May
นางสาว ณัฐกานต์ โกเสนตอ

The Biosphere and Animal Distribution


สรุปบทเรียนวันที่ 5 กรกฎาคม 2555

The Biosphere and Animal Distribution

    โลกประกอบด้วยน้ำและผืนดินในอัตราส่วน 3:1

     ปัจจัยที่เป็นองค์ประกอบให้โลกและสิ่งมีชีวิตมีความหลากหลายได้แก่ ปัจจัยทางกายภาพ เช่น แสง ความร้อน รังสี อุณหภูมิ ลม เสียง และปัจจัยทางชีวภาพ เช่น พืช สัตว์ แบคทีเรีย (สิ่งมีชีวิตต่างๆ)

Biosphere หรือชีวาลัย (ระบบนิเวศขนาดใหญ่)

แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่     1. Lithosphere  นิเวศบนบก

                                      2. Hydrosphere นิเวศในน้ำ

                                      3. Atmosphere ชั้นของอากาศหรือแก๊ส

 

 Biome หรือชีวนิเวศ แบ่งออกเป็น 2 ระบบใหญ่ คือ

  • Terrestrial Biomes

    สิ่งที่สำคัญต่อไบโอมบนบกคือ ตำแหน่งที่ตั้งเพราะจะเป็นตัวกำหนดว่าไบโอมจะได้รับแสงมากน้อยแค่ไหน และส่งผลถึงภูมิอากาศ อุณภูมิ ประเภทของดินและสารอาหารในดิน ไบโอมบนบกแบ่งเป็น

        -ป่าไม้เขตร้อน (Tropical rain forest)
        -ป่าผลัดใบเขตอบอุ่น (Temperate Deciduous forest)
        -ทุ่งหญ้าเขตอบอุ่น (Temperate grassland)
        -ชาพาร์ราล (Chaparral )
        -ทุ่งหญ้าเขตร้อน (Tropical Savanna)
        -ทะเลทราย (Desert)
        -ป่าสน (Coniferous forest)
        -ทุนดรา (Tundra)

 

  • Aquatic biomes

   สิ่งที่สำคัญต่อไบโอมในน้ำคือ ความลึกเพราะจะเป็นตัวกำหนดปริมาณแสงที่ส่องถึง อุณหภูมิ ปริมาณออกซิเจนรวมไปถึงแก๊สและแร่ธาตุอื่นๆ ไบโอมในน้ำสามารถแบ่งกว้าง ๆ ได้เป็น

       -ไบโอมแหล่งน้ำจืด (Freshwater biomes) โดยทั่วไปประกอบด้วยแหล่งน้ำนิ่งซึ่งได้แก่  ทะเลสาบ  สระ  หนอง  หรือบึง  กับแหล่งน้ำไหล  ได้แก่ ธารน้ำไหลและแม่น้ำ  เป็นต้น
       -ไบโอมแหล่งน้ำเค็ม (Marine biomes) โดยทั่วไปประกอบด้วยแหล่งน้ำเค็ม  ซึ่งได้แก่  ทะเลและมหาสมุทร ไบโอมแหล่งน้ำเค็มจะแตกต่างจากน้ำจืดตรงที่มีน้ำขึ้นน้ำลงเป็นปัจจัยทางกายภาพที่สำคัญ นอกจากนี้ยังพบช่วงรอยต่อของแหล่งน้ำจืดกับน้ำเค็มที่มาบรรจบกัน และเกิดเป็นแหล่งน้ำกร่อยซึ่งมักพบบริเวณปากแม่น้ำ

คำสำคัญ (Tags): #The Biosphere and Animal Distribution
หมายเลขบันทึก: 493670เขียนเมื่อ 5 กรกฎาคม 2012 22:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 กรกฎาคม 2012 19:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ป่าไม้เขตร้อนมีกี่ประเภทครับ และแบ่งแยกกันได้อย่างไร

  ป่าไม้เขตร้อนคือ ป่าไม้ที่ขึ้นปกคลุมในบริเวณเขตร้อนของโลกแบ่งได้เป็น 3 ประเภท

        1. ป่าไม่ผลัดใบ (Evergreen Forest) มีต้นไม้เขียวชอุ่มตลอดปี ไม่มีเวลาในการผลัดใบ ใบใหม่ผลิออกแทนที่อย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็น

           - ป่าดงดิบ หรือป่าดิบชื้น (Tropical Evergreen Forest or Tropical Rain Forest) เป็นป่ารกทึบเขียวชอุ่มตลอดปี ต้นไม้ทุกชนิดไม่มีการผลัดใบ เช่น ยางตะเคียน กระบาก เคี่ยม หวาย ไผ่ และเถาวัลย์ชนิดต่างๆ  

           - ป่าดงดิบเขา (Hill Evergreen Forest) เป็นป่าโปร่ง อากาศเย็น มีมากแถบภูเขา                  

           - ป่าดงดิบแล้ง (Dry Evergreen Forest) เป็นสังคมป่าไม่ผลัดใบที่มีพืชผลัดใบขึ้นผสมอยู่ค่อนข้างมาก ทำให้ต้นไม้ส่วนหนึ่งพากันผลัดใบในฤดูแล้ง ป่าชนิดนี้เหมาะสมเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าหลายประเภท อาทิ กระทิง วัวแดง เนื่องจากมีพืชอาหารมากสามารถใช้เป็นแหล่งอาหาร

           - ป่าสนเขา (Pine Forest or Coniferous Forest) พบทั่วไปที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเป็นป่าโปร่งไม่ผลัดใบ มีสนขึ้นเป็นกลุ่ม ไม้เด่นคือ สนสองใบ สนสามใบ ไม้ก่อ รังเต็งพลวง

           - ป่าชายเลน (Mangrove forest) เป็นป่าที่มีน้ำท่วมถึงอยู่ริมทะเลหรือปากแม่น้ำใหญ่

      2. ป่าผลัดใบ (Deciduous Forest) ผลัดใบในฤดูแล้ง และผลิใบเขียวชอุ่มในฤดูฝน แบ่งเป็น

           - ป่าเบญจพรรณ (Mixed Deciduous Forest)เป็นป่าโปร่ง พื้นดินเป็นดินร่วนปนทราย ต้นไม้ส่วนมากจะผลัดใบในฤดูแล้ง

           - ป่าแดง ป่าแพะ ป่าโคก หรือป่าเต็งรัง(Dipterocarp Forest)เป็นป่าโปร่ง แห้งแล้ง พื้นดินเป็นดินร่วนปนทรายหรือกรวดลูกรัง มีความอุดมสมบูรณ์น้อย

      3. ป่าที่มีลักษณะพิเศษ เป็นป่าที่มีพื้นที่น้อย ขึ้นอยู่กระจัดกระจายตามบริเวณเฉพาะที่มีความแตกต่างไปจากบริเวณอื่น

           - ป่าชายหาด (Beach Forest) เป็นป่าโปร่ง ไม่ผลัดใบ ขึ้นอยู่ตามหาดทรายริมทะเลที่มีน้ำท่วมไม่ถึง ตามฝั่งดิน

           - ป่าพรุหรือป่าบึง (Swamp Forest) เป็นป่าที่มีน้ำท่วมขังนาน ดินขาดการระบายน้ำที่ดี

           - ป่าหญ้าหรือป่าทุ่ง (Savannah) เกิดหลังจากที่ป่าทุกชนิดถูกทำลายลง พื้นดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ในฤดูแล้งจะเกิดไฟไหม้

ป่าพรุในเมืองไทยมีกี่แห่งครับ อยู่ที่ไหนบ้าง และในภาคเหนือมีป่าพรุไหมครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท