ตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมาเป็นการเริ่มต้นฝึกงานทางจิตเวชครั้งแรกของข้าพเจ้า มีความรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะทราบมาว่าการฝึกงานทางจิตต่างจากการฝึกในโรงพยาบาลทั่วไป อีกทั้งเมื่อพูดขึ้นมาว่าผู้ป่วยทางจิตเป็นใคร ใครก็รู้สึกกลัวไปครึ่งหนึ่งแล้ว
วันแรกของการฝึกงานตั้งใจเพื่อเข้ามาเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ถึงแม้ว่าตนเองจะมีแนวทางที่มุ่งเป้าในการทำงานแล้ว แต่ก็ไม่คิดจะปิดใจที่จะเรียนรู้ในผู้ป่วยจิตเวช การฝึกงานที่ผ่านมาข้าพเจ้ามีโอกาสได้เรียนรู้บุคคลที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น "จิตเภท" หรือ "Schizophrenia"
โรคจิตเภทนั้นเป็นกลุ่มอาการที่มีความผิดปกติทางความคิด ซึ่งมี 2 ลักษณะคือ กลุ่มที่มีอาการทางบวก กับกลุ่มที่มีอาการทางลบ
ในกลุ่มอาการทางบวกนั้นจะพบอาการดังนี้
อาการที่มีเพิ่มมากกว่าคนปกติทั่วไป ได้แก่
- ประสาทหลอน เช่น ได้ยินเสียงคนพูดคุย ได้ยินเสียงคนพูดตำหนิ พูดโต้ตอบเสียงนั้นเพียงคนเดียว
- อาการหลงผิด เช่นคิดว่ามีเทพวิญญาณอยู่ในร่างกาย คอยบอกให้ทำสิ่งต่างๆ
- ความคิดผิดปกติ เช่นพูดไม่เป็นเรื่องเป็นราว พูดไม่ต่อเนื่อง เปลี่ยนเรื่องพูด
โดยไม่มีเหตุผล
- พฤติกรรมผิดปกติ เช่นอยู่ในท่าแปลกๆ หัวเราะหรือร้องไห้ สลับกันเป็นพักๆ
ในกลุ่มอาการทางลบนั้นจะพบอาการดังนี้
อาการที่ขาดหรือบกพร่องไปจากคนปกติทั่วๆไป ได้แก่
- สีหน้าอารมณ์ฌฉยเมย ชีวิตไม่มีจุดหมาย ไม่มีสัมพันธภาพกับใคร ไม่พูด
ไม่มีอาการยินดียินร้าย
ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นเหล่านี้ส่งผลต่อการทำกิจกรรมการดำเนินชีวิต เช่น บกพร่องความสามารถในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น การใช้ชีวิตในสังคมร่วมกับผู้อื่น การดูแลตนเอง ความสามารถในการรับรู้ความเข้าใจต่อตนเองและผู้อื่น
ในขณะที่ข้าพเจ้าสัมภาษณ์หรือพูดคุยในขณะทำกิจกรรมนั้นจะสังเกตเห็นพฤติกรรมที่แสดงออกมา เช่น
- ผู้ป่วยมักพูดสับสนในการสนทนา บางรายตอบไม่ตรงคำถาม หรือไม่เข้าใจคำถามง่ายๆ บางรายพูดมาก แต่ไม่เข้าประเด็น
- ผู้ป่วยบางรายแยกตัวออกจากสังคม ไม่สนทนากับใครก่อน ไม่สามารถเริ่มต้นการมีปฏิสัมพันธ์ หรือสานต่อปฏิสัมพันธ์ได้
- ไม่มีเป้าหมายในการดำเนินชีวิต หรือเป้าหมายในอนาคต ชอบอยู่เฉยๆ ไม่ชอบทำกิจกรรมอะไรเลย
- ไม่สามารถบอกความต้องการ หรือ ความสนใจ หรือความชอบของตนเองได้ หรือบอกได้แต่ไม่สามารถบอกเหตุผลส่วนบุคคลได้ อธิบายไม่ได้
- บางรายมักเคลื่อนไหวตัวตลอดเวลา เช่น นั่งโยกตัว , ตาหลุกหลิก, ก้มเงยศีรษะ , อมน้ำลายตนเอง
ข้าพเจ้าจะตั้งใจเรียนรู้เพื่อไปทำประโยชน์ให้แก่สังคมต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก
1. หน่วยงานสุขภาพจิตและจิตเวชชุมชน รพ.ศรีธัญญา ติวานนท์ นนทบุรี
2. ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ไม่มีความเห็น