โอลิมปิกส์สอนใจ (๖...นักข่าวไทยตกรอบคัดเลือก)
นักข่าวกีฬาไทยเรานั้น ผมว่าง่าวที่สุด เช่น ดูข่าวกีฬามานาน ผมไม่เคยเห็นสักข่าวขึ้นกระดานให้เห็นว่า ไทยส่งนักกีฬาเข้าแข่งกี่คนในแต่ละชนิดกีฬา
กีฬาที่ไม่เป็นที่นิยม เช่น เรือใบ วินเซิร์ฟ (ได้สิทธิส่งแข่งตั้งสามคน) จักรยาน กรีฑา ยิงธนู ขี่ม้า หายไปจากวงการข่าวเลย ....ข่าวยิงปืน ก็เห็นมีแต่ข่าวเจ้าผู้ชายปากใหญ่ (แต่ฝีมือไม่ใหญ่ตาม) แต่นักยิงหญิงสาวสองคนที่มีความหวังเหรียญกลับไม่ค่อยเป็นข่าวเลย
วันวานผมตามหาข่าว แก้ว พงษ์ประยูร (นักมวยไทยคนเดียวที่เหลืออยู่) ว่าต่อยวันไหน เวลาใด ก็หาไม่เจอ ข่าวทุกข่าวที่ลง ก็ว่าแต่ชนะใคร ทั้งที่ควรบอกผู้อ่านด้วยว่า ชนะแล้ว รอบหน้าไปเจอใคร วันเวลาใด ถ่ายทอดสดช่องไหน ...ในที่สุดผมต้องไปค้นหาในตารางแข่งขันของโอลิมปิกส์ (เป็นภาษาอังกฤษ) ..เอ้า เวลามันเป็นเวลาลอนดอนซะอีก บวกกี่ชม.ดีหว่า เดาว่าคง ๗ ชม.
พอข่าวทีวีมาถึงช่วงสรุปเหรียญทอง นักข่าวทุกช่องจะอ่านให้เราฟังว่าชาติไหนได้เท่าไร ซึ่งเป็นการเสียเวลามากๆ อีกทั้งฟังไม่ทัน ทั้งที่ทั่วโลกเขาไม่อ่านหรอกครับ เขาเอากระดานเลื่อนมาขึ้นหน้าจอก็หมดเรื่อง เร็วกว่า และได้ข้อมูลมากกว่าการอ่านให้ฟัง 100 เท่า
การรายงานข่าวอากาศก็พอกัน อ่านให้เราฟังอยู่นั่นแหละว่าเมืองไหนอุณหภูมิเท่าไหร่ (ทั่วโลกอีกต่างหาก ) แทนที่จะเอาแผนที่ขึ้นพร้อมระบุตัวเลข อภ. เป็นการสอนภูมิศาสตร์ให้คนดูไปโดยปริยายอีกด้วย
ตำรวจเลวโทษใคร...ผมว่าต้องโทษคนไทยทั้งประเทศนั่นแหละที่ไม่ใส่ใจ
ส่วนนักข่าวง่าวล่ะ...โทษใครดี?
ผมเอาเรื่องนี้มาไว้หมวด การศึกษา เพราะนักข่าวง่าวเป็นเพราะการศึกษาไม่ดีไงครับ อิอิ
...คนถางทาง (๗ สค. ๒๕๕๕)
ความเห็น (8)
แต่นักข่าวชี้นกเป็นนกชี้ไม้ก็เป็นไม้นะครับ ผมสังเกตว่าประเทศไทยเราสื่อมวลชนเป็นผู้มีอิทธิพลประเภทหนึ่งครับ
สวัสดีค่ะพี่คนถางทางหนูเห็นด้วยอย่างยิ่ง ตำรวจเลวเพราะคนไทยทั้งประเทศที่ไม่ใส่ใจ นักข่าวง่าวโทษการศึกษาไม่ดี จริงๆค่ะ เห็นด้วยๆๆๆๆ อิ อิ
5555 มาแรงสสสสส์
คุณหมูจ๋า ...ศิลปเยี่ยมมากครับ
ผมบอกตรงๆในฐานะคนพลศึกษา..ว่า กีฬาบ้านเรา สุดยอดจะน่าตลกที่สุดในโลก..คือ มักออกข่าวคนมอบเงินรางวัลว่าให้เหรียญทองกี่ล้าน..ซึ่งเป็นการโฆษณาที่จ่ายน้อยหรือไม่ต้องจ่าย..เพราะมันเหมือนการแทงหวยนะ..ทำไมไม่ให้กันตอนซ้อมและตอนไปแข่งให้มากหน่อย บำรุงกำลังบำรุงขวัญและเตรียมเรื่องสวัสดิการ อำนวยความสะดวกให้มากๆ..โอกาสที่จะได้เหรียญหรือพัฒนาสถิติก็จะมากขึ้น..คงเหมือนพวกให้รางวัลนักมวยที่ใช้จรเข้ฟาดหางน๊อคนะแหละ..โฆษณาได้ทุกครั้งแต่ไม่ต้องจ่ายตังค์เพราะไม่มีใครทำได้..555..ตอนมีข่าวของ ตีโต้ นักกรีฑาชาย ที่ไม่มีโค๊ช เพราะเพิ่งส่งโค๊ชไปและเกิดหลงกันในลอนดอน..ผมเนี่ยหัวเราะงอหายเลย..ข่าวยังงี้แหละครับที่มีบ่อยในวงการกีฬาของเรา..ทุกกีฬาที่ส่งไปแข่งดูว่ามีปัญหาหมด..ชอบใจเทควันโด้และโค๊ชเช ครับ..ขอบคุณมากครับ โค๊ชเช ที่แสดงความรักให้แก่นักกีฬาไทยเหมือนลูก..ยิ่งกว่าที่เคยเห็นในโค๊ชชาวไทยในปัจจุบัน..
ขอบคุณโค้ชเช ยอง ซุก..ผู้สอนให้รู้ว่า ความรักต่อลูกศิษย์นั้นเป็นเช่นไร ครับ..
ผมเริ่มเห็นด้วยว่าระบบควรจะให้ดอกไม้ความเห็นได้แล้วครับ เพราะผมเห็นด้วยอย่างยิ่งและอยากให้ดอกไม้กับความเห็นของคุณลุงรักชาติราชบุรีมากเลยครับ
ให้ดอกไม้ ความเห็นของความเห็นด้วยก็ได้ครับ อิอิ
ตอนผมเป็นผู้ฝึกสอนกีฬาเรือพาย ผมดุมากๆ วินัยเข้ม แต่ผมก็ควักกระเป๋าให้เด็กไปกินเลี้ยงกัน หมดเงินตัวเองไปเป็นหมื่นนะ ตอนส่งเด็กไปแข่ง เรือลงน้ำ ผมลุยน้ำลงไปส่งเด็ก แข่งกลับมาผมเข้าไปกอดทุกคน เหมือนโคชเชเลยแหละ เด็กๆ มันงง เพราะปกติ ผมดุมาก ไม่ค่อยพูดเล่นพูดหัว
กลับมาเทควันโด ผมมาคิดว่า ทำไมเราไม่เอาวิธีของตะกร้อข้ามตาข่ายมาใช้ คือ การกระโดดลอยตัุว คว่ำหน้าเตะหน้าเน็ต แต่แทนที่จะเตะตะกร้อก็เตะหัวคู่ต่อสู้แทน ได้สามแต้มสบายๆ
แจกเงินกันเข้าไป แต่ผมว่านี่แหละคือการทำลายการกีฬาไทย ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม อีกทั้งทำลายสปิริตแห่งการกีฬาด้วย ผมยังไม่เคยเห็นนักกีฬาเหรียญโอลิมปิกส์ต่างๆของไทยในอดีต ที่ได้เงินอัดฉีดมหาศาล กลับมาทำประโยชน์อะไรให้ประเทศชาติเลยสักคนเดียว แม้ในด้านกีฬา แต่ละคนกลายเป็นพ่อค้า หาเงินกันหมด หร้อไม่ก็กลายเป็นคนเสเพล ขี้เมา ขี้โม้ หากินไปวันๆ