ชาย...ผ้าเหลือง ๒ ( ภาคพิเศษ )
ชาย...ผ้าเหลือง ๒ ( ภาคพิเศษ )
ชายผ้าเหลืองใช่อาภรณ์ห่อหุ้มพระ
ให้หลุดพ้นวัฏฏะในสงสาร
เป็นแค่เพียงสิ่งหุ้มกายหายอนาจาร
ของชายชาญที่เป็นคนคราบจีวร
สิ่งที่ช่วยให้ชายกลายเป็นพระ
คือธรรมะพุทธองค์ทรงสั่งสอน
พระวินัยไตรปิฎกตามขั้นตอน
ดับทุกข์ร้อนด้วยบัญญัติสัจธรรม
อริยสัจ ไตรสิกขา สมาธิ
เตือนสติ แห่งสงฆ์ มิหลงถลำ
ในมือมาร อวิชชา พาระยำ
จนบ่วงกรรมตามรัดเป็นวัฏฏา
พระสอนคนที่ไม่รู้ให้ได้รู้
ให้พ้นจาก “ตัวของกู” ปรารถนา
มิใช่เพียงซองขาวที่ได้มา
แลกศรัทธากับตราบาปด้วยเงินทอง
ทุกถิ่นที่ยกมือไหว้ “ชาย...ผ้าเหลือง”
หวังเจริญรุ่งเรืองหายเศร้าหมอง
ด้วยยึดเกี่ยวเหนี่ยวใจให้เรืองรอง
มิขุ่นข้องว่าของจริงหรือหิ้งปลอม
ชื่อว่า “พระ ” จงลด ละ บัญญัติห้าม
ให้อารามงามสง่าน่าถนอม
เอาเสียงธรรมนำทางผู้ตรมตรอม
เป็นเสียงสวดที่พรั่งพร้อมพุทธคุณ
ใช่จุดธูปเทียนหลอกองค์ปฏิมา
พร่ำมนตราไสยเวทเสพเมถุน
เอาผ้าเหลืองบังหน้าว่านักบุญ
เพื่อเจือจุนร่างตนพ้นคืนวัน
วันที่หนึ่งถึงสิบหกถกเรื่องหวย
อยากร่ำรวยเห็นนรกเป็นสวรรค์
เช้าว้าวุ่นบ่ายนั่งลุ้นเย็นยิงฟัน
หน้าหุนหันถึงเวลาทำวัตรเย็น
พระบาลีเล่มไหนไม่อยากอ่าน
เป็นสมภารนกแก้ว...มิรู้มิเห็น
ท่องสวดไปตามความตามจำเป็น
อย่ามาเข่นถามเอาเรื่องฉันเคืองใจ
ตั้งตัวตนเป็นศาสดาเหนือสุจริต
เอากายจิตเป็นนายธรรมตามวิสัย
ยึดนิวรณ์เป็นนิวาสอาสน์เป็นไฟ
น้ำตาเทียนรินไหลไหม้จีวร
ชายผ้าเหลืองอย่าเป็นได้แค่เศษผ้า
ที่ห่อหุ้มสังขาร์ผีห่าหลอน
ให้เป็น “คนสีเหลือง” เปลืองจีวร
เที่ยวหลอกหลอนลวงจิตคนโง่งม
สารพันปัญหาสารพัด
ของเรื่องราวพระในวัดไม่เหมาะสม
บ้างตีไก่ บ้างต่อนก ตามอารมณ์
เป็นพระพรหมทำเสน่ห์เสดาะกรรม
หนังสือพิมพ์อื้อฉาวข่าวหน้าหนึ่ง
สงฆ์ทำทึ่งขืนใจสาวจนอิ่มหนำ
เล่นพนัน ดื่มสุรา มิกลัวกรรม
การกระทำเยี่ยงสัตว์ภูตนรก
ทำเช่นไรศาสนาจักคงอยู่
จักคงคู่พระวินัยไตรปิฎก
เป็นแก่นธรรมหลอมรวมเหล่าสาวก
พ้นจากขุมนรกอเวจี
ให้ลูกหลานได้ชื่นชมและสืบทอด
ได้ห่มกอดชายผ้าเหลืองสมศักดิ์ศรี
ได้บอกใครตนคือพระเต็มวจี
พร้อมเผยแพร่ความดีแทนศาสดา
พระเป็นพระในสังคมมีไม่น้อย
คนนับร้อยที่เป็นพระยากจักหา
พระใจคนมีเกลื่อนกลาดเต็มพารา
คนที่ว่าใจพระเท่าธุลี
ขอน้อมนพองค์พุทธาอานุภาพ
หากล่วงเกินด้วยคำหยาบในกาลนี้
หามีเจตน์ลบหลู่ไตรมณี
เพียงเตือนย้ำหน้าที่ชายผ้าไตร...
จากเรื่อง "ชาย...ผ้าเหลือง ๑ ( ภาคปกติ )" และ " ชาย...ผ้าเหลือง ๒ ( ภาคพิเศษ ) " ผู้เขียนมิมีเจตนาใดๆ ที่จะล่วงเกินพระพุทธศาสนา...ที่ตนเองนับถือ แต่ด้วยคารวะธรรมจึงเขียนขึ้นเพื่อเตือนสติให้หยั่งรู้ว่า...ยังมีคนนับล้านที่เลื่อมใสพุทธศาสนาอย่างสัตย์จริง...มิอยากเห็นพุทธศาสนาลงมาเปรอะเปื้อนอื้อฉาวข่าวสังคม อันก่อวิบัติให้องค์กรพุทธศาสนาเสื่อมศรัทธาลง ... กลายเป็นความโสมมของกลุ่มคนที่เรียกตนว่า " พระ" อาศัยชายผ้าเหลืองล่วงละเมิดธรรมวินัยที่เป็นข้อบัญญัติ ทำ ... อุกอาจอนาจารต่างๆนาๆ ให้พระไตรรัตน์สั่นคลอน ... ด้วยตัณหาอุปปาทานที่เกิดจากจิตใจตน อันกอปรด้วย รัก โลภ โกรธ หลง ของสัตว์โลกทั่วไป หาใช่เวไนยสัตว์ที่พร้อมจะอบรมตนขึ้นไปสู่ที่สูง ... เพื่อโปรดฝูงสัตว์ที่ไม่รู้ให้เห็นแจ้งแห่งธรรม ... พ้นจากอวิชชา กลุ่มคนเหล่านี้ต้องเตือนตน... เพราะมีคนนับล้านบนผืนแผ่นดินนี้ประนมมือไหว้ท่านด้วยความเลื่อมใสศรัทธา โดยสัตย์จริง...อย่าให้ชายผ้าเหลืองเป็นเพียงหนึ่งเครื่องแบบของคนขอทาน อยากให้เป็นผ้ากาสาวพัสตร์ของผู้ใจบุญในแดนพุทธรรมนี้...ด้วยวิญญาณ...
ความเห็น (5)
พระวิเศษสามรถแปลงร่างได้ ทิวากาล ห่มผ้าเหลือง หัวโล้น ไร้เครื่องประดับ มองดูน่าเลื่อมใส หลุดพ้นจากกิเลศ ไม่ยุ่งเกี่ยวทางโลก พอราตรีกาล เปลี้องจีวร ใส่วิก ท่องสถานเริงรมย์ จึงได้เห็นข่าว เป็นประจำ อ่านชายผ้าเหลือง ๒ แล้ว สงสารศาสนา เห็นใจพระที่เป็นพระจริง ๆ ถ้าไหว้ผิด ก็ถือว่า ไหว้พระพุทธศาสนา ละกัน
" พระเป็นพระในสังคมมีไม่น้อย
คนนับร้อยที่เป็นพระยากจักหา
พระใจคนมีเกลื่อนกลาดเต็มธารา
คนที่ว่าใจพระเท่าธุลี"
ขอนุญาติเปลี่ยนบทนี้บางคำ จาก "ธาร" เป็น "พารา" ได้ไหมครับ ท่าน
พระเป็นพระในสังคมมีไม่น้อย
คนนับร้อยที่เป็นพระยากจักหา
พระใจคนมีเกลื่อนกลาดเต็มธารา
คนที่ว่าใจพระเท่าธุลี
ขออภัยขอเปลี่ยน จาก "ธารา" ในคำสุดท้าย วรรคที่ ๓ เป็น "พารา" แทนจะได้ไหมครับ ท่าน
ขอร่วมอนุโมทนาในส่วนที่สร้างสรรค์ในสิ่งดีที่เกิดขึ้น นั้นก็เป็นเพราะว่าบุคคลผู้นั้นได้ทำความดีมาตลอดจึงได้รับผลดี
ขอบคุณอาจารย์แว่นธรรมทองมาก จริงๆแล้วผมตั้งใจให้มัน แปลว่า "พื้นดิน" นั่นแหละครับ คิดเร็วไป ตกหล่นเรื่องความหมาย จะรีบแก้ไขโดยด่วน ขอบคุณอีกครั้งครับ
ขอขอบพระคุณท่านผ้าขาวเปื้อนหมึกครับที่ แวะทักทายและร่วมอนุโมทนาในส่วนที่ดีงาม