ตอนนี้กำลังทำเรื่องวิเคราะห์สถานะของผู้ประสบปัญหาสถานะบุคคล ใกล้จะได้ไปยื่นคำขอที่อำเภอแล้ว เลยอยากจะมาลองมาทบทวนการยื่นคำขอพิสูจน์ความเป็นบิดาและบุตรตามมาตรา ๗ วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติสัญชาติพ.ศ.๒๕๐๘ แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ ๒ พ.ศ.๒๕๓๕ และฉบับที่ ๔ พ.ศ.๒๕๕๑ มาถึงแล้วก็ได้ทำงานสมใจเลย ลองวาดภาพการดำเนินการในวันจริง(ที่กำลังจะมาถึง)
๑.นัดพบเจอพ่อแม่ของน้องๆที่คลินิกกฎหมายอุ้มผาง โรงพยาบาลอุ้มผาง(กำหนดวันนัดพบยังไม่ชัดเจน แต่ใกล้แล้ว) ในช่วงเช้า ฝนอาจเป็นอุปสรรคบ้าง
๒.พูดคุยกันถึงเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ ทั้งพระราชบัญญัติสัญชาติ, กฎกระทรวงกำหนดวิธีการและค่าธรรมเนียมคำขอพิสูจน์ความเป็นบิดาซึ่งมีสัญชาติไทยของผู้เกิดเพื่อการได้สัญชาติไทยโดยการเกิด พ.ศ.๒๕๕๓ ,ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ แบบคำขอ หนังสือรับรองและวิธีการสอบสวนเพื่อพิสูจน์ความเป็นบิดาซึ่งมีสัญชาติไทยของผู้เกิดเพื่อการได้สัญชาติไทยโดยการเกิด พ.ศ.๒๕๕๔ ตรงนี้นี้คงเป็นพูดคุยกันแบบคร่าวๆ จะพยายามย่อยภาษากฎหมายให้ฟังดูเข้าใจง่ายที่สุด อย่างน้อยก็ให้เจ้าของปัญหาเองได้ทราบและเข้าใจในวิธีการและลำดับขั้นตอนการปฏิบัติเบื้องต้นในการยื่นคำขอพิสูจน์ความเป็นบิดาและบุตรกับพนังานเจ้าหน้าที่
๓.พูดคุยกันเสร็จก็ให้เตรียมพยานเอกสารเลย สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เป็นพ่อ สำเนาทะเบียนประวัติของน้องบางคน และที่สำคัญ(ไม้เด็ดของเรา) สำเนาหลักฐานการพิสูจน์ทางพันธุกรรม(ดีเอ็นเอ) เตรียมกันให้พร้อมที่คลินิกกฎหมายนี่แหละ
๔.เดินทางไปที่ว่าการอำเภอพร้อมๆ กัน แล้วกรอกแบบคำขอพิสูจน์ความเป็นบิดาและบุตร(หวังว่าที่อำเภอคงมีแบบคำขอนะ) แล้วยื่นคำขอดั่งกล่าวต่อนายอำเภอ เสียค่าธรรมเนียมฉบับละ ๕๐ บาทตามกฎกระทรวงฯ
มีข้อสังเกตว่า เรามีข้อ ๕ ของประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ แบบคำขอ หนังสือรับรองและวิธีการสอบสวนเพื่อพิสูจน์ความเป็นบิดาซึ่งมีสัญชาติไทยของผู้เกิดเพื่อการได้สัญชาติไทยโดยการเกิด พ.ศ.๒๕๕๔ ซึ่งวางหลักไว้ว่า กรณีที่ผู้ยื่นคำขอมีหลักฐานการพิสูจน์ทางพันธุกรรม(ดีเอ็นเอ) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยกเว้นการสอบสวนพยานบุคคลที่น่าเชื่อถือ ฉะนั้นในเมื่อเรามีหลักฐานการตรวจทางพันธุกรรมแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้พยานบุคคลอีก
๕.เจ้าของปัญหารับ”ใบรับ” ไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่จะพิจารณาคำขอภายในสามสิบวันนับแต่วันได้รับคำขอถูกต้องและครบถ้วน หรือกรณีขยายระยะเวลาการพิจารณาคำขอก็ขยายได้อีกสามสิบวันนับแต่วันครบกำหนดคราวแรก ในกรณีนี้หากพนักงานเ้จ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ขอเป็นบิดาของผู้เกิดจริงก็จะออกหนังสือรับรองการพิสูจน์ความเป็นบิดาซึ่งมีสัญชาติไทยของผู้เกิดเพื่อการได้สัญชาติไทยโดยการเกิดให้ หากไม่เชื่อว่าเป็นบิดาและบุตรกันจริง ก็ต้องแจ้งคำสั่งปฏิเสธพร้อมเหตุผลมายังผู้ยื่นคำขอด้วย คราวนี้ก็คงต้องอุธรห์คำสั่งอีกละ
ไม่รู้เหมือนกันว่าทางอำเภอจะเข้าใจกฎหมายเหมือนที่เราเข้าใจหรือเปล่า บางทีกฎหมายไม่ให้เรียกพยานบุคคลมาสอบสวน(คงไม่มีใครกล้าเถียงผลตรวจดีเอ็นเอที่ระบุว่าผู้ตรวจเป็นพ่อลูกกันหรอก) แต่ดูท่าว่าทางอำเภออยากได้พยานบุคคลมาสอบสวนด้วย มึนเลย
การที่จะให้สิทธิเสรีภาพกับบุคคลตามที่เขาควรจะได้นั้นเราคิดว่ามันไม่ใช่การทำบุญแบบที่ใครเขาคิดกัน เรากลับคิดว่าการให้สิทธิเสรีภาพกับบุคคลเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่ให้อำนาจเราทำได้ ดังนั้นการไม่ยอมให้สิทธิเสรีภาพตามที่เขาควรจะได้รับนั้น มันจึงไม่ใช่การทำบาป แต่มันคือการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายต่างหาก
เราคงจะเห็นกันไงคะว่า อำเภออุ้มผางจะเคารพกฎกระทรวงที่ออกโดยกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ และถ้าอำเภอยังจะเรียกพยานบุคคลอีก โจ้งจะเคารพอำเภอหรือเคารพอำเภอ .... เป็นเรื่องวัดใจกันค่ะ
เขียนผิดไปที่หนึ่ง ขอเขียนใหม่
"เราคงจะเห็นกันไงคะว่า อำเภออุ้มผางจะเคารพกฎกระทรวงที่ออกโดยกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ และถ้าอำเภอยังจะเรียกพยานบุคคลอีก โจ้งจะเคารพ "กฎหมาย" หรือเคารพอำเภอ .... เป็นเรื่องวัดใจกันค่ะ"
ขอบคุณ อาจารย์แหววครับ เดี๋ยววันจันทร์ที่จะถึงผมคงได้ฟังความเห็นอาจารย์ครับ(ที่แม่สอด)
เอาความฝันเกี่ยวกับอุ้มผางศึกษาของ อ.แหวว มาให้โจ้งอ่านจ๊ะ
อุ้มผางศึกษา : เป้าหมายกิจกรรมวิจัยเพื่อการพัฒนาหรือกิจกรรมพัฒนาเพื่อวิจัยควรจะมาจากความต้องการของเรื่องจริง, เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๔