“เขาไม่ใช่พ่อ...เขาแค่คนทำให้ฉันเกิด”


“เขาไม่ใช่พ่อ...เขาแค่คนทำให้ฉันเกิด”

 

            วันนี้ชลัญขึ้นต้นหัวข้อได้สะเทือนใจ  ตัวเองเสียนี่กะไร เพราะเรื่องราวนี้ มันทำให้ชลัญได้ฉุกคิด  ความรู้สึกของความรักที่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากจิตใต้สำนึกที่ควรรู้สึก  แต่มันเป็นสิ่งที่เราควรได้รับจากการกระทำมากกว่า

            เวลาเราดูละครที่แสดงตามทีวีช่องต่างๆ  เรามักเห็นว่า  พ่อแม่ลูกพลัดพรากจากกัน 20 กว่า ปี กลับมาพบกัน  รักกันแทบตาย  นี่เป็นเพียงในละครชลัญเพิ่งเข้าใจ

            สำหรับเรื่องราวนี้ ไม่ได้พลัดพรากจากกัน แต่เป็นคนที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่เกิด นี่แหล่ะ  แต่น้องบอกชลัญ  “เขาไม่ใช่พ่อเขาแค่คนทำให้ฉันเกิด”

            ชลัญรู้สึกเสียววาบไปใจหัวใจ  ไมคิดว่าจะได้ยินคำนี้ น้องเล่าให้ฟังในวันที่ชลัญไปบอกให้ไปรับพ่อกลับมาอยู่ด้วยพ่อลำบากมากผู้หญิงใหม่ที่พ่อไปอยู่ด้วย  เขาไม่ดูแลพ่อแล้ว 

            น้องฟังท่าทางเฉยเมยไม่รู้สึกสักนิด  แล้วเริ่มเล่า

            “พอไม่มีที่ไปต้องมาให้หนูรับผิดชอบในความเป็นพ่อเหรอพี่ ในเมื่อตลอดชีวิตที่หนูจำความได้ ผู้ชายที่หนูเรียกว่าพ่อ ไม่ได้ดูแลแม้แต่จะกอดหนูสักครั้ง   เริ่มโตมาเห็นแต่ เขากินเหล้าสูบบุหรี่  มีผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า  เมามาเมื่อไรแม่ถูกทุบตี  แม่ขายของชำหาเงินเลี้ยงลูก 3 คน  ด้วยความลำบาก เขาคนนั้น  ยังเขาเงินที่แม่หาไปปรนเปรอหญิงอื่น  แม่ถูกทำร้ายไม่รู้กี่ครั้งหนูจำไม่ได้  หนูรู้แต่แม่ร้องไห้บ่อยมาก  หนูเคยถามแม่ทนเพื่ออะไร  แม่บอกเพราะลูก   เพราะรัก  ทำไมรักไม่มีเหตุผลขนาดนั้น  เขาเป็นคนมีฐานะมาก่อน มีที่ทางบ้านหลายที่  แต่ที่ๆพวกหนูอยู่ นี่เป็นสมบัติแม่  เขามีเมียน้อยคนล่าสุดนี่ตอนอายุ 62 สมบัติหมดก็สมควรแล้วถูกทิ้ง  ในวันที่แม่ตาย  ในอ้อมกอดหนูเราอยู่บ้านแค่สองคน  แล้วเขาไปอยู่ตรงไหน   วันเผาแม่ เขาไม่ขึ้นไปแม้แต่  จะใส่ดอกไม้ อ้างว่าวิญญาณจะยึดติด  นี่หรือพี่คนที่หนูยังจะรู้สึกว่าเขาเป็นพ่อ  สุดท้ายพอช่วยเหลือตัวเองไม่ได้  จะมาเรียกร้องความกตัญญูด้วยคำว่าพ่อ  จากหนูอย่างนั้นหรือ เขาไม่ใช่พ่อเขาคือคนที่ทำให้ฉันเกิด  เกิดมาเห็นความเลวร้ายของการมีพ่อ แบบนี้ หนูขออนุญาตอกตัญญูค่ะ”

             

            พูดเท่านั้นน้องก็เดินเข้าบ้านไป

ปล่อยให้ชลัญยืนอึ้งกับคำพูด หรือความรักไม่ใช่จิตใต้สำนึกที่มีต่อบุพการีแต่เป็นความรู้สึกที่ได้จากการกระทำ

            คุณคิดเช่นไรกับเรื่องนี้ ……………..

 

 

ชลัญธร 

คำสำคัญ (Tags): #กตัญญู#ความรัก
หมายเลขบันทึก: 494101เขียนเมื่อ 9 กรกฎาคม 2012 06:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 กรกฎาคม 2012 09:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ลึกซึ้งกับประโยค "ความรักไม่ใช่จิตใต้สำนึกที่มีต่อบุพการีแต่เป็นความรู้สึกที่ได้จากการกระทำ..." คิดได้อย่างไร ? ชอบครับ.....++++ พี่โจ้....เมื่อวานติดต่อหาผม ผมวุ่นวายจัง....ผมคงไม่ได้ไปเยี่ยมพี่ใหญ่แน่นอน....ฝากขอที่อยู่ครับ...เพบราะผมจะไปทันขึ้นเวทีเลย ในวันที่ 11 ก.ค. ภาคบ่าย....จะได้จับมือพี่โจ้ไหมครับ.....แต่พิมายถ้าว่างจะขับรถไปหานะครับ...ผมไม่รู้จะขอบคุณพี่โจ้อย่างไร...ในบางมุมที่ท้อแท้ได้เข้ามาอ่านบันทึกของพี่โจ้...สำราญบรรเทิงเริงใจมากครับ

อ่านแล้วอึ้ง....

....ปล่อยวางและให้อภัย ทำได้ก็ยิ่งใหญ่ในชีวิต

..".คิดถึง.".คำว่า..ธรรมชาติ..สัญชาติญาณ..(..ดิบ..)...เจ้าค่ะ..ยายธี

...(ยังไม่ลืม)...ครั้งหนึ่ง..เมื่อเป็นเด็ก...เคยคิด..ว่า..การเกิด..คือ..ผลพลอยได้..ของ..เพศสัมพันธ์...เท่านั้น...(เอง)....ยายธี

ขอบคุณค่ะ มองว่า

  • การที่สองคนมาเจอกัน มีเหตุ
  • หากใครทำให้เราเจ็บปวดทางกาย วาจา ใจ ก็เพราะเราติดหนี้เขาไว้
  • การชำระหนี้ เมื่อหมด ที่เหลือก็เป็นทุนสำรอง

อ่านแล้วอึ้งเหมือนกัน

นี่คือความคิดที่แล่นเข้ามา -ทุกคนมีสิทธิ์ ที่จะคิดทำอะไร ในชีวิตของตัวเอง แล้วก็รับกับผลจากกรรมไป ไม่ว่าจะเป็นพ่อ หรือลูก

-ทุกคนถูกทำให้เกิดมา ไม่ได้ตั้งใจที่จะเกิดมาเอง คนทั้งหมด จะรักและฟูมฟัก รับผิดชอบต่อลูก แต่ความเออเรอร์ ของชีวิตพ่ออยู่ตรงไหน เราไม่รู้

-เมื่อพ่อขอเรา กลายเป็นพ่อ หรือ สามีของคนอื่นไป ก็ให้เขารับผิดชอบกันเอง

-แก่แล้วคนที่อยู่ใกล้ ๆ ไม่เอาด้วย ก็ช่วยไม่ได้ หากเป็นตัวเอง ก็จะไม่อาฆาตแค้น แต่จะให้รับตัวตัวมาอยู่ด้วย ไม่เอาแน่ เรารักแม่ จะไม่ให้แม่ช้ำใจ จะได้บุญกว่า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท