Japan ‘ The prosperous Cultural Country ’ ตอนที่ 6 : สัมผัสบรรยากาศงดงามที่ Kawaguchiko Lake & Fuji SAN ภูเขาสง่างามแห่งความภูมิใจของชาวญี่ปุ่น

เดินเล่นที่ทะเลสาบและชมภูเขาไฟ Fuji ในภาพลักษณ์เต็มตัว สาวท้าวก้าวเดินจากอาคารของที่พัก ตรงไปเล็กน้อยเพื่อเลี้ยวซ้ายมุ่งไปทางทะเลสาบด้านหน้าไม่ถึงสองนาที มองไปทางด้านขวามือเห็นภาพของภูเขาไฟ Fuji　ปรากฏต่อสายตาอย่างเด่นชัด เธอช่างสง่างามสมค่ากับความนิยมชมชื่น

วันหยุดสัปดาห์นี้พากันมาชมความสง่างามของภูเขาไฟ Fuji (Fuji San) ที่มีความสูงในระดับ 3,776 เมตร (12,3886 ฟุต)เป็นภูเขาสูงอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น มีอาณาบริเวณกว้างขวางครอบคลุมอยู่หลายจังหวัด มองเห็นได้ยามฟ้าแจ่มใส จากเมือง Yokohama, Tokyo, Chiba , Saitama และ Lake Hamana (ศึกษาที่นี่)

ถึงแม้ว่าความสูงจะไม่ได้จัดอันดับอยู่ 1-10 ของโลก แต่ความสง่างามอันโดดเด่นที่งดงามเคียงคู่กับประเทศญี่ปุ่นที่ตรึงจิต-ตราใจชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่แรกเริ่มนั้น ส่งผลให้ทุกคนวาดฝันที่จะมาเยี่ยมชม และจัดเป็น Highlight อันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว ...

นิยมสร้างถนนลอดอุโมงค์โดยไม่ต้องอ้อมไป-มา เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมด้วยการคงผืนป่าให้คงอยู่คู่กับธรรมชาติ

... ลำดับความคิดย้อนรำลึกกลับสู่อดีต ตามประสาผู้ผ่านประสบการณ์มาหลายสิบปีที่มีอาการหลงลืมไปตามวัย... " การมาเยือนภูเขาไฟ Fuji ครั้งที่สองนี้จึงพยายามเกี่ยวเก็บประสบการณ์ให้ต่างไปจากครั้งแรก...แม้สภาพอาณาบริเวณและบรรยากาศจะคล้ายคลึงกันมากก็ตาม "

                                             ไม้ดอกงดงามมีให้เห็นทั่วอาณาบริเวณ

ก่อนตัดสินใจกำหนดวันมาเที่ยวชมฯ มีการตรวจสอบสภาพภูมิอากาศ    มีการอภิปรายกันในกลุ่มสมาชิกฯ ต่างนำการพยากรณ์อากาศแต่ละเวปไซต์มาอ้างอิง ของผู้เขียนอ้างอิงจากเวปไซต์ของ Underground Weatherforcast :  วันศุกร์มีฝนตกช่วงเย็น วันเสาร์ช่วงครึ่งเช้าอากาศแจ่มใส ส่วนครึ่งวันบ่ายมีเมฆหมอกปกคลุม และโอกาสฝนตกเท่ากับ 20 %   ซึ่งจะต่างกันในจำนวนเปอร์เซ็นต์ของโอกาสที่ฝนตก บางเวปต์ไซต์ให้เครดิตฝนตกถึง 50 %แต่ผู้เขียนใช้วัยวุฒิฟันธงว่า ....ต้องไปสัปดาห์นี้แหละ เพราะผู้เขียนตรวจสอบสภาพภูมิอากาศจากเวปไซต์นี้มากว่า 8 ปี เชื่อถือได้  โอกาสที่ฝนตกมีแค่ 20 % อาจจะไม่ตกก็ได้ ระยะเวลาของอากาศแจ่มใสมีตั้งครึ่งวัน นับว่าเพียงพอแล้ว… “ ฟันธง”

ประเทศญี่ปุ่นจัดอยู่ในลำดับต้นๆ ที่จะได้เห็นแสงอาทิตย์ในยามเช้าก่อนประเทศอื่นๆ อีกร้อยกว่าประเทศ จากการศึกษาข้อมูลที่บันทึกลงหน้าเวปไซต์ ประเทศแรกที่ได้เห็นแสงอาทิตย์ก่อนใครเพื่อนคือประเทศ New Zealand (ศึกษาที่นี่ )

ดอกไม้หลากพันธุ์ - สีสันสดใส

ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ...แสงแรกของยามเช้า ที่ปรากฏให้เห็นจะเป็นเวลาประมาณตี ４ …สมัยแรกเริ่มของการพำนักที่ประเทศญี่ปุ่น ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ ที่เห็นแสงจ้าของแดดยามเช้าในเวลาตี 4 ที่ตกใจเพราะคิดว่านาฬิกาปลุกเสีย ตนเองคงตื่นสาย เกรงว่าจะไม่ทันเวลานัดหมายนั่งเอง

ขบวนรถไฟตกแต่งได้น่าสนใจ

ออกเดินทางหลังเลิกเรียนในวันศุกร์เย็น ไปพักที่เมือง Kawaguchiko ในเขตทะเลสาบ Kawaguchiko ( 河口湖)　ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อน เดินทางกันอย่างเร่งรีบ ด้วยรถไฟกว่า 4-5 สาย　ระยะเวลา กว่าสองชั่วโมงท่ามกลางอุณหภูมิ 11 อาศาเซ็นเซียส ที่เย็นจับจิต-จับใจ ดีแท้เชียว

ภาพภูเขาไฟ Fuji รูปลักษณ์สง่างาม ปรากฏให้เห็นเด่นชัด

นัดหมายสมัครพรรคพวก ตื่นตั้งแต่ตี４กว่าๆ เพื่อไปเดินเล่นที่ทะเลสาบและชมภูเขาไฟ Fuji ในภาพลักษณ์เต็มตัว สาวท้าวก้าวเดินจากอาคารของที่พัก ตรงไปเล็กน้อยเพื่อเลี้ยวซ้ายมุ่งไปทางทะเลสาบด้านหน้าไม่ถึงสองนาที มองไปทางด้านขวามือเห็นภาพของภูเขาไฟ Fuji　ปรากฏต่อสายตาอย่างเด่นชัด เธอช่างสง่างามสมค่ากับความนิยมชมชื่นของชาวญี่ปุ่นจริงๆ ไม่ผิดหวังแม้แต่น้อย

หมอกสีขาวบางเบาเติมความงดงามให้กับธรรมชาติ

หมอกสีขาวบางเบาลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือลำน้ำ ช่วยเพิ่มความงดงามให้กับทัศนียภาพยามเช้าของทะเลสาบ Kawakuchiko　ให้น่าหลงใหลยิ่งนัก อากาศสดชื่น- เย็นฉ่ำ ส่งผลให้ทุกคนต้องขยับกาย เคลื่อนไหวอย่างกระฉับกระเฉง เพื่อผ่อนคลายความหนาวเย็น และเพิ่มพลังความอบอุ่นให้กับตนเอง(ศึกษาเมือง Kawakuchiko ได้ที่นี่)

2 สาวเวียตนามขนาบซ้ายสุด-ขวาสุด 2 สาวไทยด้านในซ้าย-ด้านในขวา และสาวฟิลิปปินส์หนึ่งเดียวตรงกลาง

ทัศนียภาพอันงดงามจับตา / รูปปั้นสัญญลักษณ์ของสองสาว...ด้านซ้ายเป็นตัวแทนของด้านดี ด้านขวาเป็นตัวแทนด้านลบ ส่วนถ้วยตรงกลางแสดงให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของสรรพสิ่งในเมือง

กระเป๋าเป้คู่กาย ลากได้-สะพายได้ ราคา 400 บาท ติดตราสัญญลักษณ์ครบรอบ 50 ปีเอเอฟเอสประเทศไทย

9 สาวจาก 4 ประเทศ เวียตนาม / ฟิลิปปินส์/ไทย และญี่ปุ่น

เดินทางไปเยือนภูเขาไฟ Fuji　ในระดับชั้นที่ 5 ด้วยรถบัสของเครือข่าย JR　รถสาธารณะที่ครอบคลุมการคมนาคมทั่วประเทศญี่ปุ่นด้วยบริการทุกระดับ-ประทับใจ ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีก็ถึงที่หมาย

รถยนต์ขึ้นมาสูงสุดได้เพียงระดับชั้นที่ 5 เป็นแหล่งรวมร้านขายของที่ระลึก-ร้านอาหาร และกิจกรรมอื่นๆ

นัดหมายกันในเวลาอีก 3 ชั่วโมงถัดไปเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ตามที่สนใจ ใครชอบช้อปก็ไปเลือกสรรของที่ระลึก ใครชอบทำบุญ-ทำทาน ก็ไปกราบขอพรที่วัดข้างๆ ใครชอบท้าทาย จะไปสำรวจเดินป่า-ปีนป่ายภูเขา ก็เลือกตามใจชอบ

เสี่ยงเซียมซี... ทำนายทายทักว่าจะได้พบแต่สิ่งดีๆ ในชีวิต สาธุค่ะ

หิมะด้านในยังคงมีให้เล่นอีกมากมาย... ชอบหิมะมากเสียจนลืมเรื่องความเย็นยะเยือก ทั้งๆที่ใส่ผ้าบางเบา

                          นักธรณีวิทยาฯ แนะนำให้ความรู้เรื่องหิน-ต้นไม้ และพืชพรรณบนภูเขา

                                              ศึกษาพืชพรรณ - ฟังเสียงของต้นไม้

    กระโดดลอยตัวด้วยท่าเรียบร้อย - ท่าเรียบเก๋แบบนี้ก็มีให้ชม ณ สะพานยื่นออกไปชมทิวทัศน์ระดับชั้นที่ 5

การมาเยือนภูเขาไฟ Fuji ครั้งนี้ ได้ประสบการณ์-เรียนรู้ครบทุกรูปแบบ แม้ด้านวิชาการก็ไม่ละเว้น พบนักธรณีวิทยาฯ ที่มาเก็บข้อมูล จึงได้รับความรู้เรื่องคุณสมบัติพิเศษของหินที่นี่ ล้วนมีพลังในการดูดแบบแม่เหล็ก รวมทั้งลักษณะพืชพรรณ-ต้นไม้ที่ขึ้นในบริเวณแถบนี้ นับว่าเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ได้ฝึกภาษาญี่ปุ่นไปในตัว และยังได้สัมผัสบรรยากาศแห่งความชื่นชม –ความผูกพันของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อสถานที่แห่งนี้อย่างภาคภูมิใจ

***… ขอบคุณมากค่ะ（どうも　ありがとうございます= Domo Arigatou gozai masu) …***

เขียนใน GotoKnow โดย K.Pually
ใน เรื่องเล่าจากประสบการณ์ในต่างแดน

คำสำคัญ (Tags): #fuji san#japan#k.pually#เรื่องเล่าจากประสบการณ์ในต่างแดน#Kawaguchiko Lake

หมายเลขบันทึก: 489979เขียนเมื่อ 3 มิถุนายน 2012 19:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 16:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่าน

ความเห็น (4)

กาญจนา สุวรรณเจริญ

เขียนเมื่อ 3 มิถุนายน 2012 21:52 น. ()

ชูสองนิ้วเนี่ย.. สู้ๆๆ(อยู่แล้ว)นะคะ อ.พอล ล้อเล่นค่าาา อิอิ