หนึ่งในจำนวนเพื่อนชาวต่างประเทศของผมบนเฟสบุค เพิ่งรู้จักกันได้ห้าปีเศษเท่านั้น ตอนนั้นเธอเรียนวิชาวรรณกรรมเอเชียระดับปริญญาโท นอกจากเป็นคนอ่านมากรู้มากแล้ว เธอยังรู้ภาษาลาตินและฝรั่งเศสอีกด้วย ปัจจุบันนี้เธอใช้ภาษาอังกฤษทำงานอยู่ที่ดูไบมาได้สองปีแล้ว ไม่กี่วันมานี้ เธอโพสต์ลงเฟสบุคสั้นๆ ว่า “ใครว่าภาษาอังกฤษง่าย ลองเติมช่องว่างในข้อต่อไปนี้ด้วยคำเดียว คือ Yes หรือ No ดูหน่อยไหม” ถามแล้วต่อท้ายอีกวลีหนึ่งด้วยว่า Just for laughs!
โจทย์ของเธอมีเพียงสามข้อสั้นๆเท่านั้น คือ
1………….I don’t have a brain.
2………….I don’t have sense.
3………….I am stupid.
ผมลองทำในใจดูแล้วก็ต้องหัวเราะสมเจตนารมณ์ของโจทย์ และตอบกลับเป็นเสียงหัวเราะสามทีโดยไม่รอช้า
ผมนำมาเผยแพร่ต่อก็เพื่อเสียงหัวเราะเช่นกัน หวังว่าจะไม่ใช่การเอามะพร้าวมาขายสวนแก่ท่านที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำ แต่สำหรับอาจารย์ผู้สอนภาษาอังกฤษแก่เด็กๆ โจทย์นี้น่าจะสร้างได้ทั้งความรู้และบรรยากาศของการเรียนการสอนไม่มากก็น้อย เพราะว่า อย่างน้อยๆ โจทย์ทุกข้อ ทำให้เรามิอาจไม่นึกถึงคำถามได้เลย และนั่นทำให้เราทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างคำถามกับคำตอบในภาษาอังกฤษอีกด้วย
ขอแถมอีกนิดครับ มีรายงาน เพิ่มเติมจากมิตรผู้นี้อีกในวันถัดมา ว่า ในบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษธุรกิจ (business English) ได้ดีที่สุดสิบอันดับแรกนั้น ไม่มีประเทศอังกฤษ และสหรัฐอเมริการวมอยู่ด้วย มีแต่ ออสเตรเลีย ซึ่งได้ลำดับที่ ๕ กับแคนาดา ซึ่งได้อันดับที่ ๑๐ และที่น่ายินดีก็คือ ชาติของชาวเอเชียติดอันดับถึง ๔ ชาติ คือ ลำดับ ๑ ฟิลิปปินส์ ลำดับ ๖ มาเลเซีย ลำดับ ๗ อินเดีย และลำดับ ๙ สิงคโปร์ ที่เหลือนอกนั้นเป็นชาติในยุโรปที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง
นี่แสดงว่า เขาพิจารณาที่ สำนวน ไม่ใช่ สำเนียง แน่นอน
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้บอกว่าประเทศที่ยิ่งใหญ่ซึ่งผมก็เป็นเจ้าของด้วยนี้ได้ลำดับที่เท่าไร
ไม่มีความเห็น