"วันนี้ดอกไม้บาน"


ผู้ป่วยจิตเวชไม่ใช่คนบ้าเสมอไป เขาเป็นเพียงคนดีที่ป่วยและต้องการการดูแลจากบุคลากรสาธารณสุขและคนรอบกายเพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตกับครอบครัวอันเป็นที่รักของเขาได้

“หมอ...เดี๋ยวนี้ไม่คิดอยากตายแล้วล่ะ มีแต่กลัวตาย กลัวไม่มีใครเลี้ยงหลาน 2 คนน่ะ”

      คำพูดของป้านิภาตอบหลังจากที่ฉันซักประวัติเพื่อประเมินอาการทางจิตตามแบบ MSE (Mental Status Examination) ที่บ้านของป้านิภา หลังจากที่ได้รับแจ้งจากพี่พยาบาลจิตเวชของโรงพยาบาลให้เภสัชกรในพื้นที่ช่วยไปดูแลการใช้ยาของป้านิภา

     ครั้งหลังสุดที่ป้ามารับยาที่ รพ.สต. ฉันได้ประสานให้ไปพบจิตแพทย์ของโรงพยาบาลจังหวัดที่มาออกตรวจผู้ป่วยตามโรงพยาบาลชุมชนเป็นประจำทุก 4 เดือน เพราะเห็นว่าป้านิภาแกใช้ยาที่ซ้ำซ้อนหลายชนิดมาก  วันนั้นจิตแพทย์ได้ปรับยาให้ป้านิภาเป็นที่เรียบร้อย แต่เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้นป้านิภาก็มีอาการต่างๆนาๆ ไปตรวจโรงพยาบาลบ้างกลับมาตรวจที่ รพ.สต.อีกสลับไปๆมาๆทุกวัน ในที่สุดก็ขอกลับมาใช้ยาเดิมทั้งหมดและไม่ขอรับยาใหม่ที่จิตแพทย์ปรับเปลี่ยนให้เลย จึงเป็นที่มาที่ทำให้ฉันต้องมาเยี่ยมบ้านป้านิภาเป็นครั้งแรกทั้งๆ ที่อยู่ไม่ไกล รพ.สต. ของฉันและยังเป็นคนไข้ประจำที่ทุกคนใน รพ.สต. จดจำได้ดี ถึงขนาดที่น้องผู้ช่วยเหลือผู้ป่วยสามารถจำเสียงรถมอเตอร์ไซด์ของแกได้ พอจอดรถปั๊บสามารถค้นแฟ้มประวัติมารอได้เลย

     ป้านิภาเป็นผู้ป่วยจิตเวชร่วมกับเป็นความดันโลหิตสูงรับยาที่ รพช. และ รพ.สต. ต่อเนี่องมาประมาณ 5 ปี ความที่ป้าเป็นคนที่ไม่เหมือนใครทั้งการพูดการแสดงออก รวมถึงการมาใช้บริการใน รพ.สต. เดือนละหลายๆ ครั้ง ทำให้ทุกคนใน รพ.สต.คิดว่ารู้จักป้านิภาเป็นอย่างดี  และมักจะอดพูดทุกครั้งด้วยความเบื่อหน่ายไม่ได้ว่า “ป้านิภาขาประจำมาอีกแล้ว”  โดยต้องฟังป้าบ่นถึงอาการผิดปกติต่างๆนาๆเพื่อเรียกร้องเอายานั่นยานี่ไปบรรเทาสารพัดอาการของแกแทบทุกครั้ง นอกจากยาจิตเวชและยาลดความดันโลหิตที่ได้รับต่อเนื่องแล้วยังมียารักษาอาการอื่นๆจำนวนร่วม 10 ชนิด  พลอยทำให้ทุกคนรวมทั้งฉันคิดว่าคนจิตไม่ปกติก็เป็นอย่างนี้แหละ

     วันแรกที่ฉันแวะไปเยี่ยมบ้านป้านิภาช่วงบ่าย พบว่าป้านิภานอนหลับอยู่ในห้อง หลานที่บ้านติดกันเป็นคนปลุกให้ตื่นมาเจอฉัน ทั้งๆที่คิดว่าจะไม่รบกวนคนนอนแล้วค่อยมาวันหลัง แต่ในที่สุดป้านิภาก็พาร่างท้วมๆ หน้าตามึนๆงงๆ เหงื่อเต็มใบหน้าออกมาพบฉันจนได้  ป้าชวนฉันเข้าบ้านชั้นเดียวแคบๆ  ปูเสื่อให้ตรงหน้าประตูบ้าน ในบ้านมีคุณลุงคนหนึ่งเห็นชัดว่าเป็นอัมพาตครึ่งซีก พูดจาสื่อสารไม่ได้กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนแคร่ในบ้าน บนฝาบ้านมีรูปป้านิภาสมัยสาวๆ อยู่หลายรูป  ป้านิภาชวนฉันนั่งเปิดพัดลมเก่าๆตัวหนึ่งจ่อตัวแก พร้อมกับเล่าว่าตกใจตื่นจากเสียงเรียก ตอนแรกคิดว่าฝันไป ปกติป้าจะหลับทุกบ่ายรู้สึกง่วงมากๆ แต่ก็จะถึงเวลาตื่นแล้วเพราะต้องเตรียมอาหารเย็นสำหรับหลานและอาบน้ำลุงที่เป็นอัมพาตที่รับจ้างมาดูแลที่บ้าน ซึ่งเป็นรายได้หลักของป้านิภานั่นเอง ครั้งนี้จึงทำให้ฉันพูดคุยกับป้าได้ไม่นานนัก สอบถามถึงอาการที่เป็นเหตุให้ขอเปลี่ยนยาของจิตแพทย์ รวมถึงประเมินอาการทางจิตคร่าวๆ ซึ่งก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรมากมายนัก แต่ก็มีอาการต่างๆที่ไม่ค่อยสัมพันธ์กันเท่าไหร่ จึงคุยกันสัพเพเหระทั่วๆไป วันนั้นฉันจึงลากลับไปด้วยความงุนๆงงๆ ไม่แพ้ตัวป้านิภาเหมือนกัน แต่ฉันก็คิดว่าจะไปขอประวัติเพิ่มเติมจากโรงพยาบาลชุมชนก่อนที่จะมาเยี่ยมเยียนครั้งที่ 2 เพื่อจะได้ประเมินอาการของป้าได้ครบถ้วนขึ้น

     อีกวันหนึ่งถัดมาฉันฝากน้อง เจ้าพนักงานเภสัชเภสัชกรรม ที่ไปอยู่เวรขอประวัติเพิ่มเติมจากโรงพยาบาล พบว่าช่วงที่ผ่านมาหลังจากที่จิตแพทย์ได้ปรับเปลี่ยนยาแล้วป้านิภาแกไปโรงพยาบาลทุกวัน ด้วยอาการใจสั่น บวม อ่อนเพลีย ไม่มีแรง  แพทย์ประจำโรงพยาบาลได้ตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมอีกหลายอย่างแต่ก็ไม่เจอความผิดปกติใดๆ มีแต่ผลตรวจเลือดเพื่อหาระดับเกลือแร่ ที่พบว่าโซเดียมและโปแตสเซียมต่ำ ซึ่งตอนแรกแพทย์จะให้นอนรักษาในโรงพยาบาลแต่ป้าปฏิเสธ  แพทย์จึงนัดมาอีกแต่ป้าก็มาด้วยอาการอันหลากหลายทุกๆวันจึงทำให้แพทย์รักษาป้าตามอาการ สุดท้ายเลยต้องปรับเปลี่ยนยาเป็นยาเดิมทั้งหมดเพราะป้าบอกว่าหลังหยุดยาใหม่กินยาเดิมแล้วอาการต่างๆ หายไป  ครั้งนี้ฉันสังเกตเห็นอาการบางอย่างจากผลตรวจเลือดระดับเกลือแร่ที่สัมพันธ์กับการใช้ยา จึงฝากน้องเภสัชกรที่โรงพยาบาลปรึกษาแพทย์เพื่อหยุดยาขับปัสสาวะ(เพื่อรักษาความดันโลหิตสูง) ที่มีให้ผลเลือดผิดปกติได้ แพทย์จึงให้หยุดยาตามที่ฉันได้ปรึกษาไปและให้ยาทดแทนเกลือแร่ที่เสียไป

     บ่ายแก่ๆ อีกวันหนึ่งหลังจากทราบว่าแพทย์ให้หยุดยาขับปัสสาวะแล้วฉันจึงโทรศัพท์ไปหาป้านิภาเพื่อแจ้งว่าผลตรวจเลือดผิดปกติและให้หยุดยาดังกล่าวก่อน เพราะวันนี้ฉันมีคลินิกที่ รพ.สต. ไม่สามารถไปเยี่ยมบ้านได้  ป้านิภารับทราบด้วยดีและได้นัดไปเยี่ยมบ้านตอนสายๆ ของวันพรุ่งนี้แทน

     การไปเยี่ยมบ้านป้านิภาในครั้งที่ 2  ป้านิภาโทรศัพท์ตามฉันก่อนเวลานัดเล็กน้อย พอไปถึงฉันแปลกใจมากที่มีเพื่อนบ้านอีก 2 คนมานั่งรอฉันด้วย ป้านิภาปูเสื่อนั่งรอฉันที่เดิมเรียบร้อย ทันทีที่ฉันวางของลงนั่ง ป้านิภาและเพื่อนบ้านรุมถามฉันทันทีว่า ป้านิภาเป็นอะไรมากหรือเปล่า ทำไมผลเลือดผิดปกติ ป้าจะตายไหม ซึ่งป้านิภาเป็นกังวลมากจนโทรศัพท์และพูดคุยกับเพื่อนบ้านจนตกใจไปตามๆ กัน  ฉันก็ตกใจไม่แพ้กันเพราะไม่คิดว่าการสื่อสารทางโทรศัพท์กับป้านิภาจะส่งผลให้ป้ากังวลมาก ซึ่งก็เป็นอีกบทเรียนที่ได้เรียนรู้ไว้ อย่างไรก็ตามวันนี้ฉันก็ได้อธิบายคลายความกังวลสงสัยทั้งหลายให้ป้าและเพื่อนบ้านเรียบร้อยไปด้วยดี 

     วันนั้นฉันมีเวลามากพอที่จะคุยกับป้านิภาต่อถึงอาการต่างๆ ที่ป้าเป็นทั้งช่วงที่เปลี่ยนยา และปัญหาของป้าในช่วงนี้ รวมถึงเรื่องสุขภาพและประวัติชีวิตและครอบครัว ทั้งยังมีเวลาสังเกตลักษณะอากัปกิริยาต่างๆ ที่แสดงออกอย่างแปลกๆ ของป้านิภา ทำให้ฉันได้เห็นความผิดปกติบนใบหน้าของป้าบางอย่างโดยเฉพาะเวลาที่ป้าทำตัวตามสบาย ฉันตกใจมากที่เจอภาวะ Tardive dyskinesia ซึ่งเป็นอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาจิตเวชบางชนิดที่ป้าใช้อยู่ โดยมีอาการพูดห่อลิ้น และจะยกริมฝีปากขึ้นเป็นระยะๆ  ป้าไม่รู้สึกตัวมากนักเพราะชินกับอาการนั้นแล้ว และทุกคนก็คิดว่าป้าเป็นอย่างนี้แหละ ฉันคิดการปรับเปลี่ยนยาอยู่ในใจ แต่ก็รู้ดีว่าป้านิภาไม่ใช่คนที่จะสามารถปรับเปลี่ยนยาได้ง่ายๆ เช่นกัน

     ครั้งนี้ฉันจึงพูดได้คุยประเด็นของผลเลือดระดับเกลือแร่ที่ผิดปกติ ทำให้ทราบถึงการดื่มน้ำที่มากเกินปกติ โดยป้านิภาคิดว่าเมื่อกินยาเยอะๆแล้ว ต้องดื่มน้ำขับไปมากๆ รวมถึงมีอาการปากแห้งคอแห้ง(ที่อาจเป็นผลจากยาบางตัว)ทำให้ต้องดื่มน้ำเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งไม่ค่อยชอบรับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุจำเป็น  ฉันจึงให้คำแนะนำและหาวิธีที่เหมาะสมร่วมกับป้าในการปรับพฤติกรรมการกินอาหารและดื่มน้ำและได้ให้ยาที่แพทย์สั่งเพื่อเพิ่มระดับเกลือแร่ในเลือดไป พร้อมกับนัดให้ป้าไปตรวจเลือดในสัปดาห์หน้าที่โรงพยาบาลชุมชนเพื่อดูผลต่อไป

     ระหว่างนั้นวันหยุดวันหนึ่งฉันได้รับโทรศัพท์จากป้านิภาว่าวันนี้แกเป็นอะไรไม่รู้ ไม่สามารถทรงตัวได้ เดินเซ หลังจากกินยาแก้ปวดขาจากคลินิกโรคกระดูกในอำเภอมา 2 วัน เนื่องจากวันนั้นฉันไม่ได้อยู่ที่ รพ.สต. จึงให้ป้านิภาหยุดยาจากคลินิกก่อนทั้งหมด และหากมีอาการมากขึ้นให้ไปโรงพยาบาล  หลังจากป้านิภาไปตามแพทย์โรงพยาบาลนัด ฉันได้มีโอกาสพูดคุยกับแพทย์ที่โรงพยาบาลชุมชนถึงปัญหาของป้านิภา การวางแผนการรักษารวมถึงวิธีแก้ปัญหาอาการไม่พึงประสงค์จากยาจิตเวชในระยะยาว

     วันนี้ฉันกลับไปเยี่ยมบ้านป้าอีกครั้ง พร้อมกับความรู้สึกใหม่ๆ ต่างจากแต่ก่อนที่เจอกันแค่ใน รพ.สต. ที่มักจะมีแต่ความรำคาญในอาการของป้า ครั้งนี้ฉันอยากให้ป้ากลับมาเป็นป้านิภาคนเดิมตอนก่อนที่จะมีอาการทางจิตถึงได้บ้างไม่มากก็น้อยก็ยังดีเท่าที่จะทำได้ วันนี้ป้านิภาบอกฉันว่า “วันนี้ดอกไม้บาน” เป็นการสื่อความของอารมณ์และอาการต่างๆของป้าว่ามีอาการดีขึ้นมาก หลังจากป้าหยุดยาคลินิกโรคกระดูกตามที่ฉันแนะนำ อาการเดินเซทรงตัวไม่ได้ก็หายไป ฉันขอดูยาพบว่าเป็นยาซ้ำซ้อนกับยาจิตเวชที่ป้าได้รับ ทำให้ยาเกินขนาดในร่างกายจนส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียงดังกล่าว  นอกจากนั้นหลังจากปรับเปลี่ยนหยุดยาที่จะทำให้เกลือแร่ผิดปกติและให้เกลือแร่ทดแทน ทำให้อาการต่างๆ หายไปเกือบหมด ป้าไม่มีขาอ่อนแรง หายอ่อนเพลีย และยังสามารถพาหลานวัย 2 ขวบเดินเที่ยวเล่นได้มา 3 วันแล้ว สิ่งนี้ทำให้ป้านิภาดีใจมากที่สุด ป้าแสดงความขอบคุณฉันมากมายรวมถึงมีของฝากให้ฉันเป็นดอกอัญชัญริมรั้วบ้านถุงใหญ่

     อย่างไรก็ตามยังมีอาการที่คงเหลือคืออาการที่ใบหน้าป้านิภา ซึ่งได้พูดคุยทำความเข้าใจกับป้านิภาถึงวิธีการค่อยๆ ปรับลดยาและปรับเปลี่ยนยาบางชนิดซึ่งต้องใช้เวลาในการติดตามผล และตรวจรักษากับจิตแพทย์เป็นระยะๆ น่าแปลกที่วันนี้ป้านิภายอมรับฟังและพูดคุยถึงการปรับยาชนิดอย่างไม่เป็นกังวลนัก อาจเป็นเพราะความรู้สึกไว้วางใจที่เกิดขึ้นระหว่างเรา  วันนี้ฉันและป้านิภาเริ่มมีฝันร่วมกันที่จะมีสักวันป้านิภาจะกลับไปขายขนมจีบซาลาเปาเหมือนก่อน สามารถใช้ชีวิตที่มีความสุขกว่านี้ โดยมี “ดอกไม้บานทุกวัน” เหมือนดอกอัญชัญถุงใหญ่ที่ป้าได้มอบให้ฉันไว้

     ผู้ป่วยจิตเวชไม่ใช่คนบ้าเสมอไป เขาเป็นเพียงคนดีที่ป่วยและต้องการการดูแลจากบุคลากรสาธารณสุขและคนรอบกายเพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตกับครอบครัวอันเป็นที่รักของเขาได้ ฉันได้เริ่มเรียนรู้เรื่องนี้จากชีวิตของป้านิภาและการได้เข้าร่วมอบรมหลักสูตรการบริบาลเภสัชกรรมสาขาจิตเวชจากโรงพยาบาลสวนปรุง สิ่งนี้ส่งผลทำให้ฉันมั่นใจในการดูแลผู้คนได้มากขึ้น ทำให้ดอกไม้ในใจฉันบานแล้วเช่นกัน

หมายเลขบันทึก: 494777เขียนเมื่อ 14 กรกฎาคม 2012 14:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม 2012 04:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีค่ะท่าน Blank เภสัชกร บุษบา เหล่าพานิชกุล

ได้อ่าน บันทึกของท่านแล้ว ท่านดูแลคนไข้ดีค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท