นรก กับ คำถามจากเด็ก


ประโยคที่ว่า "ดีที่สุดของคุณยังดีไม่พอ" น่าจะยังคงใช้ได้เสมอในหลายๆสถานการณ์

        เมื่อเดือนก่อน เพื่อนร่วมวิชาชีพคนหนึ่งเล่าเรื่อง(ซึ่งเขาว่าเป็นเรื่องจริง)ให้ฟัง ดังนี้

        พ่อแม่คู่หนึ่งพาลูกเล็กๆ ระดับประถมต้นกับอนุบาล ออกไปเที่ยวในวันหยุด  ครึ่งวันแรกเป็นภาคบันเทิง ซึ่งปิดท้ายด้วยอาหารและขนมอร่อยๆ  หลังจากเที่ยวต่ออีกไม่นาน ก็มุ่งหน้ากลับบ้าน  แต่พ่อแม่ซึ่งวางแผนและจัดสรรเวลาไว้แล้ว ได้พาไปแวะชมภาพเขียนบนผนังวิหารวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีทั้งภาคสรรค์และภาคนรก

       ขณะชมภาพทหารนรกใช้อาวุธทำร้ายผู้ที่ตกนรกจนเลือดอาบทั่วร่างไปตามๆ กันนั้น  หนูน้อยคนหนึ่งถามว่า ทำไมคนที่ตกนรกเหล่านั้นจึงมีหัวเป็นสัตว์กันทั้งนั้น เช่น ปลา ไก่ เป็ด หมู วัว ควาย ฯลฯ

       แม่อธิบายว่า คนเหล่านั้น เมื่อยังมีชีวิต ได้ฆ่าสัตว์มากมาย พอตายลงจึงมีหัวเป็นหัวสัตว์ที่ตัวเองฆ่าเป็นจำนวนมาก  และต้องโดนทำร้ายอยู่ไม่มีหยุด ไม่ตาย แต่เจ็บปวดทุกข์ทรมานตลอดเวลา จนกว่าจะครบกำหนด

       หนูน้อยฟังแล้วดูรูปต่ออีกครู่หนึ่งก็ถามว่า “ทำไมเขาไม่ฆ่าคนเสียเลยนะ  จะได้มีหัวเป็นหัวคนเหมือนเดิม”

       พ่อแม่อึ้งไปทันที  ทันใดนั้น หนูน้อยอีกคนหนึ่งก็พูดว่า “ฆ่าคนคงไม่ตกนรกมั้ง...ไม่มีใครมีหัวเป็นคนเลยนี่ เห็นไหม”  แล้วหันมาทางพ่อ “จริงไม้พ่อ”

       เรื่องนี้ทำให้กลุ่มพวกเราอภิปรายกันค่อนข้างยาว  แต่ในที่นี้ขอสรุปสั้นๆว่า  บางทีการนำเอาเนื้อหาสาระต่างๆ ของผู้มีหน้าที่ (เช่น ครู อาจารย์ พระ ผู้บริหาร กวี นักประพันธ์ คอลัมนิสต์ นักแต่งเพลง ฯลฯ) มานำเสนอ สอน หรือใช้กับผู้อื่นนั้น ก็สามารถมีปัญหาได้  ยิ่งเป็นเนื้อหาสำเร็จรูปพร้อมใช้ที่เก่าแก่และสืบทอดกันมานานด้วยการจราจรทางเดียวแบบไทยๆ โบราณๆ  พอใช้ไปนานๆ เข้า และใช้กับเด็กที่พ่อแม่สอนให้ถามกลับหรือออกความเห็น (อย่างพ่อแม่ในเรื่องเล่าเรื่องนี้) ก็ย่อม เป็นเรื่อง ให้ผู้ใหญ่ตกใจได้  หลังจากตกใจแล้ว ผู้ใหญ่ที่มีสติสัมปชัญญะเพียงพอก็จะรู้ทันทีว่า ตัวเองได้รับคำสอนจากเด็กแล้ว

      เรื่องทำนองนี้  ทำให้เรามักจะได้ยินผู้ใหญ่พูดด้วยประโยคที่มีคำขึ้นต้นดังตัวอย่างต่อไปนี้ ว่า “นึกไม่ถึงว่า.....”    “คาดไม่ถึงว่า.....”    “คิดว่า.....”    “นึกว่า.....”   ฯลฯ (ซึ่งบางคนในกลุ่มเราสรุปว่า คือ ทึกทัก หรือ โมเม เอาเองทั้งนั้นนั่นเอง)

      เมื่อเร็วๆ นี้  ประโยคเช่นนี้ก็มีผู้ใหญ่ใช้ให้คนไทยได้ยินทั่วประเทศมาแล้ว หลังกรณีที่เกิดขึ้นในรายการประกวดความสามารถและความกล้าทางโทรทัศน์ กับ ที่เกิดขึ้นในโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่ง

       ไปๆ มาๆ ดูเหมือนว่าปัญหาต่างๆ จำนวนไม่น้อยเกิดจากความบกพร่องของผู้ใหญ่เรานี่เอง  แม้เราจะอ้างว่าเรา “ทำดีที่สุดแล้ว” อย่างหนักแน่นเพียงไรก็ตาม  เพราะประโยคที่ว่า “ดีที่สุดของคุณยังดีไม่พอ” น่าจะยังคงใช้ได้เสมอในหลายๆ สถานการณ์

       (หมายเหตุ  ประโยคอ้างอิงประโยคสุดท้ายมาจาก “Your best is not good enough”  ในภาพยนตร์เรื่อง  Mr. Holland’s Opus  ซึ่งใช้ในหนังสองครั้ง  ครั้งแรกภรรยาครูฮอลแลนด์ใช้กับสามี  อีกครั้งหนึ่งครูฮอลแลนด์ใช้กับกรรมการโรงเรียน)

หมายเลขบันทึก: 494136เขียนเมื่อ 9 กรกฎาคม 2012 11:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กรกฎาคม 2012 20:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

..ผู้ใหญ่..ผู้แก่..วันนี้...(ไม่ได้คิด)ว่า..เด็กวันนี้..คือ..ผู้ใหญ่..ผู้แก่..(ในวันหน้า)..(ไม่คาดคิด)..เพราะไม่เคยเรียนมา...(คิดว่า)..ที่เคยเรียนมานั้น..ถูกต้องแล้ว..เดินตามผู้ใหญ่..หมาไม่กัด....(ตำราเล่มเดียว)....ยายธี

ดีที่สุด ของหมอเปิ้น ==> อาจจะแย่ยที่สุดของของคนอื่นๆ นะคะ

สรุปตัวเราย่อมรู้ดีที่สุด

ขอบคุณ บทความดีดีนี้นะคะ

ขอบคุณทุกๆท่านที่ให้ความเห็นและกำลังใจมากๆครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท