ความรักของแม่ คือ รักแท้อันบริสุทธิ์ สายใยแห่งความรักระหว่างแม่กับลูก เริ่มก่อเกิดนับตั้งแต่วินาทีแรกที่แม่รับรู้ว่า ยังมีอีกชีวิตหนึ่งถือกำเนิดอยู่ในครรภ์ “ แม่คือผู้ให้ชีวิต ” ให้ดวงตาสองข้างอันเปรียบดังบานประตูสู่โลกกว้าง ให้สองหูอันเป็นบันไดไปสู่การเรียนรู้ ให้สองมือ สองเท้าเพื่อดำเนินชีวิต บนโลกแห่งประสบการณ์ เหนือสิ่งอื่นใด แม่ได้ให้ความรัก อันเป็นจุดเริ่มต้น แห่งความรักทั้งมวลบนโลกใบนี้
หมื่นคำใดในโลกนี้ที่มีอยู่ หรือจะสู้หนึ่งน้ำหนึ่งคำที่พร่ำสอน
ยามลูกเจ็บแม่นั้นเล่าเฝ้าอาทร สุดทอดถอนนอนซมตรมน้ำตา
รักของแม่แน่แท้แสนเลิศล้ำ ทุกน้ำคำไม่มีวันเปรียบเทียบหา
ตราบท้องฟ้านั้นยังอยู่มิรู้ลา คุณแม่จ๋าไม่สิ้นสุดไปจากเรา
แม่ของหนูก็เป็นเช่นเดียวกับแม่ของคนอื่นทั่วไป ในบางครั้งแม่ของหนูอาจจะเป็นห่วงหนูมากๆ ท่านจะคอยโทรหาเมื่อไหร่ที่หนูยังไม่กลับบ้าน คอยถามว่าจะกลับบ้านเมื่อไหร่ อยู่กลับใคร อย่าหลับบ้านดึกนะ อย่าไปไหนคนเดียวล่ะ คำพูดนี้หนูยังจำได้เสมอ ครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่หนูเป็นเด็กยังเรียนอยู่ ชั้นม.3 หนูบอกกับแม่ว่าหนูจะกลับบ้านดึกนะ ไปทำงานที่บ้านเพื่อน หนูบอกแม่ในตอนเช้าก่อนไปเรียน แม่ก็ไม่ว่าอะไร บอกเพียงแต่ว่าอย่ากลับดึกนะมันอันตราย เย็นวันนี้เองเป็นเวลาประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆ ซึ่งมันดึกมากสำหรับหนูและแม่ และฝนก็ตกหนักมากๆ เวลาผ่านไปไม่นานแม่ก็โทรมาถามว่าอยู่ไหน เมื่อไหร่จะกลับบ้านมันดึกแล้วนะ หนูเลยบอกกับแม่ว่าฝนมันตกอยู่เดี๋ยวฝนหยุดก็กลับแล้ว พอหนูพูดเสร็จแม่ก็บอกแค่ว่ารีบกลับนะแม่เป็นห่วง และเวลาผ่านไปประมาณสัก 3 ทุ่มจะ 4ทุ่มแล้วฝนก็ทำท่าเหมือนจะไม่หยุดตกสักที หนูเลยโทรไปบอกกับแม่ว่าฝนไม่หยุดตกเลย หนูได้ยินเสียงแม่พูดเสียงสั่นเครือ ตอบกลับมาว่าให้แม่ไปรับดีไหม มันดึกมากแล้ว ขับรถกลับบ้านคนเดี๋ยวมันอันตราย เดี๋ยวแม่จะออกไปรับรออยู่ที่นั่นนะ หนูยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ แล้วแม่ก็วางสายไป ผ่านไปสักพักหนึ่ง ฝนก็หยุดตกแล้ว หนูนึกขึ้นมาได้ว่าแม่ไม่รู้ว่าหนูอยู่ไหน อยู่บ้านเพื่อนที่ไหน แล้วโทรศัพท์หนูแบตเตอรี่มันก็หมดแล้ว
หนูเลยเอาโทรศัพท์เพื่อนโทรหาแม่ พอแม่รับโทรศัพท์หนูถามแม่ว่าอยู่ไหนแล้วแม่ ได้ยินเสียงแม่พูดเสียงสั่นเครือ มาว่าลูกอยู่ไหน แม่โทรหาไม่ติดเลย แม่ไม่รู้ว่าลูกอยู่ไหน แม่ขับรถวนไปวนมาหลายรอบแล้ว ลูกอยู่ไหนหรอ พอได้ยินที่แม่พูดน้ำตาก็ไหลออกมา แล้วกลั้นน้ำตาพูดกับแม่ว่า ฝนมันหยุดตกแล้ว เดี๋ยวหนูขับรถกลับเองได้ แม่ไม่ต้องมารับหรอก มันไม่ไกลจากบ้านเราหรอก ไม่ต้องเป็นห่วงนะ แม่พูดก็พูดตอบกลับมาว่า ไม่ได้หรอกมันอันตรายเดี๋ยวแม่ไปรับแหละดีแล้ว ลูกบอกเส้นทางมาแม่จะไปรับ หนูเลยบอกแม่ว่าให้ไม่ต้องมาหรอกให้แม่รออยู่ใกล้ๆ ปั๊มน้ำมันเดี๋ยวหนูจะไปหาเอง ซึ่งปั๊มน้ำมันมันไม่ไกลจากบ้านเพื่อนมากนัก หลังจากพูดกับแม่เสร็จหนูก็รีบเก็บของแล้วขับรถไปหาแม่ทันที
หลังจากวันนี้หนูแทบจะไม่ออกไปบ้านเพื่อนตอนกลางคืนอีกเลย หนูรู้ว่าแม่เป็นห่วงหนูมากๆ กลัวว่าหนูจะเป็นอันตราย หนูไม่อยากให้แม่เป็นห่วงอีก กลัวว่าท่านจะคิดมาก แล้วทำอะไรโดยไม่ทันได้คิดอีก หนูกลัวว่าถ้าหากแม่คิดมากไปมันอาจจะเป็นอันตรายกับแม่เองแทนที่จะเป็นหนู ปัจจุบันหนูอายุ 21 แล้ว แม่ก็ไม่ค่อยเป็นห่วงเหมือนก่อนแล้ว เพราะว่า แม่คิดว่าหนูโตแล้วสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว ท่านจึงอนุญาติให้หนูมาอยู่ที่หอตามลำพังได้แล้ว ท่านเพียงแค่โทรมาถามเรื่อยๆ ว่ากินข้าวหรือยัง ทำอะไรอยู่ เป็นอย่างไรบ้าง อย่าออกไปไหนตอนกลางคืนคนเดียวนะลูก แค่คำพูดของแม่เพียงไม่กี่คำหนูก็รู้แล้วว่าแม่เป็นห่วงและรักหนูมากๆ ถึงแม้แม่อาจจะไม่พูดออกมาตรงๆแต่หนูก็รู้ ว่าแม่คิดไรอยู่ และหนูก็รักแม่มากเหมือนกัน
หนูเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่กล้าบอกรักแม่ตรงๆ แต่หนูก็มีวิธีบอกรักแม่ในแบบฉบับของหนูเองและหนูก็อยากให้ทุกคนบอกรักแม่ หลายๆคนอาจจะเขินและอาจที่จะบอกรักแม่ตรงๆลองหาวิธีการบอกรักแม่ในแบบของตัวเอง เช่น ซื้อของให้ อาจจะเป็น สิ่งของที่แม่ชอบหรือเราอยากจะซื้อให้แม่ ก็ได้นะคะ การบอกรักแม่มันไม่ยากอย่างที่คิดหรอกค่ะ ไม่ใช่เพียงแค่วันแม่ที่เราจะบอกรักแม่ แต่เราควรจะทำให้ทุกๆวันเป็นให้วันแม่ ขอเป็นกำลังให้ให้คนที่ไม่เคยบอกรักแม่ด้วยนะคะ ถ้าหากเรากล้าบอกรักแม่ครั้งหนึ่งแล้วครั้งต่อๆไปมันก็ง่ายกว่าเดิมค่ะ
ขอขอบคุณ http://กลอนวันแม่.whitemedia.org/