บทบาทของแม่


เป็นแม่ที่ดีนั้นเป็นโดยสัญชาตญาณ

 "แม่"  "ยาย" ย่า" มีลูก 8 มีหลาน 13  มีเหลน 12  "กราบเท้าแม่ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงนะคะ"  ณ  วันนี้ แม่อายุได้ 79 แล้ว พี่คนโตสุดอายุ 56 แล้ว อีก ไม่กี่ปีก็เกษียณ ส่วนน้องคนเล็กของครอบครัว  อายุ  39 แล้ว แต่ในสายตาของแม่ พวกเราเป็นเด็กอายุแค่ 8-9 ขวบ ในสายตาของแม่เท่านั้น ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวที่ใหญ่มาก พี่น้องร่วม 8  คน  ณ  โอกาสที่จะแสดงความรักนั้นแทบจะไม่มี  แต่ภารกิจที่ลูกทุกคนต้องทำคือมาทานข้าวกับแม่ ทุกวันศุกร์ และวันอาทิตย์ ไม่มีใครบอกแต่ทุกคนรู้ดัวยใจ  ในฐานะที่แม่มีลูกมากแบบนี้ ไม่มีหรอกที่แม่จะมานั่งกอดคนนั้นคนนี้ พวกเราไม่เคยแสดงความรักเหมือนในหนัง ในทีวี แต่พวกเราไม่เคยน้อยใจ ที่บ้าน (แม่เคยเล่าให้ฟัง) บ้านนอกคอกนาของเรา พี่คนโตต้องเลี้ยงน้อง คนที่สาม สี่ ส่งไปอยู่กับปู่ย่า  บ้างก็อาจจะอยู่กับตาและยาย เรียกว่า แจกลูกให้เลี้ยงดูกันทุกฝ่าย ในบรรดาญาติ ๆ  สส่วนแม่ต้องทำนา ไม่รู้กี่หลายร้อยไร่ จึงจะมีข้าวเหลือกินเหลือเก็บไว้ยามขาดแคลน ทั้งพ่อและแม่ของลูกๆ เป็นทั้งนักเศรษฐศาสตร์  นักวางแผน  และเป็นทั้งธนาคารของลูก เมื่อยามขัดสน  เป็นแก้ววิเศษที่เสกทุกๆ อย่างให้ลูก ๆ ตามกำลังที่มี  แต่ในใจแม่คงเหนื่อยสายตัวแทบขาด เราจะเป็นคนใกล้ชิดแม่มากที่สุดด้วยเป็นลูกคนเล็ก ไม่ว่าจะไปไหนกินนอน ต้องตามแม่ตลอด  ความผูกพัน อาจจะลึกซึ้งกว่าคนอื่นในบรรดาพี่น้อง  และความหวังอันสุงสุดของพ่อและแม่คืออยากเห็นลูกได้ทำงานรับราชการ (ครู) คือความหวังของพ่อมากที่สุด แม่ก็คงเหมือนกันแต่แม่ไม่พูด เมื่อศึกษาจบได้รับปริญญา แม่แค่บอกว่า ดีแล้วที่จบต่อไปต้องแข่งขันสอบทำงานทำการ วันรับปริญญาแม่มาแค่ตอนเช้า แม่จะทำเหมือนไม่ค่อยสนใจ และไม่แสดงออก  ในใจเรานั้นอยากจะพาพ่อและแม่ไปเที่ยวกรุงเทพฯ อย่างน้อยก็จะได้ไปพักผ่อนในรอบ 50-60 ปีของพ่อแม่ แต่แม่ปฏิเสธ  ซึ่งเรารู้ว่าแม่กลัวว่าลูกจะสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ  ให้พ่อไปคนเดียวก็พอแล้ว พี่สาว พี่ชาย บางคนก็ อยู่ที่  กทม. แล้ว และหวังให้แม่ไปเที่ยวบ้าง  คำตอบคือ  "แม่ขออยู่เฝ้าบ้านดีกว่า" ยังงัยก็ไม่ไปว่างั้นเถอะ

        จนวันนี้ แม่อายุ 79 แล้วแม่ไม่เคยเรียกร้องอะไร ในหมู่บ้าน เรียกแม่ว่า "สตรีเหล็ก" น้อยนักที่จะเจ็บป่วย  ถึงวันนี้บางครั้งแม่จะบ่น จนเรารำคาญ เคยว่าจนเราน้อยใจ และไม่เคยตามใจลูก ซักคนเดียว เมื่อลูก ๆ โตกันทุกคนแม่จะมองว่าใครสามารถเลี้ยงตนเองได้  และใครอ่อนแอ และน่าเป็นห่วงมากที่สุด แม่จะคอยมองและเอาใจใส่ คนนั้นแทน เป็นอย่างนี้เรื่อยมา แต่ในฐานนะที่เป็นลูกเรายังตอบแทนบุญคุณของแม่ไม่ได้เท่าเสี้ยววินาทีที่ท่านปรารถนาดีให้กับลูก ๆ  เลย 15-16 ปี ที่อยู่ดูแลท่านมาหากบุญวาสนามีจริงขออนุโมธนาสาธุให้แม่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง  อายุยืนยาม เป็นร่มโพธิ์  ร่มไทร ของลูกหลาน ตลอดไป  และอยากบอกแม่ว่า "ลูกรักแม่"

หมายเลขบันทึก: 498692เขียนเมื่อ 15 สิงหาคม 2012 10:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 สิงหาคม 2012 11:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

บทบาทของแม่....วัย 79 ปี==>เธอคือหญิงเหล็ก นะคะ

 

ขอบคุณบทความดีดีนี้นะคะ

ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ

สวัสดีค่ะ Blank มู๋อ้วน  จริงที่เหมือนที่มู๋อ้วนพูดค่ะที่ว่า    ใครอ่อนแอ และน่าเป็นห่วงมากที่สุด แม่จะคอยมองและเอาใจใส่ คนนั้นแทน เป็นอย่างนี้เรื่อยมา แต่ในฐานนะที่เป็นลูกเรายังตอบแทนบุญคุณของแม่ไม่ได้เท่าเสี้ยววินาทีที่ท่านปรารถนาดีให้กับลูก ๆ 

   ต่อนี้ไปเราต้องรักและเข้าใจการกระทำของท่านให้มากๆ 

บทบาทของแม่....แค่Careไม่พอ...ต้องกอดมากๆๆนะคะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท