4-5 ผมเดินทางย้อนยุค


คนสมัยนี้เงินเป็นปัจจัยสำคัญจนเข้าไปแทรกแซงคุณธรรมในจิตใจของคนในเมืองไปแล้วครับ

4-5 การเดินทางย้อนยุค

     ในเรื่องของการเดินทางในประเทศไทย มีช่องทางสำหรับการเดินทางอยู่หลายช่องทางด้วยกัน เช่น รถยนต์ รถประจำทาง เครื่องบิน และรถไฟ แน่นอนครับ สำหรับการเดินทางไปต่างจังหวัดหรือไปเยี่ยมญาติของคนไทย หนึ่งครั้งในชีวิตคุณต้องเคยใช้บริการรถไฟไทย เป็นการเดินทางที่สะดวกสบาย และรวดเร็วที่สำคัญปลอดภัยกว่าการเดินทางเส้นทางอื่น รองจากเครื่องบินผมไม่แน่ใจครับว่าเครื่องบินกับรถไฟไทยทางไหนปลอดภัยกว่ากัน

    ผมก็ได้มีโอกาสใช้บริการรถไฟไทยเหมือนทุกคนครับ ส่วนมากแล้วผมเดินทางโดยการใช้บริการรถประจำทางโดยสาร หรือรถส่วนตัวเป็นปกติ แต่วันนี้ที่  5 สิงหาคม 2555 ผมต้องเดินทางไปสอบแข่งขันนายสิบตำรวจเป็นครั้งที่ 2 ครั้งนี้ผมต้องวางแผนการเดินทางให้มาก เพราะครั้งแรกที่ผมเดินทางไปสอบคนไปสอบเยอะมากผม ผมต้องนั่งรถไปโคราชแบบตั๋วยืนใช้เวลา 8 ชั่วโมงปกติกำหนดการรถจะถึงภายใน 6 ชั่วโมงเท่านั้น พอไปถึงโคราชโทรศัพท์ที่ผมใช้ดูแผนที่เพื่อเป็นไกด์ในการเดินทางหรือหาโรงแรมพักก็หมด ต้องเดินไปหาวินมอเตอร์ไซต์ให้พาไปหาโรงแรมที่พัก วันนี้แหละที่มันทำให้ผมคิดขึ้นมาเลยว่าคนสมัยนี้เงินเป็นปัจจัยสำคัญจนเข้าไปแทรกแซงคุณธรรมในจิตใจของคนในเมืองไปแล้วครับ  แต่สำหรับผมคิดว่าคนบ้านนอกนี้แหละมีคุณธรรมและจิตใจดีกว่าอีก  ผมเจอวินมอไซต์ฟันค่ารถไป 100 ขึ้นรถไปไม่ถึง 1 กิโลเมตรนะครับ แล้วเหตุการณ์ที่ทำให้ผมคิดไปกันใหญ่เพื่อนผมบอกว่านั่งรถ 3 ล้อวิน มาสอบที่โรงเรียน โดนเข้าไป 500 บาท มันเป็นช่วงที่เขาหาเงินจริงๆ หรือว่าเป็นเพราะเราไม่รู้เส้นทางหรือเพราะอะไร  (ขอบอกตามประสบการณ์การที่ผมเจอมาหรือถ้าใครเดินทางไปต่างจังหวัดโดยไม่มีคนรู้จักหรือไม่มีญาติเลยถ้าจะถามทางให้ถามแม่ค้าหรือคนแถวนั้นนะครับอย่าถามวินมอไซต์หรือรถรับจ้าง) ไม่ไช่ว่าเขาเหล่านั้นไม่ดีนะครับถ้าไม่คิดจะนั่งรถรับจ้างอย่าถามเลย "คนดีก็มีเยอะครับ"

ขอข้ามมาถึงการเดินทางไปสอบครั้งที่ 2 ของผมแล้วกันครั้งนี้ผมเตรียมตัววางแผนเลือกที่จะเดินทางโดยสารรถไฟผมจองตั๋วรถไปกลับไว้เลยครับเพราะเกรงว่าขากลับจากสอบจะได้ยืนอีกตามเคย การเดินทางโดยรถไฟของผมมันทำให้ผมได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์หลายอย่างและทำให้ผมได้คิดถึงการพัฒนาของรถไฟไทย ผมได้รู้อะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับรถไฟ

 รถไฟอุบลราชธานี   -  กรุงเทพมหานคร  จะมีอยู่ 3 ชั้นด้วยกัน  

  ชั้นที่ 1 รถโบกี้นั่งและนอนชั้นที่ 1 ปรับอากาศ ( บนอ.ป. )

  ชั้นที่ 2 จะเป็นเบาะนุ่ม แบบ 2 ที่นั่งเหมือนเบาะรถโดยสารครับ

  ชั้นที่ 3 เป็นเบาะหันหน้าเขาหากันชั้นนี้เป็นรถไฟฟรีครับ

http://www.railway.co.th/home/srt/passenger/bogie.asp

การเดินทางครั้งนี้ผมจองตั๋วรถไฟไป- กลับไว้เรียบร้อย

การนั่งรถไฟทำให้ได้ชมกลิ่นไอธรรมชาติป่าสวนริมข้างรางรถไฟเป็นอะไรที่รู้สึกดีสุดๆ พอรถไฟจอดรอสับเปลี่ยนรางจนทำให้ผมได้ลงไปสัมผัสถึงกลิ่นไอธรรมาติอย่างแท้จริง ใครบอกว่าการเดินทางโดยสายสารรถไฟไม่ดีผมขอต่อต้านเลยครับ ผมอยากกินอะไรก็สามารถซื้อบนรถไฟได้เลย เช่นปิงไก่ ข้าว ขนม น้ำ นม ของทุกอย่างขายกันตลอดทางครับ(แต่ก็แพงไปหน่อยนะ) แต่ถ้าใครได้ไปใช้บริการรถไปก็ช่วยๆอุดหนุนเขาหน่อยละครับ เดินไปเดินมาทั้งวันสงสารเขากว่าจะได้แต่ละบาท

ภาพเครดิตจาก: http://www.gotoknow.org/blogs/posts/435662 

ผมเคยถามนะครับว่า "ลุงๆ ลุงขายวันหนึ่งได้เนี้ย "

ลุงตอบผมว่า           "แต่ละวันได้เยอะแต่ก็ไม่ไช่เงินลุงทั้งหมดหรอกลุงขายเอาเปอร์เซ็นของบริษัทรับเหมามาอีกที่บ้างวันก็ได้เยอะบ้างวันก็ได้น้อย"

ผมเลยถามอีกที    "แล้วลุงไม่คิดจะพักบ้างหรอเดินไปเดินมาไม่เหนื่อยหรอ"

ลุงตอบ              "ไม่พักหรอกเดี๋ยวจะไม่พอใช้ทางบ้าน"    

ผมสังเกตเห็นแขนของลุงแกตรงข้อพับหิ้วถังแขนจะหนาผิดปกติ ใครไปก็ลองสังเกตดูคนไหนก็เป็นเหมือนกัน แขนจะเป็นลักษณะคล้ายๆกัน

คุณลุงแกพูดมาอย่างงี้ทำให้ผมคิดเลยว่าการที่เรามีหน้าที่เรียน แล้วทำไมเราถึงไม่ตั้งใจเรียน ไม่คิดประหยัด รอขอแต่เงินเพื่อมาใช้แบบฟุ่มเฟือยโดยไม่คิดว่าคนข้างหลังเขาจะลำบากแค่ไหน แบบลุงคนนี้เขาหาเงินอายุก็เยอะแล้วยังไม่พักเลย พ่อแม่หลายคนก็อาจจะเป็นแบบนี้ลำบากเพื่อส่งลูกเรียนหนังสือ แต่ลูกบางคนก็ไม่เห็นคุณค่าของเงินที่พ่อแม่ส่งให้ 

   ลักษณะของรถไฟไทยก็ดีนะครับ เป็นทางเลือกหนึ่งที่ปลอดภัยและประหยัดค่าช้ใจกว่าทางอื่นอีกอย่าง คนรักธรรมชาติและแนวย้อนยุคก็ชอบแบบนี้นะครับ ผมคิดว่า สามารถนำมาโฆษณาเป็นการเดินทางคู่กับธรรมชาติได้อีกทางหนึ่งนะครับ ชาวต่างชาติชอบเพราะประเทศเขาหายากแล้ว มีแต่รถไฟความเร็วสูงที่ไม่ค่อยจะได้ชมธรรมชาติแบบบ้านเราเลย  สำหรับคนไทยใครชอบแบบด่วนๆ ก็นั่งเครื่องบินเลยเสียเงินเยอะกว่า แต่ก็ไม่ได้เจอประสบการณ์ดีๆ และความคิดดีๆแบบผม

อยากจะเชิญชวนให้ใครที่ไม่เคยนั่งรถไฟบ้านเราก็ไปลองดูแล้วท่านจะได้สัมผัสถึงความรู้สึกที่แตกต่าง และนี่เป็นประสบการณ์ที่แตกต่างของผมสำหรับการนั่งรถไฟครับ 

 

 

หมายเลขบันทึก: 497542เขียนเมื่อ 7 สิงหาคม 2012 17:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 สิงหาคม 2012 17:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ที่จริงผู้เขียนเองเคยเดินทางมาเกือบทุกรูปแบบแล้ว..ไม่ได้โม้ !

- รถไฟกับเครื่องบินนั้นน่าจะปลอดภัยพอๆกัน ยกเว้นรถไฟไทย.ตกรางบ่อยมาก.

  ยังกังวลอยู่ว่าจะอยู่ทันนั่งรถหัวกระสุนหรือไม่ ? ใครจะให้สัก ๑ นัดก่อนไหม ?

- นั่งเรือรบบ่อยมากทั้งเรือรบไทยและเรือรบอเมริกัน..มีแอร์และไม่มีแอร์.

- เครื่องบินจำไม่หมดว่าสายใดบ้าง ?

- เฮลิคอร์ปเตอร์ของทหารอเมริกัน , ของบริษัทขุดเจาะน้ำมันที่บังคลาเทศ.

- บขส. รถทัวร์ รถโบก.มอเตอร์ไซด์รับจ้างฯ ขี่เองอีกต่างหาก.

  ขออภัยครับมิได้คุยโม้แบบพี่สมรักษ์..เล่าให้ฟังเฉยๆ..ใกล้วันแม่แล้วจะโมโหทำไม ?

  แม่ว่าไม่รู้น๊ะ !

สุดยอดไปเลยครับ ประสบการณ์เยอะมาก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท