@@อ๋ายยยย.....เสื่อมแล้วเหรอ@@


.......การ ออกกำลังสมองเปรียบเทียบได้กับการออกกำลังของร่างกาย ที่จะต้องเคลื่อนไหวเพื่อใช้กล้ามเนื้อหลาย ๆ ส่วนให้ทำงานเชื่อมโยงกัน ส่งผลให้ร่างกายเราแข็งแรงขึ้น.......

 

 

คนเราเมื่ออายุมากขึ้นสิ่งที่จะตามมาทำให้เกิดปัญหากับร่างกายมีมากมายหลายอย่าง  ในบันทึกนี้จะขอพาดพิงถึงอวัยวะเบื้องสูงที่มองไม่เห็นแต่ตรวจวัดได้กันนะคะ.....เรื่องของเรื่องก็เพราะไปอ่านเจอแบบทดสอบเกี่ยวกับ....เช็คสมองเสื่อมใน 30   วินาที.....ย้ำค่ะ สามสิบวินาที....จากนิตยสารชีวจิต

ซึ่งอุปกรณ์ก็ไม่มีอะไรมากมาย  แค่กระดาษสี่แผ่นพร้อมดินสอและนาฬิกาจับเวลาแค่นั้นเอง.....จากนั้นก็

1.  เขียนชื่อสี สัตว์ ผลไม้และจังหวัด  อย่างละ 10 ชื่อลงในกระดาษหัวข้อละหนึ่งแผ่นด้วยเวลาแค่  สามสิบวินาที ห้ามขาดห้ามเกินและห้ามโกง hahahaha

2.  นับจำนวนคำตอบด้วยตัวเองหรือหากกลัวการผิดพลาดจะให้เพื่อนช่วยนับให้ก็ได้  คำตอบละหนึ่งคะแนน ( คะแนนเต็มสี่สิบ )

สำหรับผลการทดสอบเดี๋ยวจะแจ้งให้ทราบต่อไป.....โปรดติดตาม



ที่น่าตกใจจนต้องนำมาขึ้นบันทึกเพราะ รับไม่ด้ายรับไม่ได้กับผลคะแนนที่ตัวเองได้รับโดยสุจริต  มันจะเป็นตัวชี้วัดและตัวบ่งบอกการทำงานของสมองของเราได้จริงหรือเปล่าหนอ.....

เพราะศาสตราจารย์ แพทย์หญิงนันทิกา ทิวชาชาติ จากภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกเล่าถึงถึงวิธีการออกกำลังสมองว่า การออกกำลังสมองเปรียบเทียบได้กับการออกกำลังของร่างกาย ที่จะต้องเคลื่อนไหวเพื่อใช้กล้ามเนื้อหลาย ๆ ส่วนให้ทำงานเชื่อมโยงกัน ส่งผลให้ร่างกายเราแข็งแรงขึ้น  และการออกกำลังสมองก็ทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆทุกที่ ไม่ว่าจะที่บ้านเช่นปิดตาทำกิจกรรมเพื่อใช้การฟังแทนการมองเห็น  หรือใช้การคลำเพื่อกระตุ้นประสาทในส่วนสัมผัส สองกิจกรรมนี้เหมาะกับบุคคลในครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง.....ว่ามั้ย   หรืออาจจะสลับกิจกรรมที่ทำประจำวันเพื่อว่าสมองจะได้ใช้พลังในการทำสิ่งใหม่ๆ




ถ้าหากอยู่ในระหว่างการเดินทางก็อาจจะปิดแอร์เปิดกระจก  เปลี่ยนเส้นทางการเดินทาง เพื่อกระตุ้นสมองให้ทำงานประสานกันมากขึ้น  

ขณะอยู่ในที่ทำงานก็เปลี่ยนตำแหน่งสิ่งของบนโต๊ะ  ( กรณีนี้คนเจ้าระเีบียบอาจขัดใจบ้าง )  ถ้าหากหาของไม่เจอก็โทษสมองขี้เลื่อยของเราโน่นนะคะ  พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานใหม่ๆบ้าง  อย่าไปจำเจกับคนเดิมๆให้มากนัก ( อันนี้ krugui เติมเอาเอง )  อาจเป็นเพราะเป็นคนชอบของแปลกๆใหม่ๆและชอบศึกษาสิ่งรอบตัวชอบก้าวเดินและรู้จักเพื่อนใหม่ๆไปข้างหน้าอยู่เรื่อยๆ  ข้อนี้จึงถูกใจมากกกกก  คุณหมอบอกว่าเป็นการเติมข้อมูลใหม่ๆให้สมองและเป็นการเปิดสมองรับข้อมูลใหม่ๆด้วย




จะเห็นได้ว่าการออกกำลังให้สมองไม่ได้ยากเย็นแสนเข็ญเพียงแค่ มีการกระตุ้นให้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 (Sensory Organs) อันได้แก่ การได้ยิน ได้มองเห็น การได้กลิ่น การลิ้มรส และการสัมผัส รวมไปถึงส่วนสำคัญส่วนที่ 6 คือ ส่วนของ "อารมณ์" (Emotional Sense) ได้ทำงานเชื่อมโยงกัน โดยใช้กิจกรรมในชีวิตประจำวันเดิมของเราเป็นตัวช่วย  ฝึกทำวันละเล็กวันละน้อย  ช่วยยืดอายุสมองให้แข็งแรงและอยู่นาน



krugui  ก็ว่าได้ฝึกสมองมาอย่างดีและทำอยู่เป็นประจำแล้วนา.........ถึงแม้จะไม่ได้ทำตามแบบอย่างที่คุณหมอแนะนำมา ( แต่ก็ใกล้เคียง )  และคิดว่าไม่ขาดการกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งหกแน่นอน  รึว่าเราทำน้อยไปจึงมีแรงกระตุ้นต่อประสาทไม่มากพอ  เอ้า....เริ่มต้นลองใหม่

 

 

ขอบคุณบทความจากศาสตราจารย์แพทย์หญิงนันทิกา ทิวชาชาติ

ภาพประกอบจาก GOOGLE

คำสำคัญ (Tags): #สมองเสื่อม
หมายเลขบันทึก: 491845เขียนเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 21:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 20:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)
  • น่าสนใจมากค่ะ..

  • สาววัยเพชรอย่างพี่ใหญ่ เลือกอ่าน..เลือกจำ..มีตัวช่วยบ้าง เช่น สาระดีๆใน internet , note pad ในโทรศัพท์มือถือ

  • นั่งกรรมฐานและเดินจงกรม เป็นกิจวัตร ช่วยให้สมองโล่งปลอดโปร่งมากเช่นกันค่ะ

ชลัญคิดเล่นๆว่าอาจใช้สมองมากไป ถึงได้เป็น pks ก่อนเวลาอันควร

ข้อนี้จึงถูกใจมากกกกก คุณหมอบอกว่าเป็นการเติมข้อมูลใหม่ๆให้สมองและเป็นการเปิดสมองรับข้อมูลใหม่ๆด้ว อย่างนี้การเขียนบล็อกก็เป็นการบริหารสมองที่ดีด้วยค่ะ ได้เจอกัลยาณมิตรหน้าใหม่ๆ คุยเรื่องหลากหลาย คุณครูว่าไหมค่ะ :)

ขอบคุณพลังใจจากคุณหมอป.  พี่ใหญ่  คุณชลัญธร  คุณคนบ้านไกล 

ที่มีให้กันนะคะ.....

สวัสดีค่ะพี่ใหญ่

ตั้งชื่อได้น่าฟังมากค่ะ...สาววัยเพชร...

กิจกรรมที่พี่ใหญ่ทำนั้นถูกต้องและช่วยเสริมสร้างพลังให้สมองแน่นอนค่ะ  แต่ว่าลองทำตามที่คุณหมอบอกนะคะเรื่องสลับหรือทำอะไรที่เราไม่ชินบ้าง  จะได้กระตุ้นสมองค่ะ

สวัสดีค่ะ

คงไม่ถึงขนาดนั้นมังคะ  ถึงจะใช้มันมากแต่ใช้ในทางที่ถูกที่ควรและมีประโยชน์ 

ก็คงต้องสู้กันต่อไปล่ะค่ะ

ขอให้อาการดีวันดีคืนนะคะ

ขอบคุณกำลังใจจากหมู่เฮาคุณปริมค่ะ 

สวัสดีค่ะคุณหมอป.

ใช่แล้วค่ะ การได้เขียนบันทึก การได้อ่านบันทึกของเพื่อนๆ  รวมทั้งได้โต้ตอบกัน

ในบ้านหลังนี้  ถือว่าเป็นการเพิ่มพลังให้สมอง  เปิดรับข้อมูลใหม่ๆให้สมอง

คงพอจะช่วยให้สมองแข็งแรงและมีอายุยืดยาวออกไปอีกบ้างนะคะ

สวัสดีเจ้า

ถ้าหากเราใช้มันทำงานหนักเกินไป  ก็คงมีอาการล้าและตื้อเกิดขึ้นมั่งล่ะค่ะ

ถ้าหากคุณปริมล้าแล้วของคนเขียนไม่ล้ายิ่งกว่าเหรอ  เพราะใช้งานมานานนนน

ล้าก่พักพ่องเน้อเจ้า....

เข้าไปแก้ไขบันทึกเพื่อรายงานผลการทดสอบ  ปรากฏว่ามันไม่บันทึกให้ 

เลยต้องนำมาแปะไว้ตรงนี้นะคะ

 

ผลการทดสอบ

1 - 24 คะแนน เสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อม

25 - 40 คะแนน ไม่เป็นโรคสมองเสื่อม

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีแนวโน้มเป็นโรคสมองเสื่อม ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

เพื่อตรวจยืนยันผลต่อไป

ขอบคุณกำลังใจจากน้องบุษยมาศและคุณอักขณิชมากมายค่ะ


         


คู่มือการทำลายประสิทธิภาพ การทำงานของสมอง

         



1.โกหกเป็นประจำ การโกหกเป็นประจำทำให้สมองต้องทำงานหนักกว่าปกติ


2.คิด ในทางไม่ถูกต้อง การใช้สมองคิดในทางที่ไม่ถูกต้อง เป็นอีกวิธีหนึ่งของการทำลายประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้อย่างแน่ชัด เช่น การคิดหาช่องทางกอบโกยผลประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ เช่น การคอร์รัปชัน การแสวงหาผลประโยชน์ทับซ้อน โดยวิธีการที่แยบยล


3.หมกมุ่นอบายมุข การคิดหมกมุ่นอยู่กับอบายมุข เช่น การพนัน คลั่งหวย ฯลฯ ทำให้สมองต้องทำงานหนักทั้งเวลาตื่นและหลับ


4.(เจ้า) คิด (เจ้า) แค้น คนเจ้าคิดเจ้าแค้นเป็นประจำจะมีสภาพเป็นคนหมกมุ่นอยู่กับความคิดที่ไม่เป็น มงคล สมองจะถูกทำลายเสมือนหนึ่งถูกอาบด้วยยาพิษเป็นประจำ


5.เครียด ฟุ้งซ่าน ความ เครียด ความฟุ้งซ่าน ทำให้สมองต้องทำงานหนักอย่างผิดทาง ทำให้สมองหลั่งสารหรือขาดสารบางอย่างที่หล่อเลี้ยงและกระตุ้นให้สมองได้ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดอาการซึมเศร้าหรือฟุ้งซ่านอย่างหนัก


6.ไม่ ยอมคิด ตรง กันข้ามกับคนที่คิดมากอย่างผิดทาง ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงอย่างหนัก ก็คือคนที่ไม่ยอมคิดอะไรเป็นพิเศษขึ้นมาเลย นอกเหนือไปจากการคิดเพื่อชีวิตอยู่ไปวันๆ


ใครที่ยังไม่อยากทำลายสมองตัวเอง พยายามหลีกเลี่ยงคู่มือนี้นะครับ

ที่มา: http://www.sakid.co

ขอบคุณพลังใจจากครูทิพย์ค่ะ 

ยินดีกับกำลังใจที่ได้รับจากครูอ้อย แซ่เฮ  นะคะ

            

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท