ปานทองเสม |
19 | 553070238-6 | นางสาวภัสสร ตุงควิจิตรวัฒน์ |
20 | 553070241-7 | นายนิธิวัฒน์ ศิริจันทร์ |
อาจารย์ที่ปรึกษา ศาสตราจารย์ นายแพทย์พิศาล ไม้เรียง
ได้เห็นห้องตรวจสวนหัวใจครั้งแรกเลย ขอบคุณมากๆครับ