2 คนไทยสะพายเป้ไปคุนหมิงBackpackers: Symbol Language เอาตัวรอดได้


ความสำคัญของ Symbol Language ในดินแดนที่ภาษาอังกฤษก็ใช้สื่อสารไม่ได้ เพื่อความอยู่รอดและบรรลุเป้าหมายในการเดินทางมาเที่ยวเอง

  • ไม่นานมานี้ ผมกับคู่ชีวิตหารือกันว่า เนื่องจากเราเดินทางไปต่างประเทศมาหลายครั้งมีคะแนนไมล์สะสมมากพอที่จะต้องรีบใช้ก่อนหมดอายุ จึงค้นหาข้อมูลประเทศที่พอจะมีไมล์เพียงพอที่จะแลกได้ คุนหมิง,ยูนนาน จึงเป็นเป้าหมายที่เราจะไปเที่ยวเองแบบนักท่องเที่ยวสะพายเป้(Backpackers.)
  • จัดการแลกตั๋วเครื่องบิน เช็ควันเดินทาง เที่ยวบินขาไปและขากลับโดยต้องเสียภาษีเองบางส่วน จองที่พักในเมืองคุนหมิงผ่านเว็บไซด์แบบไม่เก็บเงินล่วงหน้าได้โรงแรมชื่อ Kunming Jin Hua Business Hotel(ไปถึงแล้วจึงหาโรงแรมไม่เจอ แล้วจะเล่าต่อไป) การเดินทางในประเทศใช้วิธีจองตั๋วไป-กลับ โดยเดินทางเอารถไปจอดที่สนามบินอุดรธานี แล้วฝากรถไว้ที่สนามบิน วันละ 100 บาท
  • ก่อนไปได้ตรวจสอบกับเอเยนซีท่องเที่ยวที่จังหวัดเลย ให้ช่วยทำวีซ่าเข้าประเทศจีน เพราะค้นข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตแล้ว พาสปอร์ตทั่วไปต้องทำ ค่าธรรมเนียมคนละ 1000 บาท(จะไปทำเมื่อเดินทางไปถึง Visa All Arrival ก็ได้ แต่กลัวสื่อสารกันยาก) เอเยนซี่จึงส่งไปให้ญาติทำให้ที่เชียงใหม่(มีสถานทูตที่รับทำวีซ่า) แต่หากมีพาสปอร์ตราชการ(ปกน้ำเงิน)จะสามารถเข้าประเทศจีนได้ 30 วันโดยไม่ต้องทำวีซ่า

อธิบายภาพ : บน เที่ยวบิน, เส้นทางจากสนามบินคุนหมิง(เก่า) เข้าเมือง

ล่าง โรงแรม YUNNAN KING WORLD INT'L HOTEL ,ซองใส่การ์ดเข้าห้องพัก

  • การเดินทางราบรื่นเป็นไปตามกำหนดทุกประการ อากาศอบอุ่นเกือบจะร้อน ผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองก็วุ่น ๆ เพราะใช้ภาษากันไม่รู้เรื่อง โดนตรวจซ้ำเดินผ่านกล้องวัดอุณหภูมิไปหลายคน(ตรวจไข้หวัด2009) รวมทั้งผมด้วย สงสัยดื่มไวน์บนเครื่อง(การบินไทย) จึงทำให้ตัวร้อนมั้ง ออกมานอกสนามบิน เอาละซิ คุยภาษาอังกฤษกันไม่ได้เลย มีแท็กซี่ป้ายดำ(ส่วนบุคคล) มาเสนอไปส่ง เอาใบจองโรงแรมKunming Jin Hua Business Hotel ให้ดู เขาก็วิ่งเอาไปให้เพื่อนอ่าน แล้วมายืนยันว่ารู้จัก พาไปได้ ตกลงราคากัน 50 หยวน(1หยวน เท่ากับ 5 บาท) แท๊กซี่ก็ดีนะ(เสียดายลืมถ่ายภาพไว้เพราะกำลังยุ่งกลัวจะหาที่พักไม่ได้) กล่าวคือ แกพามาถูกโรงแรมแล้วแหละ แต่ดันพนักงานต้อนรับหาชื่อที่จองมาไม่เจอ หรือที่แน่ ๆ เขาไม่ค่อยสนใจหาอย่างจริงจัง และไม่พูดภาษาอังกฤษเลย แท็กซี่ก็ขนกระเป๋าขึ้นรถอีกครั้งพาไปอีกโรงแรมซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน(โรงแรมมีเยอะ)เราดูป้ายชื่อโรงแรมแล้วไม่ใช่แน่นอนเพราะมีชื่อภาษาอังกฤษอยู่ด้วย อุตส่าห์หาคนที่พูดภาษาอังกฤษมาคุยด้วย เราเองก็ตัดสินใจโทรฯไปที่โรงแรมที่ได้จองมาเพราะมีเบอร์โทรฯมาด้วย ได้เปิดโรมมิ่งมาจึงสามารถโทรฯได้ แต่ยังคุยไม่รู้เรื่อง จึงยื่นโทรศัพท์มือถือให้แท็กซี่คุยด้วย ปรากฏว่า โอละพ่อเป็นโรงแรมแรกที่ไปส่งนั่นเอง เขาเปลี่ยนชื่อโรงแรมแต่ในอินเทอร์เน็ตที่ให้บริการจองออนไลน์ไม่เปลี่ยนตาม ก็กลับมาส่งที่เดิม แท็กซี่บ่นใหญ่เลย ที่จอดรถก็ไม่ค่อยมี ขนกระเป๋าขึ้นลงหลายรอบ เราก็กล่าวขอบคุณและเพิ่มค่าจ้างให้ไป 100 หยวน ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะได้ห้องพักบนชั้น 14 (เตียงเดี่ยว วิวสวย)เป็นแบบมาตรฐานสากล เหมือนโรงแรมทั่วไป แต่ไม่มีอาหารเช้า

ภาพบนซ้าย เป็นภาพที่ลงในอินเทอร์เน็ตของ Kunming Jin Hua Business Hotel  ส่วนภาพขวา เป็นภาพโรงแรมที่ไปบันทึกภาพมาด้วยตนเองที่ฝั่งถนนตรงกันข้ามโรงแรม ชื่อว่า YUNNAN KING WORLD INT'L HOTEL เป็นโรงแรมเดียวกันแต่เปลี่ยนชื่อแล้ว ที่เห็นอาคารยื่นออกมาด้านหน้าโรงแรมที่เป็นตึกสูง คือตลาดนัดหยกที่มีขายหลายอย่าง หลายชั้น

  • ยังมีอีกเรื่อง หลัก ๆ 2 เรื่องที่มาเที่ยวเองแล้วต้องไปชมให้ได้ ใน 3 คืน ที่จองที่พักไว้ เดิมอยากไปถึงเมือง ต้าลี่ และ หลี่เจียง ซึ่งอยู่ไกลไปอีกคนละเมือง คงจะลำบากมากหากไปเอง เพราะจองเครื่องบินเที่ยวกลับไว้แล้ว จึงวางแผนว่า วันนี้ต้องไปชม Yunnan Impression Show(Dynamic Yunnan) ให้ได้ พรุ่งนี้ค่อยไปชมThe Stone Forest หรือคนจีนเรียกว่า Shilin ซึ่งเป็นมรดกโลกที่คนไทยนิยมมาเที่ยวแต่เรียกแทนเมืองคุนหมิง(จริง ๆ อยู่ห่างไป 150 กม.จากเมืองคุนหมิง)
  • เมื่อนอนพักเหนื่อย 16.00-17.00 น. 2 คนไทยสะพายเป้จากเมืองเลยก็ออกตระเวณไปหาซื้อตั๋วท่องเที่ยวทั้งสองแห่งที่เราวางแผนไว้ที่ตลาดการท่องเที่ยว ด้วยความมั่นใจว่าภาษาอังกฤษเราแข็งแรงพอที่จะคุยกันได้ เดินไปเจอโลโก้การบินไทยที่จัดท่องเที่ยวไทยที่มีสำนักงานใกล้ ๆ โรงแรมรีบปรี่เข้าไปถาม ปรากฏว่าเป็นทัวร์ที่จัดขายให้คนจีนไปเที่ยวไทย แต่ก็แนะนำให้ไปเส้นทางที่มีตลาดเอเยนซีทัวร์จีน (CCT : China Comfort Travel) ที่มีอยู่เต็ม 2 ฝั่งถนนทั้งสาย แต่ก็ไม่ได้ Comfort กับชาวต่างชาติ เพราะสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษไม่ได้เลย จึงมาถึงบางอ้อว่า คนจีนจัดท่องเที่ยวที่คุนหมิงไม่ต้องง้อต่างชาติเพราะลำพังคนจีนก็มาเที่ยวกันมาก เดินหาหลาย ๆ แห่ง บางแห่งก็ช่วยแปลผ่านกูเกิลให้ แต่สรุปแล้วก็คืออธิบายให้ฟังวิธีการไป ราคาตั๋วไปชม(ป่าหิน) แต่ก็ไม่สามารถขายตั๋วให้ได้ โชคยังดี เรามาเจอหนู Shing Ji ที่พูดภาษาอังกฤษได้และยินดีช่วยเหลือการไปชมโชว์Dynamic Yunnan รอบค่ำวันนี้ ส่วนป่าหินนั้นสัปดาห์นี้ตั๋วเต็มหมดแล้ว

  • เธอได้โทรนบอกเพื่อนที่อยู่หน้าTheater ให้เตรียมตั๋วคามราคาและรอบที่เราจะไปหา(เราเลือกที่นั่งราคาระดับกลาง ๆ หน้าเวที ปกติราคา 260 หยวน แต่เธอติดต่อให้เพื่อนซื้อได้เพียง 220 หยวน)้ ผมให้เธอเขียนเป็นภาษาจีนเพื่อส่งให้แท็กซี่พาไปรอบหนึ่งทุ่ม และแจ้งชื่อเพื่อนที่เราจะไปถามหา ส่วนขากลับโรงแรมไม่น่าเป็นห่วงเพราะเรามีป้ายการ์ดโรงแรมติดไปด้วย แม้ว่าขากลับมาเป็นเวลาที่ดึก ฝนตก มืด แต่ก็ไม่ไกลที่พัก และได้รู้ว่าคำแท็กซี่ตอนกลางคืนจะมีค่า Fuel Surcharge อีก 2.5 หยวน เพิ่มจากมิเตอร์ ที่จริงเขามีป้ายเล็ก ๆ ติดไว้ตรงหน้าที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า (การแสดงดีมาก เป็นการเล่าเรื่องการละเล่นและประเพณีชนเผ่าชาวเขา(Local people of Yunnan) ที่มีอยู่มากมาย ใช้คนแสดงเยอะ มีดนตรีที่เร้าใจและเรียบเรียงใหม่ นางเอกประจำการแสดงนี้คือ Peacock Princess in China

  • อาหารมื้อเย็นวันนี้ลองพากันตลุยภัตตาคารอร่อย ๆ ในเมืองที่มีเยอะมาก ร้านขายผลไม้ก็หลากหลาย สด ลูกโต ถูกใจสุภาพสตรียิ่งนัก อาหารเย็นร้านแรกค่ำนี้มีมาตรฐาน คือมีเมนูให้ชี้บอก แม้จะพูดอังกฤษได้น้อย ก็ยังสื่อกันได้

ภาพชุดล่าง ที่ผมใส่เสื้อยืดแขนสั้น เป็นมื้อเย็นอีกวันที่เมนูพิเศษภาษาอังกฤษ(บ่นกระดาษเก่า ๆ คงเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวดู)แต่ไม่มีภาพ ของอีกภัตตาคารใกล้ ๆ ร้านเดิม ค่ำนี้ตลกมากที่ต้องใช้ภาษาสัญลักษณ์ เพราะไม่มีป้ายบอกห้องน้ำ ไปถามเด็กเสิร์ฟ ถามว่า "ทอยเลต" เด็กก็แสดงท่าเป็นการจิ้มฟัน ก็เลยแสดงท่าการฉี่ให้ดู เด็กเข้าใจ ชี้ทิศทางให้แล้วก็หันมาหัวเราะกันคิกคัก มีคนไทยที่ไปด้วยกันยืนยัน แหะ.. แหะ. เห็นไหม ภาษาสัญลักษณ์ก็ใช้ได้...

  • เอาหละ ได้ชมแล้ว 1 รายการที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ วันนี้ช่วยกันภาวนาว่าขอให้โชคดี มีคนพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง จะให้ช่วยหาซื้อทัวร์ไปเที่ยวป่าหินให้ได้ เดินชมตลาดทานอาหารเช้าแบบชาวเมืองคุนหมิง คือทานติ่มซำ แล้วเดินชมตลาดของที่ระลึกและเดินเล่นไปจนถึงสถานีรถไฟคุนหมิง กลับมาที่พักบ่าย ๆ เดินเข้าล็อบบี้จึงสังเกตเห็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประจำโรงแรมจึงเข้าไปติดต่อถาม ที่ว่าโชคดีจริง ๆ เพราะมีหนู Sara (Xiao Tao) กำลังคุยกับคนขายทัวร์ป่าหินอยู่พอดีพร้อมกับญาติและหลาน จึงทราบว่าเธอเดินทางมาจากต่างเมือง ตั้งใจมาเที่ยวป่าหินเช่นกัน พายายกับตามาด้วย เธอพูดภาษาอังกฤษได้ดีมากเพราะเธอเรียนการสอนภาษาอังกฤษอยู่ปีที่ 4 (ขณะนี้จบรับปริญญาแล้ว เพราะเรายังติดต่อกันอยู่เสมอ) เธอจึงช่วยสื่อสารให้เราก็ตกลงใจซื้อทัวร์(วันเดินทางคือพรุ่งนี้ก็ได้ไปคณะเดียวกัน เธอช่วยอธิบายแก่เราขณะที่เที่ยวด้วยกัน)
  • คงเป็นเหมือนกันทุกแห่งในโลก ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องจ่ายค่าทัวร์แพงกว่า เราคุยกันแล้วว่ารวมค่าอาหาร ค่าไกด์ภาษาอังกฤษ ตกคนละ 380 หยวน ขณะที่คนจีน 140 หยวน(ไม่รวมอาหาร) แต่พอไปจริงไม่มีไกด์ภาษาอังกฤษให้ และเราเลือกมาทานอาหารพร้อมกับ ซาราและครอบครัว ไกด์คืนเงินให้เรา 20 หยวน(แสดงว่าค่าอาหารคนละ 10 หยวน 50 บาทเอง)
  • ปัญหาเกิดขึ้นอีก เพราะเราแลกเงินมาพอประมาณ กะว่ามีดอลล่าร์มาคงใช้ได้ การ์ดวีซ่าก็มี แต่เปล่าเลย ใช้ไม่ได้สักอย่าง ต้องใช้เงินหยวนอย่างเดียว(ใครมาเที่ยวจำไว้เลย) ซาราและญาติ ๆ ก็พาเราไปแลกเงินที่ธนาคาร(เดินไป) ทำให้ทราบว่าในประเทศจีน ธนาคารไม่หยุดเสาร์-อาทิตย์ บางแห่งเปิดแบบบริการเอง 24 ชั่วโมง ที่ธนาคาร ผู้จัดการกับสมุห์บัญชีใช้เวลาเกือบ40 นาทีตรวจสอบ ดูแบงก์ 100 USD 2 ใบที่เราแลก ดูแล้ว ดูอีก คงกลัวปลอม เมื่อเสร็จภารกิจจ่ายเงินให้ค่าทัวร์ ผมจึงมอบเงินไทยแบงก์ 20 และ 50 ให้กับซาราและครอบครัวเป็นที่ระลึก

หน้าสถานีรถไฟคุนหมิง และเดินเล่นตอนเช้า ก่อนมาพบ Sara (Xiao Tao) ที่ล็อบบี้โรงแรม และพาไปแลกเงินดอลล่าร์เป็นเงินหยวน สุภาพสตรีเสื้อลายคือคนขายทัวร์ ชายสูงอายุคือคุณตาของซาร่า และสุภาพสตรีอีกคนคือพี่สาวของซาร่า

  • จากนี้จะให้ชมภาพแห่งความประทับใจในการท่องเที่ยวร่วมกันกับชาวจีนใจดี จนถึงภาพสุดท้ายที่จะกลับบ้าน ต้องไปถ่ายป้ายสัญลักษณ์สนามบินเอาไว้ให้แท็กซี่ดู
  • และมีวีดิโอในยูทูปเที่ยวคุนหมิงให้ชมที่นี่ http://www.youtube.com/watch?v=jhoflYGaSm0&feature=plcp

หมายเลขบันทึก: 495723เขียนเมื่อ 23 กรกฎาคม 2012 14:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 กรกฎาคม 2012 16:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท