วิชญธรรม
ผศ. ดร. สิริวิชญ์ เตชะเจษฎารังษี

ธรรมะ ครอก.... ครอก (ฉบับไม่นอกเรื่อง)


.......“เราไป ”วัด”เพื่อ”วัดใจ”ตัวเอง อย่าเพิ่งไปสนใจคนอื่น หรือสิ่งอื่นที่อาจจะทำให้เราเสียความตั้งใจได้”.......

ต่อจากบันทึกที่ค้างไว้.......

เมื่อคืน....(ตอนนี้ก็คงต้องว่า.....หลายคืนมาแล้ว) ผมพาคุณแม่ ไปทำวัตรเย็นที่วัดป่าธรรมอุทยาน ใกล้บ้าน   (นโยบาย “ชวนใครไม่ได้ ก็ลากแม่ตัวเองไป” ) คุณแม่ก็รับปากว่าจะไป (งานนี้แม่ปฏิเสธไม่ได้ครับ ถ้าปฏิเสธแล้วจะโดนขู่...ว่าพาไปนอนวัดแทน)

ระหว่างสวดมนต์ทำวัตร ผมก็พยายามทำสมาธิกับบทสวดมนต์ พยายามไม่วอกแวกกับผู้คนที่นั่งใกล้ๆ .................

ตามความรู้สึกของผม การ ”อ่านบทสวดมนต์ตอนทำวัตร เช้าหรือเย็น เมือเปรียบเทียบกับการนั่งหลับตา...พนมมือ สวดมนต์โดยไม่ต้องอ่าน (กรณีจำบทสวดได้) ให้ความสงบต่างกัน ........

เมื่อผมเริ่มเข้ามาวัดเพื่อสวดมนต์ทำวัตรเย็น โดยตั้งใจว่าถ้าไม่ติดธุระอะไรสำคัญ ทุกวันจะต้องมาสวดมนต์ทำวัตรเย็น และก็ถือโอกาสพาคุณแม่ที่เรารัก เข้าวัดบ้างอย่างน้อยก็วันละครั้งก็ยังดี (ส่วนคุณพ่อ เดี๋ยวกำลังคิดแผนการอยู่ ฟอร์มท่านเยอะ ลองมาหลายแผนแล้ว...แต่สักวันต้องสำเร็จเป็นแน่ แล้วจะมาบอกนะครับ)

เริ่มแรกสำหรับ “มือใหม่” ที่ต้องมีคือ

“พยายามตัด **ข้ออ้าง** ทั้งหลาย.....ที่ตัวเองอ้างว่ามาวัดไม่ได้ออก!!! “

  1. ผมไม่รู้ว่าจะไปสวดมนต์วัดไหนดี???  โอ้...โยม วัดไหนก็ได้....โยม!!!  จะวัดใกล้บ้าน วัดวิวสวย วัดพระหน้าตาดี วัดน่าศรัทรา วัดชื่อดัง วัดสงบๆ วัดในเมือง วัดนอกเมือง วัดป่า วัดบ้าน .......วัดอะไรก็ได้ที่ไปกลับง่ายๆ ......วัดใกล้ห้างสรรพสินค้าฯ  (ชักจะเริ่มไปกันใหญ่...)  สรุปว่า ไป “วัดใจ” ตัวเอง....นะโยม “วัด” ไหนก็ได้  .......“เราไป ”วัด”เพื่อ”วัดใจ”ตัวเอง อย่าเพิ่งไปสนใจคนอื่น หรือสิ่งอื่นที่อาจจะทำให้เราเสียความตั้งใจได้”

  2. ผมไม่รู้เวลาว่าเขาทำวัตรกี่โมง? ทำวัตรเช้ากี่โมง? วัตรเย็นกี่โมง? แล้วเราจะทำตัวยังไง? แต่งตัวแบบไหน? โอ๊ย....โยม!!!!  เริ่มแรกถ้าปัญหาเยอะอย่างงี้นะ.....เอาจังซิ(อย่างงี้)เลย....โยม  เมื่อเล็งว่าจะไปวัดไหนได้แล้ว ก็ลองเข้าไปสอดแนมในวัดก่อน อย่างผมก็พาว่าตัวเล็กของผมไปเดินชมนก ชมไม้ กินนม จิบกาแฟ ตอนเช้าๆวันหยุด (ผมว่ากลยุทธ์ของวัดสมัยนี้ แทบจะกราบกราน หรือแทบจะมากราบตัก เชิญชวน เราๆท่านๆให้เข้าวัดกันอยู่แล้วครับ...พี่น้องครับ จัดสวน แต่งสวน ทำศาลา ทำเจดีย์ ทำ”รีสอร์ท” ที่พักในวัด บางวัด อาหารเพียบ!!!  Package พักฟรี!! กินฟรี!! บรรยากาศร่มรื่น ป่าเขา น้ำตก วิวสวย ไม่พอครับ แถมความสงบจิตสงบใจกลับบ้านอีก Plus Plus  + +  <เริ่มนอกเรื่องอีกแล้วเรา ข้าน้อยขออภัยครับ> ) สอดแนมไปเรื่อยๆ (หรือถ้าไม่รู้จริงๆว่าจะไป”วัดใจ”ได้ที่ไหน ถามผมครับ แล้วผมจะถามผู้รู้ท่านอื่นต่อไป....หุหุ เพื่อมาตอบท่านก็ได้นะครับ)          ขั้นต่อไป  “ถามครับ...ถาม??”.... ครับ สอบถาม “มืออาชีพ” ในวัดนั้นๆเลยครับ แต่ถามพระในวัด จะได้คำตอบดีที่สุดครับ  แล้วเราก็ลองมาสอดแนมตอนเขาทำวัตรกันก็ได้อีกนะครับ ถ้าไม่ถูกใจก็ไปช้อบวัดอื่นครับ มีให้เลือกหลายวัด ตามจริตของตัวเอง (แต่ขอให้เลือกให้ “ถูกทาง” นะครับ)    

  3. ถ้าท่านผ่านด่าน ข้อ 1 และ ข้อ 2  ได้ กระผมก็ไม่รู้ว่าจะแนะนำอะไรแล้วละครับ ขอแค่ให้พาตัวเอง ลูกหลานมานั่งให้ทันทำวัตร นั่งให้จบ จะสวดมนต์ หรือไม่สวด แค่มาวัดได้ก็น่ายินดีแล้วละครับ สักวันท่านจะเข้าใจ

ผมเห็นเด็กเล็กๆ นั่งสวดมนต์แบบชนิดเสียงดังฟังชัด ไม่ต้องดูบทสวดเลย จำได้ทุกบท สำหรับ “มือใหม่” อย่างผม มีหรือจะแพ้เด็ก ......” คราวนี้ขอลุง อ่านคู่มือไปก่อนนะลูก...:) เอาไว้ตอนจำบทสวดได้ถึงจะปิดตำราสวดนะครับ.....”

แต่จากการที่ได้มีโอกาสฟังธรรมหลวงปู่บ่อยๆ อ่านหนังสือ ฟังเทศน์ online ทำให้เข้าใจในบทสวดมนต์ (แปล) มากขึ้น ตอนนี้เริ่มจำได้บางบท (ไม่ต้องไปนั่งท่องให้เสียเวลาทำมาหากินของ นักธุรกิจ ที่เปิดคลินิกทั้งหลาย อ่านทุกวันก็จำได้เอง โดยไม่รู้ตัว ....สูตรพี่ผมเองครับ....)

สำหรับผม ถ้าวันไหน คิดว่าใจไม่สงบ  ”สติ”ไม่ดี ผมก็จำเป็นต้องเปิดอ่านบทสวดมนต์เพื่อใช้สายตาอ่านตัวอักษร บังคับให้ “สติ” จดจ่อกับบทสวดที่เห็น   แต่ถ้าหลับตานึกถึงบทสวดแล้วจำได้ สวดเองได้ (อาจจะไม่สวด หรือเพียงฟัง ญาติโยมสวดแล้วนึกถึงความหมายของบทนั้นๆก็ได้) มันทำให้ใจเราเป็นสมาธิได้นะครับ สมาธิที่ปล่อยวาง ว่างๆ สงบๆ ไม่เหมือนกับสมาธิที่จดจ่อกับงานประจำที่ทำนะครับ  การทำวัตรสวดมนต์แต่ละครั้งก็ไม่ต่ำกว่า 40 นาที แล้วแต่วัด ไม่เหมือนกัน ตอนแรกๆ ผมคิดว่าทำไมมันถึงนานอย่างงี่.... แต่ทำไปทำมา ถ้าเราไม่ใช่ท่องบทสวดมนต์เป็นนกแก้วนกขุนทอง พยายามเข้าใจหลักคำสอน ที่มาที่ไป เมื่อใจเราจะสงบนิ่งที่จุดๆหนึ่ง แล้วที่เราบอกว่าเราทนไม่ได้ เวลาทำไมมันเดินช้าไป.....ความรู้สึกเหล่านี้ก็จะหมดไป บางครั้งเราอาจรู้สึกสนุก หรือติดใจกับบทสวดบางบทเสียด้วยซ้ำไป  แต่ก็ว่าไปตาม นิยามของคำว่า “มือใหม่”  กับ  “มืออาชีพ” ที่ปฏิบัติถูกทาง

เขียนมาตั้งนาน “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ ธรรมะ ครอก.... ครอก” สงสัยว่าคุณชลัญ เริ่มจะสงสัย!!??

คำตอบคือ “ยังไม่มีอะไรจะเกี่ยวกันเลยครับ...พี่น้อง คือแบบว่า.....ผู้เขียนบันทึกขณะนี้กำลังหาทางลงไม่ได้ครับพี่น้อง.....^*&&*^  ฮิฮิ.....”

คือเรื่องมีอยู่ว่า

ขณะเราทำวัตรสวดมนต์เสร็จ หลวงพี่ก็จะให้นั่งสมาธิ ระหว่างสวดมนต์ผมก็ตั้งใจ มีสติกับบทสวดมนต์ จิตใจก็สงบ ว่างๆ ได้ระดับหนึ่ง พอเข้าสมาธิก็ทำให้ใจเรา ไม่ไปคิดฟุ้งซ่านมากนัก พอนั่งไปยังพัก.......ก็ได้ยินเสียง .....”ครอก.....ครอกกกกก......ครืดดดด คราดๆๆๆๆ ” เสียงกรนจาก คนนั่งแถวหน้า ดังมากกกก ขอบอก!!!

 ในสมาธิ... ผมจะขำก็ไม่ขำ (สงสัยจะขำไม่ได้เดี๋ยวเสียเชิง “มือใหม่” หมด) แต่เสียงกรนนั้นก็ไม่ได้ทำให้เรารำคาญใจแต่อย่างไร เราก็นั่งหลับตาฟังไป..... แต่สงสัยว่าหลวงพี่ด้านบนคงจะได้ยินเสียงกรน  ท่านถึงเปิดลำโพงเต็มอัตรา พูดใส่ไมค์ ออกลำโพง เสียงอย่างดังว่า “.....ให้มีสติระลึกกกกก.....รู้ อยู่กับตัววววววนะ.......ให้รู้ตัว.....(ผมจำไม่ได้แล้วว่าอะไรต่อ...ลืมตามระเบียบครับ)....” ซึ่งโดยปกติถ้าตอนนั่งสมาธิอยู่ได้สักระยะหนึ่ง ถ้ามีเสียงอะไรมากระทบ ผมจะสะดุ้งสุดตัวไม่รู้เป็นยังไง สะดุ้งเป็นกุ้งเต้นได้เลย คราวนี้ดีหน่อยผมไม่ตกใจสะดุ้งอย่างที่เคย

อย่างที่หลายท่านเคยบอก เราปฏิบัติเพื่อดูอารมณ์ตัวเอง การเอาใจไปดูคนอื่นเลยสำคัญตนว่าเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ (มานะ=ความสำคัญตน !!???)    สำคัญตนว่าดีกว่าเขา ฯลฯ จะว่าว่าคนโน้นดี ไม่ดี นั้นไม่ใช่แนวทางที่ครูบาอาจารย์สอนสั่งนะครับ ดูที่ตัวเรา พิจารณายังงัยก็ได้แต่ไม่ให้ออกนอกตัวเราเอง แล้วจะดีเองเน้อ........สาธุ

*  เ ทคนิคการสังเกตฉบับที่ 1.0.1  *  ระหว่างนักปฏิบัติ  “มือใหม่”  กับ  “มืออาชีพ” คือ “มืออาชีพ” เขาไม่ต้องพึ่งหนังสือสวดมนต์แล้วครับ เขาจำได้หมดแล้ว  ส่วน “มือใหม่”  อย่างเราก็ว่ากันไปตามกำลัง “ศรัทรา” นะครับ

 

หมายเลขบันทึก: 497424เขียนเมื่อ 6 สิงหาคม 2012 21:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 ตุลาคม 2013 15:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)

ขอบคุณค่า ที่นำประสบการณ์มาเล่า อ่านไป ยิ้มไปเหมือนเดิมค่ะ

ตัวเองเป็นคนที่นั่งสมาธิได้ไม่เกิน 3 นาทีเลยค่ะ..จนวันนี้ มีผู้เฉลยว่า เพราะใจไปคิดว่าจะเอา 5 นาที เลยลืมตาดูนาฬิกาเสียก่อน :)

hi KBlank  and K หมอ ป. Blank

นั่งสมาธิได้ไม่เกิน 3 นาที ก็ดีกว่าไม่มีเวลานั่งเลยนะครับ พี่ผมสอนเทคนิกไว้หลายวิธีเช่นถ้าไม่ดูลมหายใจเข้าออก ก็พิจารณากาย ง่ายๆก็ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง (ของตัวเองนะครับ!!!) แล้วย้อน หนัง ฟัน เล็บ ขน ผม เบื้องต้นก็แบบง่ายๆ ระลึกรู้แค่ว่าส่วนต่างๆ อยู่ตรงไหน เกิด...แล้วมันแปรสภาพไปอย่างไร เป็นผมของเราตอนนี้ ตอนร่วง ตอนไม่ได้สระ นึกแค่นี้กลับไปกลับมาก็จะ 5-10 นาทีแล้วนะครับ ยิ่งถ้าเป็นคุณหมอ ผมคิดว่าจะได้เปรียบกว่าผมนะครับ กว่าผมจะหาว่า "ตับ" เรามันอยู่ตรงไหนกันแน่แว่;: ก็เทียบแย่ <ที่สำคัญ!!! ไม่ควรส่งความคิดเราออกนอกกายเราเอง> อธิบายให้ง่ายขึ้น พี่ผมบอกว่า ให้คิดอยู่ในร่างกายเราแต่ไม่ให้คิดไกลเกินจนออกนอกหนังเราเอง  เพื่อประโยชน์ในการทำสมาธิที่ “ถูกทาง”

 

  • อ่านที่ตอบคุณหมอ ป แล้ว
  • คิดถึงพระท่านว่า เกศา โลมา นขา ทันตา ตะโจ ตะโจ
  • อ่านเรื่องของอาจารย์แล้วชอบมาก
  • สถานที่ปฏิบัติธรรม สัปปายะมากเลยครับ
  • เผลอนั่งหลับ
  • ตกน้ำแน่ๆครับ
  • 555

อาจารย์วิชญธรรมค่ะ..อ่านบันทึกนี้และก่อนหน้านี้แล้วทำให้เห็นภาพ..เป็นผู้มีความตั้งใจฝึกปฏิบัติธรรม .. อ่านไปยิ้มไปด้วยค่ะ...โดยส่วนตัวแล้วไม่เคยมีประสบการณ์ฝึกธรรมะเช่นนี้มาก่อน ... เข้ามาอ่าน..เตรียมตัวไว้นะค่ะ..เผื่อวันไหนจะลองดูบ้าง... เขียนต่อไปนะค่ะ ... อืมม์.. ขอบคุณที่ไปมอบดอกไม้ไว้ให้ :-))

อาจารย์เขียนได้อ่านสนุกดีนะคะ คนไกลวัดอ่านแล้วรู้สึกเหมือนไม่ยากนะนี่ เป็นคนอยู่ไม่นิ่งค่ะ เวลาเข้าไปในวัดจะคิดโน่นนี่นั่น สร้างบาปในใจอยู่เรื่อย เลยใช้วิธีปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวันแทน (รักษาศีลห้าให้ได้เป็นอย่างน้อยค่ะ)

เห็นความเพียรที่ไม่ยอมแพ้เด็กก็สุดยอดแล้วค่ะ  ใครเป็นมือใหม่ได้มาอ่านบันทึกนี้ จะรู้สึกว่าธรรมะน่าศึกษามากค่ะ  บททดสอบตัวเองที่ยิ่งใหญ่ เก็บอาการให้มิดชิด ห้ามกรนค่ะ

บรรยากาศธรรมชาติ น่านั่งสมาธิมากค่ะ 

อ. Blank  สถานที่ปฏิบัติธรรม สัปปายะมากจริงครับ  เผลอหลับอาจตกน้ำก็จริงครับ....อิอิ 

ขอบคุณครับ

อ. Blank 

ถ้าเราสามารถมีสติ ระลึกรู้อยู่กับตัวตลอดเวลาก็เป็นการภาวนาแล้วครับ หลวงพ่อชาบอก ไม่จำเป็นต้องไปนั่งสมาธิเพื่อภาวนาก็ได้

อ. Blank ขออนุโมทนาด้วยนะครับ

ผมนั้นโชคดีหน่อย มีครูบาอาจารย์อยู่ใกล้คอย ลากไม่ให้หลงทาง ขอให้ผ่าน 2 ด่านนี้ให้ได้โดยเร็วนะครับ

อ. Blank 

ถ้าเหนื่อยล้ามากๆ ก็นั่งหลับเหมือนกันครับ.....:):)

แต่ผู้ปฏิบัติบางท่านเขาไม่ได้นอนทั้งคืน หรือหลายคืนต่อกัน อันนี้เราไม่รู้ครับ ที่เห็นใครนั่งหลับ ตอนแรกผมก็คิดไปว่าเขาทำไม่เหมาะสม ไม่น่าศรัทรา มาเกิดกับตัวเอง ผมก็เลยเข้าใจว่า สิ่งที่เราเห็น มันก็ยังไม่แน่ว่าจะเป็นไปตามสิ่งที่เราคิดหรือไม่ ครูบาอาจารย์จึงสอนให้มองดูตัวเองเป็นหลัก......ก็เป็นปัจจัตตัง จริงไหมครับ...:)

  • อาจารย์ครับ
  • เจ้าตัวเล็กน่ารักมาก
  • แถมชูสองนิ้ว
  • มาเล่าเรื่องหุ่นยนต์ผ่าตัดบ้างนะครับ
  • รออ่านๆๆ
  • เอหรือลองมาเขียนเรื่องที่อาจารย์มีความสุขหรือเรื่องอะไรก็ได้นะครับรอเชียร์ๆๆๆ
  • ผมยังต้องเรียนรู้อีกมากยังไม่เก่งเลยครับ
  • ขอให้อาจารย์มีความสุขกับการทำงานครับ
  • เอานกมาฝากหนุ่นน้อยชูสองนิ้ว
  • เจ้าตัวเล็กของอาจารย์ชื่ออะไรครับ
  • http://www.gotoknow.org/blogs/posts/438086

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์อภิชาตบุตร,

ถ้าปริมไปนั่งในที่เดียวกับอาจารย์ เกรงเหลือเกินว่าเสียงนั้นจะเป็นของข้าเจ้าเอง...

เป็นคนทำสมาธิไม่เป็นค่ะ ใจลอยไปบ่อยและไกลมาก หากอ่านหนังสือหรือทำอะไรที่ชอบอยู่ตรงหน้ารู้สึกใจลอยน้อยลงค่ะ

ขอบคุณบันทึกที่ทำให้รู้สึกว่าการปฏิบัติธรรมสนุกค่ะ ;)

สวัสดีวันพุธค่ะ

ขอบคุณครับ อ. Blank ที่เองนกมาฝาก "ลิง"  คงจะวิ่งไล่จับกันทั้งวัน....อิอิ

ขอบคุณครับ คุณ ปริม Blank 

ใจลอยไปบ่อยและไกลมาก จะลอยไปไหนก็บ่อยเขาไปครับประเดี๋ยวก็กลับมา ถ้าไม่กลับมาก็กลั้นหายใจดู ดูซิใจจะกลับมาไหม?  (อันนี้ไม่ได้ประชดนะครับ  หลวงพ่อชาสอน...ครับ) แล้วใจมาอยู่กับกาย แล้วสติก็จะมาอยู่กับเรา

ขอบคุณค่ะท่านอาจารย์ ลองนำการกลั้นหายใจไปใช้ ได้ผลจริงๆ ค่ะ ใช้มาแล้วครั้งหนึ่ง จะลองใช้อีกเพื่อ validate วิธีนี้ด้วยตัวเองค่ะ

ขอบคุณจากใจค่ะ

ผมอ่านบันทึก "เมื่อวานกับบททดสอบ...ที่ฉันสอบตก..."  ของคุณBlank แล้วชื่มชมมากเลยครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท