ช่วงนี้ต้องขับรถยนตร์ ใช้น้ำมันมาก และเพิ่งสังเกตว่า ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว น้ำมันเบนซินถูกกว่าน้ำมันดีเซลเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ผมได้ขับรถยนตร์และเติมน้ำมันมา 13 ปี
พฤษภาคม 2536 ตอนไปซื้อรถยนตร์ (กระบะ) เลือกซื้อรถเบนซินเพราะว่าถูกกว่ารถดีเซลประมาณ 6 หมื่นบาท แต่น้ำมันเบนซิน แพงกว่าดีเซลประมาณ 2 บาท
คนขายบอกว่า ประหยัดค่าซื้อรถเอาไปซื้อน้ำมันที่แพงกว่า 2 บาท และผมคิดว่าคงเป็นเช่นนั้นตลอดไป
ถ้ารถวิ่งได้ 10 กิโลเมตร เติมน้ำมัน 1 ลิตร ผมต้องเติมน้ำมัน 30,000 ลิตร จึงจะมีผลต่างของราคาน้ำมันเบนซินกับดีเซล เป็นเงิน 60,000 บาท ซึ่งผมจะต้องวิ่งรถยนตร์เป็นระยะทางประมาณ 300,000 กิโลเมตร แต่ขณะนี้เลขหลักกิโลเมตรของผมอยู่ประมาณ 120,000 เท่านั้นครับ
ลองมาดูราคาน้ำมันที่ผันผวนอยู่ตลอด ในวันนี้ ที่พิษณุโลกครับ
ภาพป้ายราคาน้ำมันที่พิษณุโลก 11/09/49 |
ต่อไปเป็นการเปรียบเทียบราคาน้ำมัน ของวันที่ 11/09/49 กับ 18/11/48 นะครับ (ที่พิษณุโลก) จะเห็นว่าราคาปัจจุบัน แก๊สโซฮอล์ 95 ถูกที่สุดครับ ในขณะที่ย้อนหลังไปเกือบ 1 ปี ดีเซลถูกที่สุด (แทรกแซงราคาโดยรัฐบาล)
ปัจจุบันถ้าผมใช้รถเบนซิน (91) ก็จะประหยัดเงินในกระเป๋าไปลิตรละ 35 สตางค์
ชนิดของน้ำมัน |
ราคา (บาท) | ราคา (บาท) |
หมายเหตุ |
พิษณุโลก |
พิษณุโลก (18/11/48) |
||
ดีเซล |
27.13 |
23.01 |
ถูกสุด |
ดีเซลพิเศษ |
28.13 |
24.01 |
|
เบนซิน 91 |
26.78 |
24.76 |
|
เบนซิน 95 |
27.58 |
25.56 |
|
แก๊สโซฮอล์ 95 |
26.08 |
24.06 |
ถูกสุด |
ลองคลิกไปอ่านบันทึกเรื่อง รถยนตร์, น้ำมัน กับการประหยัด ซึ่งเขียนเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2548 บ้างก็ได้ครับ
ถ้าผมอยู่กรุงเทพฯ ผมก็จะเปลี่ยนรถ (เบนซิน) ของผมไปใช้ก๊าซ NGV ลงทุนประมาณ 50,000 บาท แต่ราคาก๊าซแค่ 8.50 บาทต่อลิตร ประหยัดเกือบลิตรละ 20 บาททีเดียวครับ
ตอนนี้เริ่มจะอิจฉาคนกรุงเทพฯแล้วละครับ เพราะว่าขณะนี้ค่าใช้จ่ายเรื่องพลังงานของผมเป็นค่าใช้จ่าย 1 ใน 5 ของเงินเดือนครับ...
เห็นด้วยมาก ๆ ค่ะ อาชีพศึกษานิเทศก์อย่างดิฉัน ต้องขับรถของตัวเองออกไปทำงานร่วมกับโรงเรียนในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ กินอาณาเขต 3 อำเภอกันบ่อย ๆ จะหวังพึ่งนั่งรถราชการ ซึ่งทั้งสำนักงานฯ มีอยู่ 3 คัน ก็ไม่ค่อยได้ ราชการหลายเรื่องรถก็ไม่ได้ว่างเลย แถมถ้าเป็นอย่างนั้นการทำงานของเราก็จะไม่คล่องตัว เพราะขอใช้รถทีนึงต้องหมายถึงว่ามีคนไปด้วยไม่น้อยกว่า 3 - 4 คน
ค่าน้ำมันรถแต่ละเดือนไม่ใช่น้อย เบิกกับใครก็ไม่ได้เพราะเป็นรถของเราเอง ก็เงินเดือนเรานั่นแหละจ่ายไป คิดว่าทำงานเพื่อชาติค่ะ เงินเดือนที่ได้รับก็ภาษีของประชาชนทั้งนั้น คนอื่นเขาเสียสละมากกว่าเราหลายเท่า มีเพื่อนแนะนำหลายคนให้ไปติดแก๊ส LPG เพราะ NGV แถวนี้ยังหาเติมไม่ได้ รถก็เก่าแล้ว กลัวระบบอะไรต่าง ๆ จะไม่ปลอดภัย ไม่มั่นใจเพราะเราเป็นผู้หญิงไม่ค่อยจะรู้เรื่องระบบเครื่องเคราอะไรนัก ก็เลยยังกลัว...ยอมจ่ายค่าน้ำมันแพง ๆ ไปก่อน เน้นประหยัด ๆ เอาบ้าง
อีกเรื่องก็เป็นค่าโทรศัพท์ ที่ต้องติดต่อ-ประสานโน่นนี่กับโรงเรียน ดูดเงินในกระเป๋าเรานักเชียว ตอนหลังเปลี่ยนมาใช้โปรโมชั่นแบบเหมาจ่ายเดือนละ 299 บาท โทรได้ตั้งแต่ ตี 5 ยัน 5 โมงเย็น ไม่มีอั้น ค่อยยังชั่วหน่อย เพราะเราก็จะมีธุระจำเป็นในการติดต่อในเวลาราชการเสียเป็นส่วนใหญ่นั่นล่ะ.....ก็บอกต่อแนะนำให้เพื่อน ๆ ใช้กันหลายคนแล้วจะได้ช่วยกันประหยัดค่ะ
ขอขอบคุณอาจารย์ Beeman...
ตกลง > เราๆ ท่านๆ ที่อยู่นอกกรุงเทพฯ คงจะได้ "หันใจ" (คำภาคเหนือ = เห็นใจ)กันบ้างไม่มากก็น้อย เพราะต่างก็มีความทุกข์คล้ายๆ กัน(น้ำมันแพง)