ชีวิตที่พอเพียง: ๑๕๙๑. นั่งสังเกตชีวิตผู้คนที่ Galleria ฮุสตัน (๒๐พ.ค. ๕๕)


 

          เจ้าหน้าที่ของโรงแรมเชอราตันบอกว่า Galleria เปิดเวลา ๑๑ น. ผมจึงไปดูว่าสถานที่ข้างในเป็นอย่างไรผมเห็นข้างนอกแล้วตอนมาวิ่งเมื่อเช้าเดินดูได้สักครึ่งชั่วโมงชักเบื่อรู้สึกว่าเหมือนเดินห้างในกรุงเทพนั่นเองจึงหาที่นั่งอ่านหนังสือใน ไอแพด   ตอนแรกนั่งบริเวณที่เห็นลานสเก๊ตน้ำแข็งอยู่ข้างล่างแต่พอมีคนเดินมาพื้นมันจะยวบๆ ผมจึงหาที่ใหม่   ไปพบที่สบายสุดๆ เป็นที่โชว์ชุดโซฟาของร้าน  High Fashion Home ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาทำงานผมได้โอกาสนั่งเอกเขนกอ่านหนังสือ

          นั่งไปสัก ๒๐นาทีก็บอกตัวเองว่านั่งสังเกตชีวิตผู้คนดีกว่า

          วันนี้เป็นวันอาทิตย์ วันพักผ่อนของผู้คนทั่วโลก และเป็นวัฒนธรรมร่วมทั่วโลก คือพักผ่อนโดยการไปเดินห้าง   ผมทราบมาจากโชเฟอร์เมื่อวานว่าที่ ฮุสตัน มีคนพูดสเปนประมาณครึ่งหนึ่งจึงสังเกตว่าคนที่เดินไปมาแบ่งตามลักษณะร่างกายได้เป็น๔ประเภท

  • คนดำ ผมหยิก
  • คนครึ่งผิวเหลืองครึ่งขาวตัวเตี้ยล่ำ  มีเค้าหน้าจำเพาะ  พนักงานทำความสะอาดคนหนึ่งเดินมาพอดี หน้าตารูปร่างตรงตามมาตรฐานกลุ่มนี้   ผมสงสัยว่าปัจจัยอะไร ทำให้เขามีรูปร่างท้วมเช่นนี้
  • คนเอเซีย ซึ่งส่วนใหญ่คงเป็นจีน กับอินเดีย  ที่เห็นคนจีนน่าจะมากกว่าอินเดียสิบต่อ
  • คนคอเคเชียน ตัวโตสูงใหญ่

          คนสี่กลุ่มนี้เท่าที่ผมสังเกตตรงจุดที่ผมนั่งดู น่าจะมีจำนวนพอๆ กัน   ไม่ทราบว่าสัดส่วนมันแทนประชากรของ ฮุสตันหรือเปล่า

          ห้างทั่วโลกต้องหากลวิธีดึงคนมาเดินห้าง หรือมาทำกิจกรรมในห้าง   ผมเคยเห็นที่ห้างเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ มีชั้นหนึ่งสำหรับเด็กมาเรียนศิลปะหรือฝึกดนตรี ฯลฯ   เป็นบริการแก่เด็ก และให้พ่อแม่มาซื้อของ   ที่ แกลเลอเรีย ก็เช่นกัน ชั้นล่างสุดมีลานสเก๊ตน้ำแข็ง สำหรับให้เด็กมาฝึก   มีครูฝึกเด็กเป็นกลุ่มๆ ในช่วงเวลาหลังเที่ยง   ตอน ๑๑ น. มีเด็กและผู้ใหญ่ที่เก่งแล้วมาฝึกท่าต่างๆ เช่นบางคนมาฝึกหมุนตัว เดาว่าให้เคยชินไม่เวียนศีรษะ   ตอน ๑๑.๓๐ ได้ยินเสียงดนตรีดังลั่น ผมมัวอ่านหนังสือไม่ได้ชะโงกไปดู   ไม่ทราบว่ามีรายการแข่งขันหรือเปล่า  

          เสียดายผมไม่ได้เดินไปสังเกตชีวิตผู้คนด้านการช็อปปิ้ง   เพราะสังเกตไม่เป็น   รู้แต่ว่าช่วงนี้ไม่ใช่เทศกาลลดราคา   ผมเป็นคนไม่ใช้ของ แบรนดฺ์เนม จึงไม่เข้าร้านเหล่านี้   เพราะไม่เห็นความจำเป็น

          สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจคือโครงสร้างหลังคา ที่ออกแบบและก่อสร้างได้สวยงามมาก   คือเป็นกระจกโค้ง ทำให้แสงเข้ามาได้ ช่วยประหยัดพลังงาน

          ที่จริงการแต่งหน้าร้านให้ดึงดูดลูกค้าก็น่าจะน่าสังเกต และเอาเป็นการเรียนรู้สำหรับนักโฆษณา หรือนักออกแบบหน้าร้านได้   แต่ผมไม่มีความสนใจด้านนี้ จึงไม่ได้สังเกต ไม่ได้ตีความเอาไว้เรียนรู้ 

          เวลา ๑๒.๓๐ น. ผมลงบันไดเลื่อนไปที่ชั้นล่าง เดาว่ามีร้านอาหาร   ไปเจอสารพัดร้าน จึงเลือกร้านจีน   ซื้อกลับมากินที่โรงแรม   เขาตักให้ปริมาณมากแบบฝรั่งกินอิ่ม   แต่ผมกินได้ ๒ มื้อ

          เดินไปเดินมาแถวนี้ ๒ เที่ยว ได้สังเกตต้นไม้ประดับของเขาที่ใช้ทำเป็นรั้ว มีดอกหอมด้วย   เทียบได้กับต้นโมกบ้านเรา

          ตอนเย็น เวลาประมาณ ๑๗ น. คุณอ้อ หัวหน้าคณะทัวร์ดูงาน hospice พาไปนั่งรถชมเมือง   แล้วไปสิ้นสุดที่ Galleria ผมจึงไปนั่งสังเกตคนอีกครั้ง   ตรงต่างบริเวณและพบว่าอาจจะถึง 50% ของคนที่เดินไปมามีรูปร่างหน้าตาอยู่ในกลุ่มที่ ๒   คนเหล่านี้มักมาเป็นครอบครัวกลุ่มใหญ่ มีเด็กด้วย   และเห็นคนอินเดียมากขึ้น   ดังนั้นที่เขียนข้างบนว่าคนจีนมากกว่าอินเดีย ๑๐ เท่าน่าจะต้องแก้ เป็น สามเท่า

          ตอนใกล้ค่ำ เราไปกินอาหารเย็นที่ Outback Steakhouse   ผมพบว่าลูกค้าเกือบทั้งหมดเป็นคนกลุ่มที่ ๔   มีพวกเราที่เป็นกลุ่มที่ ๓   คนต่างกลุ่มนิยมไปในที่ต่างกัน 

วิจารณ์ พานิช

๒๐ พ.ค. ๕๕

โรงแรม เชอราตัน ฮุสตัน


หมายเลขบันทึก: 492821เขียนเมื่อ 29 มิถุนายน 2012 12:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 กรกฎาคม 2012 03:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ผมอ่านมาว่าคนกลุ่มที่สอง (Latin American) มีมากขึ้นเรื่อยๆ ในอเมริกา แล้วกลุ่มนี้มีลูกกันเยอะๆ เวลาเข้ามาในอเมริกาได้ เขาว่าอีกไม่นานจะกลายเป็นประชากรกลุ่มสำคัญของอเมริกาครับ

ผมว่าอีกไม่นานประเทศไทยก็มีปัญหาคล้ายๆ กันนี้กับคนพม่าครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท