การตัดสินใจ หมายถึง กระบวนการเลือกทางเลือกใดทางเลือกหนึ่ง จากหลาย ๆ ทางเลือกที่ได้พิจารณา หรือประเมินอย่างดีแล้วว่า เป็นทางให้บรรลุวัตถุประสงค์ และเป้าหมายขององค์การ การตัดสินใจเป็นสิ่งสำคัญ และเกี่ยวข้องกับ หน้าที่การบริหาร หรือการจัดการเกือบทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการวางแผน การจัดองค์การ การจัดคนเข้าทำงาน การประสานงาน และการควบคุม
Decision Making
Decision = การตัดสินใจ
Making = การทำ
Decision Making = การตัดสินใจ
นักวิชาการได้ให้ความหมายของการตัดสินใจดังนี้
Barnard การตัดสินใจ คือ เทคนิคในการที่จะพิจารณาทางเลือกต่างๆ ให้เหลือทางเลือกเดียว
Simon การตัดสินใจ คือ กระบวนการหาโอกาสที่จะตัดสินใจ หาทางเลือกที่พอจะเป็นไปได้ และทางเลือกจากงานต่างๆที่มีอยู่
Moody การตัดสินใจ เป็นการกระทำที่ต้องทำเมื่อไม่มีเวลาที่จะหาข้อเท็จจริงอีกต่อไป ซึ่งการหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้เวลาและค่าใช้จ่าย
Gibson and Ivancevich การตัดสินใจหมายถึง กระบวนการสำคัญขององค์กรณ์ ที่ผู้บริหารจะต้องกระทำอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลข่าวสาร (Information) ซึ่งได้รับมาจากโครงสร้างองค์การ พฤติกรรมบุคคล และในกลุ่มองค์การ
uJones การตัดสินใจขององค์การ หมายถึง กระบวนการที่จะแก้ปัญหาขององค์กร โดยการค้นหาทางเลือก หรือแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดที่จะบรรลุเป้าประสงค์ที่วางไว้
บุษกร คำคง การตัดสินใจ หมายถึง การใช้ข้อมูลพื้นฐานจากเรื่องที่กำลังพิจารณา โดยการใช้ความรู้พื้นฐานและข้อสรุปที่เป็นที่ยอมรับ นำมาผสมผสานกับการสรุปอ้างอิง เพื่อนำไปสู่เป้าหมาย แสดงทิศทางนำไปสู่การตัดสินใจ
มุมมองของนักวิชาการแต่ละคน
สามารถแยกประเด็นหลักที่มองเหมือนกันคือ
1. การตัดสินใจเกี่ยวข้องกับทางเลือก
การรตัดสินใจเป็นการพยายามสร้างทางเลือกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทางเลือกที่น้อยอาจปิดโอกาสให้เกิดความคิดสร้างสรรค์หรือทางเลือกที่ดีกว่าได้ ผู้บริหารที่ดีจำเป็นต้องมีการฝึกฝนการสร้างทางเลือกที่มากขึ้น หลากหลายด้วยวิธีการคิดแบบริเริ่ม และคิดแบบสร้างสรรค์
2. การตัดสินใจเกี่ยวข้องกับโครงสร้างขององค์การ
• บริหารระดับสูง จำเป็นต้องตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางที่ถูกต้องเพื่อใช้ทรัพยากรที่จำเป็นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์การที่กำหนดไว้
• ผู้บริหารระดับกลาง จะตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดการ เป็นการตัดสินใจเพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
• ผู้บริหารระดับต้น จะตัดสินใจเกี่ยวกับการปฏิบัติการ เป็นการตัดสินใจดำเนินการควบคุมงานให้สำเร็จตามระยะเวลาและเป้าหมายที่กำหนดไว้
3.การตัดสินใจเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมคน
การตัดสินใจเกี่ยวข้องตั้งแต่คนเดียว กลุ่มและทั้งองค์การซึ่งพฤติกรรมคนแต่ละคนก็แตกต่างกันผู้บริหารที่ดีจะต้องมีความเข้าใจและมีจิตวิทยาเกี่ยวข้องกับบุคคลกลุ่ม และองค์การที่ดีพอจึงจะทำให้การตัดสินใจประสบผลสำเร็จได้
การตัดสินใจ หมายถึง กระบวนการเลือกทางเลือกใดทางเลือกหนึ่ง จากหลาย ๆ ทางเลือกที่ได้พิจารณา หรือประเมินอย่างดีแล้วว่า เป็นทางให้บรรลุวัตถุประสงค์ และเป้าหมายขององค์การ การตัดสินใจเป็นสิ่งสำคัญ และเกี่ยวข้องกับ หน้าที่การบริหาร หรือการจัดการเกือบทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการวางแผน การจัดองค์การ การจัดคนเข้าทำงาน การประสานงาน และการควบคุม
รูปแบบของการตัดสินใจ
( Models of Decision Making)
-รูปแบบการตัดสินใจแบบคลาสสิก (The classical Decision-Making Model)
-รูปแบบการตัดสินใจเชิงพฤติกรรม (The Behavioral Decision-Making Model)
-รูปแบบการตัดสินใจของวรูมและเยทตัน ( Vroom-Yetton Normative Model)
รูปแบบการตัดสินใจแบบคลาสสิก
(The classical Decision-Making Model)
-นิยามปัญหา
-ขยายตัวเลือก
-ประเมินตัวเลือก
-เลือกจากตัวเลือก
-ตัดสินใจ
-ประเมินการตัดสินใจ
รูปแบบการตัดสินใจเชิงพฤติกรรม
(The Bahavioral Decision-Making Model)
-ความพึงพอใจ (Satisfying)
-เหตุผลตามบริบทและเหตุผลตามวิธีดำเนินการ (Contextual Rationality and Procedural Rationality)
-การใช้หตุผลย้อนหลัง ( Retrospective Rationality)
-การเพิ่มเหตุผล (Incrementalizing)
-รูปแบบถังขยะ (The Garbage Can Model)
-รูปแบบการตัดสินใจของวรูมและเยทตัน (Vroom-Yetton Normative Model)
ผลที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการตัดสินใจ
•ผู้บริหารต้องปฏิบัติหน้าที่ที่น่าตื่นเต้นและตันสินใจภายใต้ความกดดันเนื่องจากการมีเวลาไม่มากนัก ดังนั้นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจึงมีผลดีกว่าการคัดสินใจตามลำพัง หรือแต่ละตัวบุคคล เพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ การยอมรับ การเข้าใจ การพิจารณาและความเที่ยงตรง
•ผู้บริหารโรงเรียนต้องปฏิบัติหน้าที่ที่น่าตื่นเต้นและตันสินใจภายใต้ความกดดันเนื่องจากการมีเวลาไม่มากนัก ดังนั้นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจึงมีผลดีกว่าการคัดสินใจตามลำพัง หรือแต่ละตัวบุคคล เพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ การยอมรับ การเข้าใจ การพิจารณาและความเที่ยงตรง
โดยสรุปการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ในการตัดสินใจมีดังนี้
1. คุณภาพการตัดสินใจ
2. ความคิดสร้างสรรค์จากการตัดสินใจ
3. การยอมรับการตัดสินใจ
4. ความเข้าใจในการตัดสินใจ
5. การพิจารณาการตัดสินใจ
6. ความแม่นยำในการตัดสินใจ
ทฤษฎีเกี่ยวกับการตัดสินใจ
ทฤษฎีหมวก 6 ใบ กลยุทธ์เพื่อการตัดสินใจ
ภารกิจหนึ่งที่สำคัญของผู้บริหารที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้คือ การตัดสินใจ ซึ่งต้องกระทบด้วยความรอบคอบ เพราะการตัดสินใจใดๆ อาจส่งผลกระทบทั้งในด้านบวกและด้านลบได้ เพื่อให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำทฤษฎีหมวก 6 ใบ ของ ดร. เอ็ดวาร์ด เดอ โบโน มาประยุกต์ใช้โดยให้มีการพิจารณาเรื่องราวต่างๆ ในหลายมุมมองตามหมวก 6 ใบที่มีสีสันต่างๆ กันเพื่อแทนความคิดในมุมมองนั้นๆ
หมวกสีขาว เป็นตัวแทนของข้อเท็จจริง ซึ่งได้แก่ ตัวเลขและข้อมูลต่างๆ ที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์ เพื่อหาข้อสรุปโดยไม่คำนึงถึงทัศนคติหรือความคิดเห็นใดๆ
หมวกสีแดง เป็นตัวแทนของอารมณ์และความรู้สึกที่มีต่อเรื่องราวนั้นๆ โดยไม่จำเป็นต้องอธิบายเหตุผลใดๆ
หมวกสีฟ้า เป็นตัวแทนของการควบคุมความคิดทั้งหมดหรือมุมมองในทางกว้างที่ครอบคลุมทุกสรรพสิ่งซึ่งเปรียบเหมือนท้องฟ้า ผู้บริหารที่ใช้หมวกนี้จะต้องอาศัยประสบการณ์เป็นอย่างมาก
หมวกสีเหลือง การคิดแบบหมวกเหลืองเป็นการคิดในเชิงบวก การมองโลกในแง่ดี การมุ่งมองที่ประโยชน์ การคิดก่อที่ให้เกิดผล หรือทำในสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นได้ การคิดแบบหมวกเหลืองเกี่ยวข้องกับการประเมินค่าทางบวก
หมวกสีเขียว หมายถึง ความคิดที่เกี่ยวข้องกับความคิดใหม่ๆและวิธีการใหม่ๆในการมองสิ่งต่างๆดั้งนั้นหมวกสีเขียวจึงเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง การคิดแบบหมวกเขียวเป็นการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
หมวกสีดำ เป็นหมวกคิดที่เป็นธรรมชาติ และสอดคล้องกับวิธีการคิดของตะวันตกมาก หมวกสีดำชี้ให้เราเห็นความผิดปกติ สิ่งใดไม่สอดคล้อง สิ่งใดใช้ไม่ได้ มันช่วยปกป้องเราไม่ให้เสียเงินและพลังงาน ป้องกันไม่ให้เราทำอะไรอย่างโง่เขลาเบาปัญญา และผิดกฎหมายหมวกดำเป็นหมวกคิดที่มีเหตุผลเสมอ
ความสำคัญ ขั้นตอนการตัดสินใจให้มีประสิทธิภาพ
1. ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนในเหตุผลสำหรับการตัดสินใจ
2. วิเคราะห์ลักษณะของปัญหาที่จะตัดสินใจ
3. ตรวจสอบทางเลือกต่างๆ ในการแก้ปัญหาโดยพิจารณาถึงผล ที่อาจเกิดตามมาด้วยเทคนิคการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการตัดสินใจ
เทคนิคการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการตัดสินใจ
1. การระดมสมอง
2. การใช้เกณฑ์ของกลุ่ม
3. เทคนิคเดลฟาย
4. การแสดงบทบาทของผู้ร้าย
5. การสืบค้นโดยการสนทนา
การระดมสมอง (Brain Storming)
เป็นความคิดที่หลากหลาย และสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาลักษณะเด่นคือ มีการแยกแยะความคิดต่างๆ
กฎเกณฑ์ในการใช้เทคนิคนี้คือ
•อย่าประเมินหรืออภิปรายตัวเลือก
•กระตุ้นให้มีการหมุนเวียนความคิด
•กระตุ้นและยอมรับความคิดให้มาก
•กระตุ้นให้ทุกคนเป็นเจ้าของความคิด
การใช้เกณฑ์ของกลุ่ม
•เป็นอีกเทคนิคหนึ่งของการแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งเป็นการนำเอาบางส่วนมาจากวิธีการระดมสมอง มีกระบวนการ 6 ขั้นตอน
•การนำความคิดมาแสดงอย่างเงียบๆ
•บันทึกแนวคิดของสมาชิกทุกคน
•อภิปรายแนวความคิด
•เริ่มลงคะแนนข้อที่สำคัญ
•การอภิปรายเพิ่มเติม
•การลงคะแนนครั้งสุดท้าย
เทคนิคเดลฟาย (Delphi Technique)
•ผู้พัฒนาเทคนิคนี้คือ บริษัทแรนด์ ลักษณะเด่นคือ ผู้ที่ร่วมคิดหรือลงความคิดเห็นไม่ต้องมีการเผชิญหน้ากันในการอภิปรายข้อมูล เป็นการลงความเห็นโดยการตอบแบบสอบถามแล้วส่งกลับมา
ประโยชน์ที่ได้จากเทคนิคเดลฟาย
1. ขจัดปัญหาควาสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
2. เป็นการช่วยผู้เชี่ยวชาญให้สามารถจัดสรรเวลาของตนเอง
3. ใช้เวลาในการวิเคราะห์ได้อย่างเหมาะสม
4. แนวคิดเชิงปริมาณที่หลากหลาย
5. สะดวกในการนำผลมาพยากรณ์เหตุการณ์ในอนาคต
การแสดงบทบาทของผู้ร้าย (Devil' Advocacy)
เป็นเทคนิคของการปรับปรุงคุณภาพของการให้กลุ่มตัดสินใจ โดยเริ่มต้นจากการเสนอข้อขัดแย้งไปจนถึงกระบวนการตัดสินใจ วิธีนี้ช่วยให้ผู้เสนอทางเลือกหลุดพ้นจากอิทธิพลของกลุ่ม
การสืบค้นโดยการสนทนา
เป็นเทคนิคที่มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมสถานการณ์การคิดของกลุ่ม โดยจะแยกกลุ่มออกเป็นกลุ่มย่อย ซึ่งในแต่ละกลุ่มจะประชุมแยกกันแล้วจึงนำผลการจัดอันดับทางเลือกมาอภิปรายร่วมกัน
ประเภทของปัญหา
1. ปัญหาวิกฤต (Crisis Problem) เป็นปัญหาที่จำเป็นต้องตัดสินใจอย่างเร่งด่วน มิฉะนั้น
จะส่งผลเสียต่อองค์กรเป็นอย่างมาก
2. ปัญหาไม่วิกฤต(Non-Crisis Problem) เป็นปัญหาที่จำเป็นต้องแก้ไข
แต่ไม่เร่งด่วน มีเวลาเตรียมการตัดสินใจแก้ไขปัญหาค่อนข้างมาก
3. ปัญหาที่เป็นโอกาส(Opportunity Problem) เป็นปัญหาที่ไม่วิกฤตประเภทหนึ่ง
ปัญหาประเภทนี้จะแฝงไว้ด้วยศักยภาพและโอกาสแห่งความสำเร็จขององค์กร
สถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจ
1. การตัดสินใจภายใต้ความที่แน่นอน เป็นการตัดสินใจที่ทราบผลลัพธ์การตัดสินใจล่วงหน้าอย่างแน่นอนแล้วว่า ถ้าเลือกทางเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ผู้ตัดสินใจมีข้อมูลอย่างเพียงพอ และทราบถึงผลลัพธ์ของแต่ละทางเลือก
ผลลัพธ์จะเกิดขึ้นแน่นอนคือเกือบไม่มีการเสี่ยงใด ๆ เลย และจะเลือกทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด 2.การตัดสินใจภายใต้ความเสี่ยง
การตัดสินใจภายใต้ความเสี่ยง คือ การตัดสินใจที่ทราบผลลัพธ์ของการตัดสินใจน้อยกว่าการตัดสินใจภายใต้สถานการณ์ที่แน่นอน แต่พอจะคาดคะเนความน่าจะเป็นหรือโอกาสที่น่าจะเกิดขึ้น ซึ่งผู้ตัดสินใจมีข้อมูลสำหรับการตัดสินใจไม่เพียงพอ
การตัดสินใจอยู่ภายใต้ความเสี่ยงคือผู้ตัดสินใจจะต้องคาดคะเนถึงโอกาสหรือความน่าจะเกิดขึ้นโดยอาศัยประสบการณ์ร่วมด้วย และจะพิจารณาเลือกทางเลือกที่ผลตอบแทนสูงสุดและโอกาสที่จะเกิดขึ้นของทางเลือก 3.การตัดสินใจภายใต้ความไม่แน่นอน เป็นการตัดสินใจที่ไม่สามารถคาดการณ์ผลลัพธ์และโอกาส หรือความน่าจะเป็นที่เกิดขึ้น การตัดสินใจภายใต้ความไม่แน่นอนจะมีลักษณะใหญ่ๆดังนี้คือ
1. ผู้ตัดสินใจไม่ทราบผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นของแต่ละทางเลือก เพราะไม่มีข้อมูลที่จะใช้ประกอบ
2. ผู้ตัดสินใจไม่ทราบถึงโอกาสที่จะเป็นไปได้
3. มีสภาวะนอกบังคับ หรือตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้ หรือตัวแปรที่ผู้ตัดสินใจไม่อาจคาดเดาได้ ซึ่งมิอิทธิพลต่อการตัดสินใจอย่างยิ่ง
“The person who risks nothing does nothing, has nothing, is nothing”
"บุคคลที่ไม่เสี่ยงใดเลย จะไม่ได้ทำสิ่งใดเลย จะไม่มีสิ่งใดเลย และท้ายที่สุดจะไม่ได้เป็นอะไรเลย"