ดีจัยอย่างยิ่งที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับนวัตกรรม สำหรับวันนี้ขอนำเสนอ
กระบวนการของนวัตกรรมและทฤษฎีนวัตกรรมค่ะ
กระบวนการของนวัตกรรม
การค้นหาความคิดใหม่ : Idea
Generation
6
แหล่งที่มาของความคิดที่เป็นนวัตกรรม
1. ความรู้
2. การใช้ประโยชน์จากความคิดของลูกค้า
3. การเรียนรู้จากกลุ่มผู้ใช้ที่มีหัวก้าวหน้า
4. การออกแบบที่เข้าถึงใจคน
5. ฝ่ายวิจัยและพัฒนา
6. นวัตกรรมจากภายนอกองค์กร
การรับรู้โอกาส : Opportunity
Recognition
- สิ่งที่สำคัญ คือ
เราต้องฉลาดพอที่จะรับรู้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่เมื่อเราเห็นมันตรงหน้า
(Norman Augustine)
- หลักการรับรู้โอกาสด้วย
แผนผังอรรถประโยชน์
-
นวัตกรรมสร้างอรรถประโยชน์มากที่สุดในด้านใดได้บ้าง
- อรรถประโยชน์นั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าเทคโนโลยีของ
ผู้อื่นเพียงใด
- อรรถประโยชน์ใดมีความสำคัญมากที่สุด
- สามารถปรับเปลี่ยนแนวคิดเพื่อสร้างนวัตกรรม
ที่เป็นอรรถประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร
การประเมินความคิด : Idea
Evaluation
-
ความเหมาะสมของนวัตกรรมกับกลยุทธ์ขององค์กร
-
ความสามารถด้านเทคนิคขององค์กรในการสร้างนวัตกรรม
- ความสามารถทางด้านธุรกิจที่ส่งผลให้นวัตกรรมประสบความสำเร็จ
การพัฒนานวัตกรรม :
Development
-
ตัวกรองความคิด
การนำนวัตกรรมเข้าสู่ตลาด :
Commerciali-zation
-
การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน Cbreakeven-zation
-
การวิเคราะห์กระแสเงินสดคิดลด (discounetd cash
flow analysis)
ทฤษฎีนวัตกรรม
1. Disuptive
Innovation ทฤษฎีแบบผ่าเหล่าผ่ากอ
เป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีสินค้าหรือบริการ
ที่สามารถที่จะล้มล้างเทคโนโลยี สินค้าหรือบริการที่มีอยู่เดิมในตลาด
แนวคิดของ Disruptive Innovation แบ่งออกเป็น
2 ประเภท คือ
-
New-market
Disruption Innovation
- Lower-end
Disruption Innovation
2.
ทฤษฎี Diffusion Innovation Theory
(DOI)
ทฤษฎีการแพร่กระจายนวัตกรรม
แนวความคิดทฤษฏีของ Roger ได้แบ่งกลุ่มคนในสังคมที่จะยอมรับการแพร่กระจายทางเทคโนโลยีไว้ดังนี้
กลุ่มคนในสังคม
|
%
|
พฤติกรรม
|
บุคลิกลักษณะ
|
Innovators
|
2.5%
|
ต้องเป็นคนแรก
|
ผู้ที่ชอบเสี่ยง, มีความรู้,
เป็นนักประดิษฐ์หรือมีความรอบรู้เทคโนโลยี
|
Early
adopters
|
13.5%
|
ชอบของใหม่
|
ชอบเป็นผู้นำ, ได้รับความนิยมทางสังคม,
มีการศึกษา, ชอบความใหม่
|
Early
majority
|
34%
|
อยากมีบ้าง
|
เป็นคนรอบคอบ, ชอบแบบสบาย ๆ
ไม่เป็นทางการ
|
Late
majority
|
34%
|
จำเป็นต้องมี
|
เป็นคนช่างสงสัย, หัวโบราณ,
ฐานะไม่ดี
|
Laggards
|
16%
|
ก็ดีเหมือนกัน
|
รับฟังข้อมูลจากคนรอบข้าง เช่น เพื่อน
หรือญาติและกลัวการเป็นหนี้
|
ทฤษฎีนี้อธิบายให้เห็นถึงพฤติกรรมและบุคลิกลักษณะของบุคคลแต่ละกลุ่มในสังคมเพื่อให้เข้าใจวิธีการรับเทคโนโลยีของคนแต่ละกลุ่มในสังคม
ได้ดังนี้
Inventor คือคนกลุ่มแรกในสังคมที่นอกจากเป็นทั้งผู้ประดิษฐ์คิดค้นแล้วยังรวมไปจนถึงผู้ใช้งานที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี
และชอบติดตามเทคโนโลยีอยู่เสมอนั่นเอง
Early Adopters เป็นกลุ่มที่ชอบลองอะไรใหม่ๆ และค่อนข้างมีฐานะ
อาจเป็นนักวิชาการหรือคนดังในสังคม
Early Majorityกลุ่มนี้จะตัดสินใจได้ต้องคิดหลายรอบแต่ต้องใช้งานได้ง่าย
และมีประโยชน์การตัดสินใจเลือกนวัตกรรมของกลุ่มนี้มักดูจากการตัดสินใจของสองกลุ่มแรก
Late Majorityกลุ่มนี้กว่าจะมีใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมอาจจะเริ่มตกรุ่นไปแล้วแ
ละมีความจำเป็นต้องการใช้งานจริงๆ จึงจะใช้
ในความคิดของผู้เขียนคิดว่า
นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใดเข้าถึงการยอมรับของคนกลุ่มนี้ได้ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
Laggard เป็นกลุ่มที่มีใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมเมื่อตกรุ่นไปแล้ว
และเป็นกลุ่มสุดท้ายในสังคม
กลุ่มนี้จะเลือกซื้อโดยสอบถามข้อมูลจากคนรอบข้างโดยเฉพาะดูพฤติกรรมของคนในสังคมกลุ่มก่อนๆ
S-Curve of
Technologyอธิบายปรากฏการณ์การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมในสังคม
โดยแกน Y แทนประสิทธิภาพหรือเทียบจำนวนผู้ใช้ในสังคมก็ได้เช่นกัน
ส่วนแกน X เป็นเวลา
สถานะที่ 1 (Section
I) เป็นช่วงเวลาของการประดิษฐ์คิดค้นจนประสบความสำเร็จออกมา
และเริ่มทดสอบวางตลาด
สถานะที่ 2 (Section
II) เป็นช่วงเวลาที่เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมมีการปฏิสัมพันธ์กับคนในสังคมให้รับรู้ว่ามีเทคโนโลยีนี้แล้ว
และสังคมเรียนรู้ถึงเทคโนโลยีนี้ไปจนถึงการได้รับความนิยมจากคนในสังคม
เกิดเป็นธุรกิจนวัตกรรมรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว
เทคโนโลยีมีการพัฒนาประสิทธิภาพได้สูงขึ้นเรื่อยอย่างรวดเร็ว
และพร้อมกับการเติบโตของจำนวนผู้ใช้
เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการทำธุรกิจที่สุด
และทุกคนอยากทำธุรกิจในช่วงเวลานี้
และแน่นอนที่สุดผู้ที่มีนวัตกรรมใหม่
ควรจะเข้าสู่ตลาดในช่วงนี้
สถานะที่ 3 (Section III) เป็นช่วงเวลาที่เทคโนโลยีอิ่มตัว
ประสิทธิภาพการพัฒนาของเทคโนโลยีนั้นถึงขีดสุดของทรัพยากรที่ใช้ผลิตไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้แล้ว
ประสิทธิภาพของเทคโนโลยีจะมีใช้คงที่โดยไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้จนกว่าจะมีเทคโนโลยีใหม่มาทดแทน
และเทคโนโลยีนี้ก็จะหายไปจากสังคม
S-Curve of Technology
นั้น Roger ได้อธิบายให้เห็นภาพชัดเจนถึง การเกิด การนิยม
และการตกรุ่น ตามประสิทธิภาพของเทคโนโลยีนั้นๆ
จะสอดคล้องกับการแพร่กระจายเทคโนโลยนั้นๆ
ไปในสังคมผ่านกลุ่มคนแต่ละกลุ่มในสังคม
3. ทฤษฎี The
Chasm Model หุบเหวแห่งการยอมรับของ
นวัตกรรมเทคโนโลยีในสังคม
ทฤษฎีของ
โรเจอร์ นั้น การเริ่มยอมรับนวัตกรรมจะเกิดขึ้นเมื่อหลังจากผ่านสถานะแรกหรือผ่านคนกลุ่มแรก
(Innovators) หรือคือการได้รับการยอมรับจากนักประดิษฐ์นวัตกรรมหรือผู้ชอบติดตามเทคโนโลยีใหม่จำนวนหนึ่ง
ทดสอบทดลองจนสิ้นสงสัยและยอมรับเทคโนโลยีนั้นแล้วถัดไปก็จะเกิดการยอมรับของกลุ่ม
Early Adopters และ Early
Majority ได้ง่ายขึ้น แต่
มัวร์ ได้ให้ความสำคัญต่อการยอมรับนวัตกรรมในกลุ่ม Early Adopters อย่างมากที่สุด
และกลุ่มนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งว่านวัตกรรมนั้นจะมีอยู่หรือดับไปในสังคม
มัวร์ จึงเปรียบว่าในคนกลุ่มนี้จะมี “หุบเหว” ซึ่งคอยดักนวัตกรรมใดๆ
ว่าจะอยู่หรือดับไปและนวัตกรรมใดๆ จะมีปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
Early Adopter กับผู้ผลิตจนกว่านวัตกรรมนั้นๆ
จะตรงกับอุปสงค์ในสังคมจนเกิดการยอมรับในที่สุดหากนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีโทรคมนาคมใดผ่านหุบเหวนี้ไปได้