กระทรวงการคลังแถลงเรื่อง
กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกพันกับรายได้ในอนาคต
(กรอ.) เมื่อวันที่ ๒๑ พ.ค.๕๕ ว่า ให้เฉพาะสาขาที่ตลาดต้องการ
และให้เฉพาะคนที่อายุไม่เกิน ๓๐
เมื่อบ้านเมืองนี้ชัดเจนว่าจัด
"การศึกษาเพื่อตลาด" (ทั้งที่ใน
พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติไม่ได้กำหนดวัตถุประสงค์การศึกษาไว้อย่างนี้)
จึงไม่แปลกที่รัฐจะ "จัดให้" เฉพาะสาขาที่ "ตลาด" ต้องการ
และกำหนดอายุไม่เกิน ๓๐ ปี เพื่อ ๑. พอเรียนจบยังมีแรงทำงาน ๒.
เมื่อทำงานและมีเงินถึงเกณฑ์ที่ต้องใช้คืนก็ใช้หนี้ กรอ.ได้
ก็ต้องคอยติดตามต่อไปว่า
มีสาขาอะไรบ้างในทัศนะของกระทรวงการคลังและกระทรวงศึกษาฯ
ของประเทศนี้มองว่าตลาดต้องการ
ถ้าให้เดาก็คงจะเป็นพวกวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรืออะไรที่ "ประเทศ"
(โดยรวมๆ ในสายตารัฐ) รวมทั้งที่ "อุตสาหกรรม" ต้องการ
หรือประชาคมอาเซียนต้องการ
ส่วนสาขาที่จะช่วยสร้างคนที่จะเป็นผู้นำในการพัฒนาชีวิตและชุมชน
ท้องถิ่นต่างๆ นั้น คงไม่อยู่ในสายตาของรัฐหรือหน่วยงานด้านการศึกษา
(กระมัง?) ความต้องการ "แรงงาน"
มีมากกว่าความต้องการผู้นำชุมชนที่มีความรู้มีปัญญา
จึงคิดไปล่วงหน้าว่า
นักศึกษาสถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน
(โครงการมหาวิทยาลัยชีวิต) คงไม่ได้รับอานิสงส์ใดๆ จากนโยบายนี้
เพราะสถาบันนี้ไม่ได้เป็นสถาบันที่มุ่งผลิตแรงงานเข้าสู่อุตสาหกรรม
(ไม่ใช่มหาวิทยาลัยเพื่ออุตสาหกรรม - University for Industry)
แต่เป็นสถาบันอุดมศึกษาประเภท มหาวิทยาลัยเพื่อชุมชน (University for
Community)
เมื่อรัฐแถลงว่ามีนโยบายสนับสนุนทุนกู้ยืมเรียนเฉพาะสาขาที่ตลาดต้องการ
ใครอยากเรียนสาขาอื่นๆ ก็ดิ้นรนช่วยตนเองกันไป
หรือคนที่อายุเกิน ๓๐ ปีแล้ว
แต่ยังอยากเรียนก็ช่วยตนเองไป
เลยสงสัยว่าที่
พ.ร.บ.การศึกษาเขียนไว้ว่าให้ส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิตนั้น
รัฐไทยเข้าใจว่าอย่างไร แล้วก็อดสงสัยต่อไปไม่ได้ว่า
การออกระเบียบอย่างนี้ "ผิดกฎหมาย" หรือเปล่า???
(อาจต้องไปดูกฏหมายรัฐธรรมนูญอีกฉบับ)
สุรเชษฐ
เวชชพิทักษ์
๒๕ พ.ค.๕๕