เคยเล่าเรื่อง "คิว" ไปบ้างแล้วในบันทึก ผมมีคำถามที่สงสัยครับ? แววตาของคิวจะรอคอยคำตอบเสมอ ...คิวเป็นเด็กที่มีรอยยิ้ม และมีฟันกระต่ายสองซี่...
เมื่อวันเสาร์...โรงเรียนต้นกล้า ก็เริ่มต้นอีกครั้ง เด็กๆ มากันอย่างพร้อมหน้า ในความรู้สึกของข้าพเจ้าเหนื่อยล้าเหลือกัน ทำงานต่อเนื่องมาตลอดแต่เมื่อเห็นหน้าเด็กๆ พลังก็กลับมาอีกครั้ง ...เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (เสาร์ที่ ๑๖ มิย…"พุทธประวัติ" ) หลังจากถวายอาหารแด่พระภิกษุแล้ว...ข้าพเจ้าเดินมาที่ศาลาสี่
ได้พบกับภาพความประทับใจ...ที่เกิดขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย
จากช่องจอดรถที่รถยนต์เข้าจอดไม่ได้เพราะมีจักรยานขวางไว้ กิ่งตะโกนให้เพื่อนๆ มาเลื่อน ในใจของข้าพเจ้านั้นก็นึกไปว่า หากกิ่งจะเป็นคนอาสามาเลื่อนให้เองก็คงจะดี...แต่สักวันหนึ่งหากกิ่งยังมาเช่นนี้เรื่อยๆ...กิ่งก็จะกลายเป็นเด็กที่มีน้ำใจ...ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนตัวที่ข้าพเจ้าเชื่อเช่นนั้น
สักพัก...หลังจากที่เดินเข้าไปในศาลาสี่...
ข้าพเจ้าเดินออกมาด้านหน้าอีกครั้ง ภาพเบื้องหน้านำมาซึ่งความตะลึงและประทับใจ จากภาพที่จักรยานจอดระเกะระกะ...เปลี่ยนมาจอดเรียงเป็นแถวอย่างสวยงาม
ข้าพเจ้าไม่รอช้าถามออกไปทันทีว่า ..ใครเป็นคนสร้างสรรค์คิดทำเช่นนี้
ปรากฏว่า...
กิ่งบอกว่า "หนู" เองค่ะ...
ประทับใจยิ่งนัก ข้าพเจ้าให้กำลังใจในความดีของกิ่งด้วยการขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึก...
จากนั้น...ห้องเรียนเราก็เริ่มต้นอีกครั้ง
ในวันนี้คิวก็ยังซนเช่นเดิม ข้าพเจ้าจึงเรียกคิวมานั่งใกล้ๆ และถามว่า ทำอย่างไรคิวจะหายซนและหายแกล้งเพื่อน ...คิวเอาแต่ยิ้มและไม่ตอบ
ข้าพเจ้าจึงบอกว่า ถ้าคิวมาเป็นลูกแม่...คิวจะหายซนไหม
คิวพยักหน้า ... ถ้างั้น แม่จะให้คิวเป็นลูกแม่กะปุ๋ม...เพราะฉะนั้นห้ามซนและให้เชื่อฟังแม่ ...ปรากฏว่าได้ผลค่ะ คิวดูนิ่งขึ้น เวลาที่กำลังจะเริ่มซนและแกล้งเพื่อน คิวก็จะคอยมองว่าข้าพเจ้าจะว่าอย่างไร...
ทำให้คิว...มีเครื่องเตือนสติได้ดีทีเดียว ซึ่งสิ่งนั้นไม่ใช่ระฆังหรือเสียงใดใด หากแต่คือ ...แม่กะปุ๋มที่คิวจะคอยมามองว่า "ฉันซนเกินไปหรือยัง" เพราะหากซนเกินไป ก็จะถูกปรามด้วยใบหน้าอันเรียบเฉยของแม่กะปุ๋ม...
และเมื่อเช้านี้ (อาทิตย์ที่ 17 มิย..คณิตศาสตร์…ผัดมาม่า ขนมเค้ก และประชุมชั้นเรียน ) ข้าพเจ้าได้ชวนคิวเข้าไปกราบหลวงปู่ และแนะนำให้หลวงปู่ได้รู้จักคิว
ข้าพเจ้าก็เลยเล่าเรื่อง ผมมีคำถามที่สงสัยครับ? ให้หลวงปู่ท่านทราบ
ท่ามเมตตาอย่างมาก...แววตาที่ท่านมองเรา เปี่ยมด้วยเมตตาอย่างประมาณหาที่สุดมิได้ และท่านเอ่ยว่า
"หลวงปู่เป็นพ่อให้ก็ได้ ... มาเป็นลูกหลวงปู่"...
คิวนั่งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น จากความมีลักษณะคล้ายสมาธิสั้น คือ อยู่นิ่งไม่ได้ ก็ดูเหมือนสงบ เห็นแม่กะปุ๋มนั่งพนมมือ ก็พนมมือตามตลอดที่นั่งฟังหลวงปู่ท่านเทสน์สอน...
คือ...ความประทับใจในตัวคิวอีกครั้ง กับรอยยิ้มที่มีอยู่ตลอดเวลา
...
๑๖-๑๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๕
คิวอยู่ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น.. มีทั้งแม่ Ka-Poom และพ่อหลวงปู่
อนาคตข้างหน้า จะต้องเป็นคนที่เข้มแข็งอย่างยิ่ง