เวลาผ่านไปรวดเร็ว...
นี่ก็ย่างเข้าสัปดาห์ที่ ๔ แล้วที่ข้าพเจ้าลองนำกิจกรรมการเรียนแบบเล่นๆ มาใช้ จากเดิมที่ตั้งใจว่า จะสอนหนังสือ boy-พรหมมาตร์ เองและมีภูมิ เข้ามาร่วมเป็นแรงบันดาลใจอีกราย ...
บอยเป็นเด็กเรียนเก่ง ฉลาด ...มีปัญญา
ส่วนภูมิเป็นเด็กจิตใจดี...แต่อ่านหนังสือไม่ได้
สองคนนี้อายุห่างกัน ๑ ปี ทั้งรูปร่างร่างกายและการเรียนรู้ต่างกันมาก
ตอนที่อยู่ด้วยกันสองคน ต่างเกื้อกูลกันดีและอยู่ด้วยกันแบบประคองกันไป ... หลังจากที่เริ่มสอนหนังสือทั้งสองคนนี้ได้ไม่กี่วัน แม่กุลผู้ซึ่งเป็นแม่ออกค้ำวัดอยู่ก็พาหลานมาฝากเรียนด้วยสองคน จากนั้น...คนอื่นๆ ทราบต่างก็พากันนำลูกหลานของตนเองมาฝาก
ดีกว่าไปวิ่งเล่น หรือเล่นเกมส์ หรือดูทีวี
จำนวนเด็กทวีคูณเร็วมาก สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าต้องระวังในตนเอง คือ การแสดงออกซึ่งความเอาจริงเอาจัง เพราะไม่อย่างนั้นเด็กก็จะเบื่อ หากข้าพเจ้าสามารถเอื้ออำนวยบรรยากาศการเรียนรู้คล้ายการเล่น...เขาจะสนุก
ผู้ปกครอง ...ผู้ซึ่งเป็นพ่อใหญ่แม่ใหญ่ (ปู่ ย่า ตา ยาย) ซะเป็นส่วนใหญ่บอกว่าเด็กรอคอยการมาเรียนในวันเสาร์อาทิตย์นี้มาก
เป้าหมายที่ข้าพเจ้าอยากให้เกิดในเด็กคือ ความสุข...และการคิดได้คิดเป็น เกิดเป็นปัญญา สามารถนำพาตนเองได้เมื่อเผชิญปัญหา ซึ่งทักษะเหล่านี้ข้าพเจ้าเชื่อว่าข้าพเจ้าได้รับจากกระบวนการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ในวัยเด็ก
ได้เล่นอย่างเต็มที่...
อยากเรียนรู้อะไรท่านก็ให้โอกาส...
หากไม่ใช่ทางก็เปลี่ยนใหม่ ปรับใหม่ ไม่มีคำว่าล้มเหลว มีแต่เรียนรู้...นี่คือโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่ได้จากการบ่มเพาะในวัยเด็กมาจนเติบใหญ่
ข้าพเจ้าก็เชื่อว่า...กระบวนการที่ทดลองทำขึ้นที่วัดป่าหนองไคร้ในครั้งนี้ แม้จะเห็นผลช้าและใช้ระยะเวลานาน แต่นั่นก็ดีกว่าที่ข้าพเจ้าจะไม่ลงมือทำอะไรเลย
อันเป็นการทำเพื่อโลกและสังคมเล็กๆ นี้ของเรา ไม่อย่างนั้นเสียดายโอกาสของการได้เกิดมาในครั้งนี้มาก
...
๒๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๕
เป็นกำลังใจให้ครับ
ขอบพระคุณค่ะคุณ แสงแห่งความดี