spyware
นาย ธีรยุทธ์ เดียว ใจแข็ง

เราจะไม่ถูกหลอกอีก


เราจะไม่ถูกหลอกอีก

 เราจะไม่ถูกหลอกอีก

                ปัจจุบันการทดสอบมาตรฐานกลายเป็นฝันร้ายในโรงเรียนของเราไปแล้ว ครูถูกเรียกร้องให้จัดการทดสอบโน่นนี่นั่นเต็มไปหมดจนไม่มีเวลาจะสอนเด็กนักเรียน ส่วนเด็ก ๆ ก็เรี่ยวแรงกับการทำข้อสอบจนไม่สนใจแล้วว่าคะแนนจะออกมาเป็นอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้คงไม่มีอะไรหดหู่ไปกว่าความจริงที่ว่าแม่การทดสอบมาตรฐานจะถูกคิดขึ้นมาเพื่อเป็นตัวช่วยให้เด็ก ๆ ประสบความสำเร็จ แต่ในทางปฏิบัติกลับกลายเป็นว่าการทดสอบมาตรฐานนั่นแหละที่ทำให้พวกเขาล้มเหลว ถึงอย่างไรก็ตามเราไม่ได้ต่อต้านการทดสอบ เราจำเป็นต้องประเมินเด็ก ๆ ว่าทำได้ดีแค่ไหน ข้อสอบที่แม่นยำ ยุติธรรม และมีเหตุผลสามารถช่วยพ่อแม่ ครู และตัวเด็กเองให้เห็นว่าทักษะด้านใดที่เด็กทำได้ดีแล้วและด้านใดที่ต้องปรับปรุง แต่การมีข้อมูลที่ถูกต้องจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

                การสอนนักเรียนต้องสอนให้พวกเขารู้ว่า “เรียนรู้อย่างไร” นั้น สำคัญกว่า “เรียนรู้มากแค่ไหน” สอนให้นักเรียนเรียนรู้ว่าการจะศึกษาให้เกิดประสิทธิผลนั้น พวกเขาจำเป็นต้อง “สร้างบรรยากาศของการทดสอบ” ขึ้นมา เช่น นักเรียนที่ขยันจำนวนมากทุ่มเทเพื่อการสอบคำศัพท์ พวกเขาทำบัตรคำศัพท์เขียนคำศัพท์ด้านหนึ่ง เขียนความหมายวไว้อีกด้าน และทดสอบด้วยตัวเองเมื่อมีเวลา สำหรับเด็กบางคนนี่ดูเหมือนจะได้ผล แต่ก็มีจำนวนมากกว่าที่ทำข้อสอบไม่ได้และโอดครวญว่า “ผมก็ท่องแล้วนี่นา” พวกเขาท่องศัพท์จริงแต่อาจไม่ใช่วิธีที่มีประสิทธิผล ข้อสอบต้องการให้เด็กเขียนคำศัพท์และความหมายลงบนกระดาษ การใช่บัตรคำศัพท์ไม่ได้ช่วยสร้างบรรยากาศของการทดสอบ นี่เป็นเรื่องของสามัญสำนึก และเด็กของเราต้องการสามัญสำนึกทั้งหมดที่เราสามารถให้พวกเขาได้

                พ่อแม่และครูสามารถช่วยเหลือเด็ก ๆ ด้ายการพูดคุยถึงผลที่นะเกิดขึ้นจริงและผลที่ไร้สาระที่สืบเนื่องจากการทำคะแนนสอบไม่ดี แน่นอนเป็นเรื่องดีที่จะสอนให้เยาวชนรู้ว่าการกระทำใด ๆ ย่อมมีผลตามมา แต่การที่เรายึดติดกับการทดสอบอย่างไม่ลืมหูลืมตากันทั้งประเทศกลายเป็นการสร้างแรงกดดันให้แค่เด็ก ๆ อย่างน่าสมเพช นี่ไม่เพียงแต่ทำให้เด็กเป็นทุกข์ แต่ยังบั่นทอนโอกาสที่พวกเขาจะได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่อีกด้วย และที่สำคัญพ่อแม่และครูต้องจำไว้ด้วยว่า อย่าเปรียบเที่ยบคะแนนสอบของเด็กคนหนึ่งกับเด็กอีกคนหนึ่งเป็นอันขาด จงวัดความก้าวหน้าของเด็กโดยเปรียบเทียบกับผลงานที่ผ่านมาของเด็กเอง หน้าที่ของเราคือช่วยเด็ก ๆ แต่ละคนให้เป็นคนพิเศษเท่าที่เด็กคนหนึ่งจะสามารถเป็นได้ ไม่ใช่พิเศษกว่าเด็กคนอื่น ๆ

 

ที่มา: หนังสือครูนอกกรอบ กับ นักเรียนนอกแบบ

คำสำคัญ (Tags): #kmanw
หมายเลขบันทึก: 489668เขียนเมื่อ 31 พฤษภาคม 2012 08:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 10:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท