ผู้หญิงคนแรกที่คอยดูแลเรามาตั้งแต่ยังเด็ก ตั้งแต่เราอยู่ในท้อง คอยบำรุง เอาใจใส่เรา จะมีอีกสักกี่คนที่คอยรัก คอยห่วงใย แม้ท่านจะลำบากแสนเข็ญ ผู้หญิงคนนั้นก็จะไม่ย่อท้อต่อความทุกข์ยากนั้น หวังเพียงแค่ว่าลูกเกิดมาแล้วมีความสุข ความเท่าเทียมกับผู้อื่น แม้ท่านจะอดอยาก อดมื้อ กินมื้อก็ตาม ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็คือ “แม่”
คำว่า “แม่” ในทัศนคติของกระผมก็คือ คนที่เลี้ยงดู คอยเอาใจใส่ ดูแลทุกเรื่องในชีวิตของเรา โดยความรัก ความห่วงใยของแม่ที่มีต่อลูกนั้น ท่านไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนใดๆ จากเราเลย แม่เปรียบได้ว่า เป็นผู้ที่มีพระคุณอันใหญ่หลวงนัก ไม่เคยปล่อยให้ลูกต้องลำบาก แม้ท่านจะดุด่า ว่าเราท่านก็เพียงแค่อยากให้เราได้ดี ไม่อยากให้เราลำบากเหมือนกับท่าน แต่สิ่งที่ท่านด่าเรา ในใจแล้วท่านเสียใจยิ่งกว่าเราอีก เพียงท่านอยากให้เราได้งานดี อยู่ดี กินดี มีการศึกษา แม้ท่านจะไม่มีเงินท่านก็จะไปหาเงินมาให้ ท่านคอยเสียสละหยาดเหงื่อแรงกายทำงานหนัก หาเงินมาเลี้ยงดูลูก เพื่อให้ลูกมีเงิน ความเป็นอยู่เท่าเทียมกับคนอื่นๆ
แม่เปรียบเสมือนครูคนแรกของลูก ซึ่งแม่คอยอบรม สั่งสอนให้ลูก ตั้งแต่ยังหัดเดิน การพูดคำแรก สอนให้ลูกรู้จักกิน สอนให้ลูกทำความดี แม่เพียงอยากเห็นลูกเติบโตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข อยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ได้
พระคุณของแม่เปรียบได้ดั่งมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ที่ยากจะเปรียบเทียบได้ แม่เป็นผู้สร้างชีวิตให้แก่ลูก ทั้งเลือด เนื้อ ยอมกระทั่งเจ็บกายเพียงเพื่อรักษาลูกที่อยู่ในท้อง แม้แพ้ท้องก็ต้องอดทน เวลาผ่านไป 9 เดือน เป็นวันที่แม่ต้องเจ็บที่สุดในชีวิต แต่ท่านก็ยังยิ้มได้และแสนดีใจเพราะจะได้เห็นหน้าลูกวันแรกในชีวิต ดังนั้น เราจะอยู่เฉยได้อย่างไร เพียงทำให้แม่สบายใจ ไม่ร้องไห้ ตั้งใจเรียน ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถตอบแทนบุญคุณท่านได้แล้ว
ขอบคุณ ผศ.วิไล แพงศรี มากๆครับที่ให้คำแนะนำในจุดที่บกพร่อง ผมแก้ไขเรียบร้อยแล้วนะครับ