การศึกษาไทยที่เด็กไทยต้องการ


การศึกษไทยที่เด็กไทยต้องการ

 

  

    สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวการศึกษา หรือเพื่อน ๆ ที่ได้แวะไปแวะมาได้สำผัสกับบุคคลที่ได้อยู่ในแวดวงการศึกษาไทย

     ครับอยากจะถามเพื่อน ๆ ว่า "การศึกษาไทยในปัจจุบันเป็นอย่างไร" ซึ่งหลายคนก็คงให้คำตอบที่ไม่เหมือนกัน (คำตอบที่ได้ต้องให้คะแนนแบบรูบริค คือใครตอบได้ถูกใจและถูกต้องมากที่สุดเอาไปเลยคะแนน) แต่คำตอบที่เพื่อน ๆ ตอบมาก็คงหนีไม่พ้นการศึกษาไทยกำลังถอยหลังลงคลอง

     ในสายตาของผมเองคงอาจจะไม่เหมือนกับเพื่อน ๆ หลาย ๆท่าน เพราะผมเองเป็นบุคคลที่อยู่ในแวดวงการศึกษาอาจจะเข้าข้างตัวเองนิดหนึ่งว่าการศึกษาไทยที่เป็นอยู่แบบนี้ในปัจจุบันปัจจัยหลักไม่ได้ขึ้นอยู่กับครู เพราะคำตอบที่ได้จากบุคคลหลายวงการที่ไม่ได้เข้ามาสัมผัสการศึกษาโดยตรงเค้าก็โทษว่าครูไม่มีคุณภาพ ครูหัวโบราณ ซึ่งมองเพียงจุด ๆ หนึ่งของครูเท่านัน แต่ในหลักความเป็นจริง เราต้องมองไปหาต้นตอของปัญหาที่เกิดมาจนถึงปัจจุบัน

    สาเหตุของระบบการศึกษาที่มีปัญหานั้นมาจากหลายสาเหตุ ผมขอสาวความนิดหนึ่งนะครับว่า

1. นโยบายการศึกษาของรัฐบาลไม่ชัดเจน เพราะเป็นไปตามกลไกทางการเมือง ไม่ได้มีเสถียรภาพ เพราะใครที่มาเป็นรัฐมนตรี หรือเป็นรัฐบาลก็ต้องชูนโยบายของตนเอง ถึงแม้นโยบายดี ๆ ของคนที่ทำมาก่อนหน้าจะดีสักแค่ไหนก็ไม่ใช่นโยบายตนเองก็เป็นอันต้องล้มเลิก พอเปลี่ยนรัฐมนตรีทีหนึ่งนโยบายก็เปลี่ยนทีหนึ่งทำให้หน่วยงานภายใต้องค์กรนั้นต้องปรับเปลี่ยนกันจนเป็นว่าเล่น ซึ่งจริง ๆ หากรัฐบาลใดก็ตามได้ว่างนโยบายดี ๆ ไว้อยากให้คงไว้ซึ่งสิ่งที่ดีและก็พัฒนาต่อยอด และก็เสนอนโยบายใหม่ ๆ ที่ทำให้ผลนั้นลงไปที่ตัวเด็กซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของการศึกษาไทย

 

 

2.การบริหารงานที่ผิดพลาดของคนที่เป็นผู้นำทางการศึกษา ผมก็เข้าใจนะครับว่าในการที่จะทำงานให้ก้าวหน้านั้นก็ต้องมีการทำงานให้ชัดเจนแจ่มแจ้ง ดังนั้นหน้าหน่วยงานต่าง ๆ ของวงการศึกษานั้นจะต้องรับนโยบายจากหน่วยเหนือลงมา บางทีของที่ได้มาเป็นของร้อน ๆ ด่วน ๆ เชื่อผมเถอะที่รายงานไปอันนั้น make a cake ครับ ผมก็เคยมีประสบการณ์มาแล้ว ต้องส่งงานนี้ภายใน 2 วัน ผมทำไม่เสร็จ ที่อื่นส่งเสร็จหมดแล้ว แล้วผมเองถามว่าเค้าทำกันได้อย่างไรข้อมูลเป็นร้อย ๆ หน้า หรือต้องทำอย่างมีขั้นตอนเพื่อให้ได้ข้อมูลมากว่าจะเก็บรวบรวมได้ก็หมดเวลา บางครั้งส่งช้า โดนตำหนิ ดังนั้นข้อมูลสารสนเทศบางทีก็ได้มาจากข้อมูลที่ไม่จริงก็มี "เช่นส่งข้อมูลเรื่องนักเรียนติดยาเสพติด" โรงเรียนผมส่งไปว่ามีเด็กสูบบุหรี่จริง 7 คน โรงเรียนอื่นที่เด็กติดยาหรือเสพอะไรต่อมิอะไร รายงานว่าไม่มีเลย เขตทำหนังสือให้พาเด็กที่ผมส่งรายชื่อไป เอาไปอบรมซึ่งเด็กแค่ลอง แต่ที่ติดจริงนะไม่ได้มาหรอก

3. การล้าของครูผู้สอน ตอนนี้สมัยนี้ครูทำงานหนักมากกว่าเมื่อก่อนยิ่งถ้าครูที่อยู่โรงเรียนที่มีเด็กน้อยๆ แต่สอนเท่าโรงเรียนอื่นยิ่งหนักเข้าไปอีก ไหนจะสอน ไหนจะต้องรายงานข้อมูลไปหามา ไม่ได้สอนเด็ก ต้องไปอบรม ต้องหยุดหลายวัน สอนไม่ทันอีก ครูมีภาระงานมาก แต่ก็มีนะครับโรงเรียนใหญ่ ๆบางโรงเรียนที่มีครูเยอะ เกณฑ์มีต้องตามจำนวนเด็ก สอน 18 คาบต่อสัปดาห์ บางทีสอนไม่ถึงก็มี อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะคิดเหมือนกันหรือเปล่า คือนโยบายที่ย้ายคืนถิ่น ซึ่งผมเองก็ว่าดี แต่พอย้ายแล้วตัดตำแหน่งไป ทำให้โรงเรียนเริ่มแย่ เพราะครูก็น้อย ไม่ตามเอก ช่วยกันสอน บางทีสอน ๆ  ไป ผู้ปกครองก็พาเด็กย้ายไปเรียนที่อื่น โรงเรียนเด็กลด พอเด็กลดก็ตัดตำแหน่งครูย้ายอีกไม่ได้เพิ่ม โรงเรียนยุบไปเลย อันนี้ฝากนโยบายของผู้บริหารข้างบนด้วยนะครับต้องเข้าใจและเล็งเห็นความสำคัญยิ่งมัธยมศึกษาครูต้องตรงเอกครับ เพราะเด็กเริ่มโต เริ่มต้องการความรู้ที่มากขึ้นครูต้องแน่นครับ

 

4. ความพร้อมและศักยภาพของโรงเรียน โรงเรียนแต่ละโรงเรียนได้รับงบประมาณต่างกันอันนั้นเป็นเรื่องที่ต้องเข้าใจในเรื่องของจำนวนเด็กแต่ละโรงเรียน แต่ถามว่าเด็กทุกคนต้องเรียนคอมพิวเตอร์หรือเปล่า เด็กต้องมีใบงาน ใบความรู้หรือเปล่า เด็กอยากจะได้รูปแบบเทคนิค วิธีและการสอนที่หลากหลายหรือเปล่า ก็ต้องตอบว่าต้องการอย่างแน่นอน แต่อยากจะถามว่าอุปกรณ์พร้อมหรือเปล่า โรงเรียนเล็ก ๆ ยิ่งแล้วใหญ่ คอมพิวเตอร์สอนเด็กยังหายากมาก งบพอจะซื้อก็ไม่มีเพราะได้ตามรายหัว โรงเรียนใหญ่ ๆ ได้บ่อยเพราะเด็กมาก ทำให้ต่อไปเด็กจะไม่มาเรียนโรงเรียนเล็ก ๆ เลย 

 

5. เด็กปัจจุบันขี้เกียจ เขียนก็ไม่สวยครับ เด็กทำข้อสอบเหมือนกับว่าไม่สำคัญเลย บางคนคิดว่า ตกก็แก้ ผ่านก็แค่นั้นแหละ เรียนไปก็จบเพราะรัฐบาลบอกนโยบายมาว่าห้ามเด็กตก เด็กเลยไม่เห็นความสำคัญของการเรียน เด็กติดยามากขึ้น เด็กเริ่มมองเพศตรงข้ามเร็วขึ้น มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร  เด็กมองการศึกษาเหมือนกับการถูกบังคับ ไม่อยากเรียน ไม่มีแรงจูงใจ พอเด็กไม่มาโรงเรียนก็โทษครูอีกว่าไม่มีทักษะในการสร้างจูงใจให้เด็ก ไอ้ครูที่เป็นแบบนั้นก็มีแต่อย่าเปรียบกับทุกคน 

  

 สุดท้ายการศึกษาไทยที่เด็กไทยต้องการเป็นอย่างไรใครรู้บ้าง เหมือนที่กล่าวมาทั้งหมด ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ใครเป็นผู้แก้ 

หมายเลขบันทึก: 493419เขียนเมื่อ 4 กรกฎาคม 2012 14:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 สิงหาคม 2013 13:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท