How to make up


make up ง่ายสไตล์ของเราเอง

สิ่งที่เรียน(What):การแต่งหน้า

วิธีเรียน(How):    

สำหรับเราเองการแต่งหน้าถือเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งที่ช่วยให้เรามีความสุขเวลาได้เลือกแต่งแต้มมีสันต่างๆบนใบหน้า(แต่อาจจะเป็นทุกข์ภายหลังหากเกิดผดผื่นหรือสิว) ความจริงตัวเราไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าไหร่นักแต่โดยปกติเป็นคนรักสวยรักงามและมีหลายโอกาสที่คนใกล้ตัวต้องการตัวช่วย ทำให้เราต้องสวมบทเป็นช่างแต่งหน้าจำเป็นให้เพื่อนอยู่บ่อย จึงทำให้เกิดการเรียนรู้และเริ่มศึกษาวิธีการแต่งหน้าและฝึกฝน(กับหน้าคนอื่น)มาเรื่อยๆจนเกิดประสบการณ์และมีเทคคนิคการแต่งหน้าของตัวเอง 

     การแต่งหน้าในครั้งนี้จะเน้นการแต่งหน้าที่เป็นลุคสบายๆใช้ออกงานตอนกลางวันหรือแต่งไปเรียนก็ได้(ถ้าวันไหนอยากสวยเป็นพิเศษ) หรือจะเรียกอีกอย่างว่าแต่งแบบบ้านๆก็ได้ มีอุปกรณ์อะไรก็adaptใช้อันนั้น ไม้ต้องไปซื้อให้มากชิ้นและไม้ต้องใช้ของแพงมากเอาที่พอใช้ได้

     พร้อมหรือยัง?

             3

             2

             1

      เรามาเริ่มกันเลย

1.ล้างหน้าให้สะอาดก่อนนะ ถ้าจะให้ดีก็ทำครีมบำรุงผิวไว้ด้วย

 2.ลงรองพื้น ถ้าเป็นรองพื้นแบบเหลวควรจะรีบๆทาให้ทั่วเพราะถ้าสมมติทาแก้มจนแห้งแล้วไปทาหน้าผากแล้วไล่ลงมาทาแก้มอีก จะทำให้สีของรองพื้นไม่สม่ำเสมอกันต้องเสียเวลาทาทับอีกรอบทำให้รองพื้นหนาเกินไป         สำหรับสาวๆคนไหนที่หัดแต่งหน้าใหม่ๆเวลาเลือกซื้อรองพื้นก็ควรถามคนที่ดูแลบู้ทนั้นว่าหน้าแบบเราควรใช้รองพื้นแบบไหน เช่นถ้าเป็นคนผิวมันก็เลือกแบบที่ช่วยควบคุมความมันด้วยหรืออยากได้แบบหน้าขาวเว่อร์ หน้าเหลือง หรือหน้าอมชมพูก็เลือกได้หมด(จะแบรนด์ไหนก็ตามจำนวนเงินที่มีนั่นแหละ)

      

3.เมื่อลงรองพื้นเสร็จ สำหรับคนที่หน้ายังไม่เนียนพอขอแนะนำให้ใช้คอนซิลเลอร์ทาบริเวณที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษไม่ว่าจะเป็นรอยสิว รอยแดง รอยคล้ำ ฝ้า หลังจากทารองพื้น ส่วนคนที่ทารองพื้นแล้วหน้าเนียนอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้คอนซิลเลอร์ค่ะ

      จากนั้นให้ทาแป้งซึ่งมีอยู่2แบบ  สำหรับคนที่ไม่อยากให้หน้าดูหนามากก็แนะนำให้ใช้แป้งฝุ่นและก็ใช้บรัชปัดเอา ส่วนตัวเรานี้ชอบใช้แป้งพัฟเพราะปิดได้เนียนกว่าปกป้องความมันและติดทนดี

     

 4.ต่อมาเราจะทำการเฉดดิ้งดั้งจมูก โดยทั่วไปแล้วจะมีผงสำหรับเฉดดิ้งต่างหากแต่ถ้าไม่มีสามารถใช้ผงแป้งอย่างเช่นeye shadow หรือbrush on มาปรับใช้ด้วยก็ได้ อย่างของเรามีeye shadow ก็เลือกใช้สีเข้ม(ดำ น้ำตาล ครีม) โดยถ้าใช้สีดำให้นำมาถูกับหลังมือให้เป็นสีเทาอ่อนๆก่อนแล้วทาตั้งแต่หัวคิ้วลงมาที่ร่องหัวตาแล้วไล่ลงมาถึงปีกจมูกทำให้สมดุลกันทั้ง2ข้างเพื่อให้เห็นรูปจมูกชัดเจนขึ้น ต่อจากนั้นให้ไอไลท์สีขาวลงบนสันจมูก จะทำให้ดูมีสันจมูกขึ้น

      

5.เติมสีสันให้ดวงตาด้วยeye shadow เราจะเน้นโทนสีชมพู-ม่วงนะเพราะดูแล้วเข้ากันดี(ที่สำคัญคือเราชอบ) โดยทาสีชมพูตั้งแต่เปลือกตาชั้นล่างขึ้นไปถึงกึ่งกลางของตาชั้นบน(เมื่อลืมตาแล้วยังเห็นสีชมพูอ่อนๆ) จากนั้นทาหางตาด้วยสีม่วงอ่อน สุดท้ายจะได้ว่าสีม่วงขี่สีชมพูอยู่

  

6.เพิ่มความคมชัดให้ดวงตาด้วยการเขียนeye liner สำหรับสาวตาเฉี่ยวแนะนำให้เขียนเฉพาะขอบตาบนเพราะถ้าเขียนขอบตาล่างด้วยจะทำให้ดูน่าเกรงขาม(น่ากลัว)มาก ดังนั้นก็เขียนเฉพาะขอบตาบนแล้วเขียนหางตาเลยออกมาและตวัดขึ้นเล็กน้อย แนะนำว่าให้ใช้eye linerแบบเหลวซึ่งการเขียนด้วยพู่กันจะทำให้ได้เส้นที่เรียวเล็ก แต่ต้องรอให้eye linerแห้งเสียก่อนลืมตามิฉะนั้นอาจเลอะเทอะได้  เสร็จแล้วก็ดัดขนตา(เอาส่วนโค้งครอบพอดีกับดวงตาแรกๆให้ค่อยๆหนีบเพราะถ้าหนีบแรงโดยไม่ชำนาญอาจทำให้บาดเจ็บได้)จากนั้นก็ปัดmascara โดยเวลาปัดขนตาบนให้มองข้างล่าง ปัดขนตาล่างให้มาข้างบน

     

7.พอแต่งมาถึงขั้นนี้แล้วยังรู้สึกว่าหน้ายังแปลกๆอยู่เป็นเพราะสีผมไม่เข้ากับสีคิ้วและอีกอย่างสีหน้ามันโดดเกินคิ้ว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเขียนคิ้วโดยปกติควรกันคิ้วให้เรียบร้อย(แต่เราไม่กันเพราะคิ้วเราบางเกินกว่าที่จะทำใจกำจัดมันออกไปได้) การเขียนคิ้วสามารถใช้อุปกรณ์ได้หลายประเภทในการเขียน เช่น มาสคาร่าคิ้ว eye shadow และดินสอเขียวคิ้ว โดยควรใช้สีที่เข้ากับสีผม แต่สียอดนิยมคือ สีน้ำตาลเข้ม ถ้าต้องการให้คิ้วออกมาดูเป็นธรรมชาติสีทางหัวคิ้วจะต้องอ่อนกว่าด้านปลายคิ้วเสมอ

    

8.ปัดbrush on สีชมพูอ่อน+ประกายวิ้งๆ โดยปัดตั้งแต่หน้าแก้มไปด้านข้างจนถึงหางคิ้ว และขอบล่างก็ไม่ควรเกินระดับปลายจมูกลงมา เพราะจะทำให้ดูโหนกแก้มใหญ่เกินไป

9.ทาlip grossสีชมพูอ่อนและทาริมฝีปากล่่างด้านในด้วยU-tipสีแดงจะช่วยให้ริมฝีปากมีมิติไล่ระดับสีแดงจากในออกนอก แต่ถ้าใครไม่ชอบปากแดงก็อาจไม่ใช้U-tipก็ได้

 เป็นอันเสร็จค่ะ

    

              before                                  after

ผลการเรียน(Outcome):ทำให้มีประสบการณ์มากขึ้นเกิดความคิดสร้างสรรค์และสามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพได้

ข้อคิดที่ได้จากประสบการณ์(reflection):การจะเรียนรู้ในเรื่องๆหนึ่งนั้นสิ่งนั้นต้องเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน และลงมือศึกษาด้วยการฝึกฝน ฝึกฝน และฝึกฝน เพราะหากสิ่งที่เราเรียนรู้นั้นไม่ตรงกับพรสวรรค์ของเราการลงมือทำครั้งแรกจึงอาจออกมาไม่ดีนักดังนั้น เราต้องฝึกฝนอย่างต่อเนื่องจึงจะทำให้การเรียนรู้ของเรามีประสิทธิภาพ

เอกสารหรือสื่ออ้างอิง(references):http://www.pantown.com

จัดทำโดย: นศ.พ.กิตติยา   จิตรปรีดา

       รหัส:553070101-3

คำสำคัญ (Tags): #make up
หมายเลขบันทึก: 493914เขียนเมื่อ 7 กรกฎาคม 2012 20:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 สิงหาคม 2012 01:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

ขอบคุณนะคะ จะนำไปใช้นะคะ เป็นวิธีแต่งหน้าที่่ง่ายมากเลยค่ะ อิอิ

ขอบใจมากน๊าา เป๊ะจริง!

โหยยยยยยยยยย สุดยอดอ่าาาาาา สวยๆ ^^

แต่งสวยอ่ะ วันหลังขอใช้บริการหน่อย อิอิ

ว่างๆจะชวนมาแต่งหน้าเล่นกัน :))

โหหห ไม่อยากจะเชื่อ นกทำ how to ว๊าาาา>.<

เดี๋ยวจะเอาไปแต่งไปเรียนบ้าง ฮิฮิ

โห สุดยอด ....

บู้ยยยย ไม่ธรรมดา อ๊ะๆ ไม่ธรรมดา

อะโห เจ๋งมากกก :D วันหลังมาสอนหน่อยน๊า ><

...เป็นความรู้ใหม่จริงๆ... ฮ่าๆๆ

แต่งสวยเชียว มีงานอีกคงพึ่งคนนี้แล้วล่ะ

เป๊ะ!! มาแต่งให้มั่งน๊า เราเขียนขอบตาไม่เป็นอ่าา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท