เปลี่ยนนิสัย เปลี่ยนความคิด ปรับคุณภาพสมอง
เมื่อคนเราจินตนาการถึงเรื่องดี ความสุข ความภาคภูมิใจ และเป็นคนอารมณ์ดี ใจเย็น รอบคอบ สมองก็จะพองตัวขึ้น คุณหมอเดเนียล จี. เอเมน ผู้เขียนหนังสือ Making a Good Brain Greatจึงมีวิธีปรับฮอร์โมนที่มีผลต่ออารมณ์ในสมอง รวมถึงวิธีคิดของสมอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ซึ่งเราสรรหามาฝากดังนี้
สิ่งที่เรียน (What)
การรู้จักคิดตามเทคนิค 5DIY เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสมอง
วิธีเรียน (How)
5 DIY เปลี่ยนความจริง
• อย่าหลงเชื่อความคิดวูบแรก
เมื่อรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัสแรกส่งข้อมูลมาถึงสมอง สมองจะเชื่อมโยงสิ่งทั้งหมดเหล่านี้เข้ากับประสบการณ์เดิมที่เคยเกิด เราจึงรู้สึกกับบางสถานการณ์หรือเรื่องราวตรงหน้ามากหรือน้อยเกินไป ซึ่งล้วนแล้วแต่ก่อความเข้าใจผิดได้ทั้งสิ้น
คุณหมอเอเมนกล่าวว่า ทางที่ดีที่สุด เราควรซักถามหาเหตุผลของสถานการณ์หรือเรื่องราวที่เพิ่งเกิดใหม่หมาด เพื่อบันทึกไว้เป็นข้อมูลในเชิงเหตุผลที่ถูกต้อง มากกว่าอารมณ์ความรู้สึกในทางลบ
• เชื่อว่าความคิดของเรามีพลังพิเศษ
เมื่อเราคิดแต่ละครั้ง สมองจะปล่อยสารเคมีบางอย่างออกมา
บางตอนในหนังสือ Making a Good Brain Great บอกว่า ถ้าคิดในทางบวก เป็นเรื่องสุข เป็นความหวัง สมองจะปล่อยสารเคมีที่ทำให้เรารู้สึกดี และระบบการทำงานของสมองก็จะมีประสิทธิภาพ ตรงกันข้าม ถ้าคิดในทางลบ เป็นเรื่องผิดหวัง โศกเศร้าเสียใจ สมองจะปล่อยสารเคมีที่ทำให้อารมณ์เราบูดเน่า ย่ำแย่ และระบบการทำงานของสมองก็พานรวน
ฉะนั้น ลองชี้ทิศทางให้สมองขับเคลื่อนไปด้วยพลังงานบวกดีกว่าค่ะ
• ทันทีที่บังเกิดความคิดลบ ความสุขก็หมดลงโดยพลัน
ผู้คนจำนวนหนึ่งต้องทนทรมานกับความกดดัน กระวนกระวายใจ และวิตกกังวลอย่างหนัก นั่นเป็นเพราะเขาป่วยด้วยอาการ ANTs หรือ automatic negative thoughts คนกลุ่มนี้มักตั้งใจและจดจ่ออยู่กับแง่มุมด้านลบของสถานการณ์หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้น และความคิดแบบนี้มักจะดูดพลังชีวิตไปจากสมอง
ถ้าใครมีอาการแบบนี้ ต้องพยายามพาตัวเองขึ้นมาจากกับดักหลุมดำในจิตใจ ที่ขุดไว้เอง โดยวิธีง่าย ๆ คือ ทันทีที่ความรู้สึกด้านลบบังเกิด รีบจรดดินสอปากกาเขียนสิ่งที่อยู่ในความคิด
คุณจะพบความคิดไร้เหตุผลมากมายกำลังจู่โจมทำร้าย จากนั้นก็ใช้ความคิดบวกเข้ามาแทนที่ และเยียวยาจิตใจตนเอง
คุณหมอเอเมน กล่าวว่า “จงทำลาย ANTs เปลี่ยนสมองกันเถอะ”
• ลองหลอกตัวเองบ้าง
ทันทีสมองคิดในเชิงคาดหวัง สถานการณ์หรือเรื่องราวก็อาจเกิดขึ้นจริง โดยหากสมองคิดลบ สถานการณ์หรือเรื่องราวในทางลบก็เป็นจริง ตรงกันข้ามหากสมองคิดบวก สถานการณ์หรือเรื่องราวในทางบวกก็เกิดขึ้น
กว่าศตวรรษที่จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรู้เรื่องนี้ ความคาดหวังในทางบวกจึงนำมาใช้บำบัดเยียวยาอาการเจ็บป่วยสารพัดโรค และเมื่อ 150 ปีที่ผ่านมา ในการบำบัดผู้ป่วย แพทย์ต้องทำตัวเป็นกันเองกับคนไข้ และสร้างความคิดหลอก (placebo effect) ขึ้นมา
ความคิดหลอกนี้คือ การสร้างความคาดหวังและความหวังขึ้นมา ระหว่างที่แพทย์กำลังบำบัดผู้ป่วย คุณหมอที. ฟินด์เลย์ ประเทศสหรัฐอเมริกากล่าวว่า “ทั้งพิธีกรรม ความศรัทธา และความกระตือรือล้น ล้วนแล้วแต่สร้างพลังชีวิต”
ในทางการแพทย์พบว่า การสร้างความคาดหวังและความหวัง คือ เครื่องมือสำคัญในการบำบัดผู้ป่วย มีพลังถึงหนึ่งในสี่ หรือสองในสามของการใช้มอร์ฟีนบำบัดอาการปวด และมีผู้ป่วยถึงหนึ่งในสามที่ใช้ความคิดหลอกแล้วได้ผล นั่นเป็นเพราะความคิดหลอก สามารถเปลี่ยนปฏิกิริยาและสารเคมีในร่างกายจากตัวร้ายเป็นตัวดีได้จริง
เมื่อร่างกายสบายขึ้น ระบบการทำงานของสมองก็เปลี่ยนไปในทางดี
• สั่งสมองปรับนิสัย เพื่อให้สมหวัง
เราใช้สมองส่วนคอร์เทค เมื่อต้องวางแผนชีวิต โดยสมองส่วนนี้จะทำหน้าที่ในการหาข้อมูลและวิธีการ เพื่อให้แผนที่วางไว้สำเร็จลุล่วงลงได้ ฉะนั้นการตั้งเป้าหมายในชีวิต แล้วปรับเปลี่ยนนิสัยเพื่อให้ได้มาจึงเป็นเรื่องที่ทำได้
เมื่อสมองคิดอย่างไร สถานการณ์หรือเรื่องราวนั้นก็เกิดขึ้นได้
คุณหมอเอเมนแนะนำว่า หากเราเขียนสิ่งที่ตนเองต้องการ และสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นลงหน้ากระดาษทุกวัน/สัปดาห์ มหัศจรรย์ในชีวิตจะเกิดขึ้น
โดยเขียนแยกเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับคนใกล้ตัว การงาน การเงิน รวมไปถึงเรื่องความต้องการในส่วนลึก เช่น อารมณ์ความรู้สึก ร่างกาย และจิตใจ เมื่อความคิดสามารถกำหนดคุณภาพสมองได้ จึงควรคิดในสิ่งดี ก่ออารมณ์เบิกบาน สดชื่น แจ่มใส เพื่อระบบการทำงานของสมองที่ดี ส่งผลต่อคุณภาพสมองดีตลอดไป
(นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 295)
ผลการเรียน (Outcome)
จากการเรียนรู้เทคนิคการคิดเพื้อเพิ่มประสิทธิภาพสมองทำให้ได้ประโยชน์ต่อตนเองรวมไปถึงประสิทธิภาพการเรียนการควบคุมอารมณ์ และอื่นๆอีกหลายด้าน
-มีสมาธิที่จะรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆมากขึ้น
-คิดในทางบวกมากขึ้นทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น
-รู้ทันและจัดการกับความคิดลบที่เกิดขึ้นได้
-ใจเย็นและมีความอดทนมากขึ้น
ข้อคิดที่ได้จากประสบการณ์ (Reflection)
ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงวัยรุ่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องเพื่อน และอื่นๆอีกมากมาย ทำให้บางคนนั้นดูอารมณ์ร้อน ควบคุมตัวเองไม่ได้กับสถานการณ์ข้างหน้า แต่เมื่อได้ลองฝึกควบคุมสมองให้รู้จักคิดหรือแก้ไขกับปัญหาและสถานการณ์ต่างๆได้อย่างถูกต้องแล้ว จะทำให้เรารู้ว่า เราสามารถผ่านมันไปได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ หรือเรื่องด่วนเท่าใดก็ตาม และเมื่อมีความคิดที่ดีแล้ว นั่นจะทำให้เรากลายเป็นคนที่อารมณ์ดี มีความสุข และทำให้คนรอบข้างมีความสุขไปด้วย :)
เอกสารอ้างอิง (Reference)
http://www.cheewajit.com/articleView.aspx?cateId=1&articleId=2021
เป็นวิธีที่สุดยอดมาก ประตูสู่ความสำเร็จ
สุดยอดมากกเลยค่ะ สามารถนำไปใช้ได้จริง
จะลองนำไปใช้ดูค่ะ น่าสนใจมากๆ
ดีมากครับ บทความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ทำให้ทราบว่าความคิดกำหนดทุกอย่างได้จริง เป็นแนวทางที่จะช่วยพัฒนาในการดำเนินชีวิตต่อไปครับ
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ :)
มีประโยชน์มากค่ะคุณโอปอล์ ดิฉันจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ
ดีจัง มีประโยชน์มากๆเลยน่ะ
โห น่าสนใจอ่ะ อย่างนี้ต้องลองทำดูซะแล้ว
ดีมากเลยคับ : D
นำไปใช้ได้ และจะนำไปใช้ด้วย^
ต้องพยายามลองดูมั่งแล้ว><
อ่อ มีประโยชน์จริงๆค่ะ
ดีมากเลยนะฮะ!! จะลองทำดูบ้างฮ่า
ต้องนำไปใช้บ้างแล้ว^
จะพยายามคิดให้มากมายหลากหลายขึ้น ไม่จ่มจ่อมอยู่แต่ความคิดเดิมๆ จะได้มีเวลาไปสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ้บ้าง TT
เป็นวิธีที่น่าลองใช้มาก ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ
ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ จะลองนำไปใช้ดูนะคะ :D
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะ จะลองนำไปใช้ดูนะคะ ^^