ช่างขี้ดื้อ


   สมาชิกที่เข้ามารับการฟื้นฟูในรุ่นนี้นั้นถ้าจะว่ากันไปแล้วยังมีเนื้อที่อ่อนมาก ในเรื่องชีวิตแต่เป็นเนื้อที่ยังดีอยู่เป็นวัตถุดิบที่ยังดีอยู่ในการนำมาปรุงแต่งไปในทางต่างๆ ซึ่งในรุ่นนี้เริ่มรับสมาชิกหลังการผักผ่อนของตัวเราไปประมาณหก เจ็ดเดือนเมื่อเริ่มรับสมาชิกใหม่แน่นอนไม่มีใครรู้ว่าอะไรเป็นอะไรในวัดจะได้ทำอะไรและสอนอะไร สมาชิกที่มาทีแรกเป็นวัยรุ่นอายุ 17 - 22 ปี เก้าคนมีหนึ่งคนอายุ31ปี

  แล้วยิ่งมาใหม่ๆการปรับพฤติกรรมที่เรามักเน้นกระทำในเรื่อง "กรรม" และให้มี"ศีล" ซึ่งคือวินัย หนักนะสำหรับวัยรุ่นที่ไม่เคยกระทำอะไรที่ต้องรับผิดชอบเลยแล้วมีคนวัยกลางคนหนึ่งคนหากคอยปลอบกันมันก็น่าดีแต่กลับกลายเป็นตรงข้าม คนที่อายุมากลับเป็นคนยุและปั่นป่วนให้สมาชิกอื่นๆหลบออกไปว่าไม่เป็นอะไรหรอกซึ่งแน่นอนวัยรุ่นโดนชักจูงได้ง่ายอยู่แล้วก็มีหลบไปแล้วและกลับมาบ้างนะก็หายไปหลายคนจนใสช่วงหนึ่งเหลือแค่สี่คนแต่ก็กลับมาเป็นเจ็ดแล้วทางคุมประพฤติก็ส่งมาเพิ่มจนครบสิบคน

  แต่มีสองคนที่อยู่อย่างอดทนจากวันแรกและมีพัฒนาการที่ถื่อว่าน่าชื่นชมเลยเลยสองคน คือ อู๊ดและโดม สองคนนี้วัยใกล้เคียงกัน คือ 18 และ 19 ปี แน่นอนทำอะไรก็ไม่ค่อยเป็นเลยแต่แน่นอนมีความตั้งใจ

   โดม เด็กกำพร้าอยู่กับคุณตาแน่นอนต้องได้อยู่อย่างที่ต้องโตเกินวัยแน่นอน มีความตั้งใจมีความคิด รับผิดชอบพอได้แต่ขาดความระเอียดคิดเป็นขั้นตอน ในสิ่งที่ต้องกระทำ

   อู๊ด เด็กที่สนุกจนเกินวัยจนเป็นคุณพ่อลูกหนึ่งแต่ยังมีความเป็นเด็กมีทักษะกระทำอะไรได้ รับผิดชอบได้แต่ขาดแรกกระตุ้น หัวหมอ ขี้เกียจ

  สองคนนี้ถูกจับคู่เป็นบัดดี้มาตั้งแต่วันแรก และรับผิดชอบดูแล ในกิจกรรมต่างได้เป็นอย่างดีในพัฒนาการด้านต่างๆ และในส่วนกิจกรรมพัฒนากลางวันก็ได้สองหนุ่มนี้และมาเป็นกำลังช่วยในช่วงที่ผ่านมา

  ในช่วงก่อนเริ่มต่อเติมโรงครัวประมาณสิบกว่าวันในการเป็นสมาชิก เราก็เลยจับอู๊ดมาทำงานกับเราเองอย่างพาทำเองทั้งวัน อย่างตั้งใจพาทำเลย ในการทำงานต่างแบบประกบติด ซึ่งในส่วนของโดมนั้นตั้งใจกระทำอยู่แล้วก็ให้กระทำกับอีกหนึ่งคนแต่ไม่ไกลเท่าไรแบบมองเห็น

  เมื่อเริ่มต้นต่อเติมโรงครัวเราจึงดึงสองคนมาทำกับเราแบบสอนตัวต่อตัวเลยในเรื่องต่างตั้งแต่วางแนว เสาอาคาร ตั้งดิ่งฉาก ให้รู้เลยว่าถ้าจะทำดีนะมันทำได้ทุกคนและและก็พาทำเองเลยตั้งแต่ตั้งเสา วางคาน ตีจันทัน หาแนวระแนง (แป)

   ซึ่งต่อจากนี้จะได้ฝึกกันเรื่องสติ และสมาธิกันละทีนี้ก็ให้ทำเองเลยบอกวิธีให้พากันทำโดยมีติ๊กเข้ามาช่วยอีกคนแล้วเราไปทำอย่างอื่นค่อยกลับมาตรวจแนะนำจนกระทำได้สำเร็จในความเรียบร้อยในระดับดีถึงขั้นเป็นช่างฝึกหัดกันได้เลยแล้วก็เลยปล่อยงานให้ทำต่อจนงานต่อเติมหลังคาเสร็จ น่าชื่นชมมาก เราเองชอบเรียกว่า "ซุมขี่ดื้อ" พวกเด็กดื้อ ก็เลยพูดว่า "ซุมขี่ดื้อมันก็ได้ความอยู่นี่หว่า"  พวกขี้ดื้อมันก็ได้ความอยู่นี่หว่า

  ทำจนงานไปพอสมควรก็เลยดึง นิลเข้ามาร่วมอีกกลายเป็นทีมงานผีบ้าเลยทำงานอย่างมีความสุขของพวกเขาคุยกันไปหยอกกันไปแต่ได้งาน หัวเราะกับความเสียประสาทของนิล

 นิลเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่หากออกปากเป็นได้เรื่อง ต้องมีเรื่องได้หัวเราะกันแน่ บางทีก็ช้าจนเพื่อนๆเรียกว่า "หวานเย็น"

 ตอนนี้กลายเป็นทีมงานในรุ่นนี้ที่ได้ความมาก จนพ่อใหญ่โกสมาชิกคนสุดท้ายของรุ่น ถามว่าเมื่อไรจะแยกพวกนี้ออกจากกัน แต่ก็คงไม่แยกออกหากยังต้องการผลงานไห้เห็นออกมาอีกแถมตอนนี้ต้องปรับระดับวางงานเทพื้นใหม่เดินไฟฟ้าใหมยิ่งต้องการคนงานเลยต้องดึง พ่อใหญ่โก และนายติ๊ก มารวมกัน

 ลองวิเคราะห์ดูแล้วสมาชิกเหล่านี้ทำงานร่วมกันได้ถึงไม่เป็นงานแต่ตั้งใจและบอกได้สอนได้ จะมีแต่พ่อใหญ่โกอายุเยอะที่จะมีลูกประสบการณ์บ้าง

  ซึ่งการให้เขาได้ทำงานเองมันได้ฝึกซึ่งสติให้เขาได้ตั้งใจกระทำ สังเกตุสิ่งที่ต้องทำ ถูกบ้างผิดบ้างก็แก้กันไป ซึ่งเจ้าโดมมันก็งงว่าเราไม่ค่อยทำด้วย จนถาม หลังๆพระอาจารย์มือบ่เปลื้อนเลยนะครับ ก็เลยตอบว่า ให้สบายนำแหน่ (ให้สบายหน่อย) แต่สิ่งที่เขาได้นั้นทั้งประสบการณ์ สติ การวางแผน ความรู้ในการกระทำงานนั้นๆ ได้พลิกแพลงปัญหานั้น เขาไม่รู้หรอกแต่เราบอกได้เลยว่าภูมิใจกับสมาชิกรุ่นนี้ในหลายคนเป็นอย่างมาก

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 494645เขียนเมื่อ 13 กรกฎาคม 2012 09:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 กรกฎาคม 2012 10:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

นมัสการ... "ซุมขี้ดื้อ คงจะดีกว่า ซุมขี้คร้าน" นะครับ

ทำความดี ช่วยเหลือผู้อื่น ได้เพื่อน ได้สังคม ได้ทำความดี

ขอบคุณมากค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท