การบริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตอนที่ 8.1


แล้วจะสอนอย่างไรให้เด็ก ๆ ทุกคน โดยเฉพาะเด็กที่เก่งน้อย มีโอกาสเข้าใจจริง ในทุกสิ่งที่เรียน จากการฟัง พูด คิด อ่าน เขียน ออกมาเป็นคำ ๆ รวม ๆ กัน เป็นประโยค และเรื่องราวได้จริง ๆ

กลับไปเจาะลึกในบางตอนที่กล่าวมาแล้วอีกสักตอนนะครับ

เด็กหนึ่งคน  จุดเริ่มต้นของการศึกษา ของเขาอยู่ตรงไหน

พอเข้าอนุบาล ครูอนุบาล ก็เริ่มสอน เริ่มให้ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่   ให้รู้ภาษา ให้ฟัง     ให้พูด ให้ถาม ให้บอกเล่า  ถ้าสอนเก่ง สอนดี  เด็ก ๆ ก็จะทำอะไรได้เป็นตุเป็นตะ เช่น เจ้าหนูน้อยคนนี้ ที่ผมได้ถ่ายวีดิโอมากับมือ https://www.youtube.com/watch?v=fisHfv_EP64   

โตขึ้นมาหน่อย ก็อ่านหนังสือ ทำแบบฝึกหัด ทำการบ้าน รับการทดสอบ ที่ทำได้ดีก็มีมาก ทำได้ไม่ค่อยดีก็มีให้เห็น  ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะต้นทุนทางปัญญาในการอ่านออก เขียนได้ คิดเป็น ทำได้ เข้าใจอะไรง่าย หรือ ยาก ที่มากจากสภาพแวดล้อมของเด็ก ๆ  ที่มีความเข้าใจ รู้จริงแต่ละคำ แต่ละประโยคค่อย ๆ  เพิ่มเข้ามา ๆ  เป็นความรู้สะสม  สะสมไว้ ๆ นานเข้า จะคิด จะทำอะไรก็ทำได้  กลายเป็นเด็กเก่งมากเก่งน้อย  ด้วยเพราะความรู้ที่มาจากคำ จากประโยค ที่กลายเป็นความคิดรวมยอดของแต่ละคน ที่มีมากมีน้อยแตกต่างกันไป

การที่จะกลายเป็นความคิดรวบยอดได้ ต้องใช้ทั้งสมองของเด็กเอง  และใช้วิธีการสอนของครู   ที่ไม่เพียงแต่บอกคำแปลว่าคำนี้แปลว่าอะไร คำนั้นแปลว่าอะไร  แต่ต้องใช้ความเก่งของครูโดยรวมด้วย  เพราะเด็ก ๆ มีทั้งที่เข้าใจ และไม่เข้าใจ  ถ้าครูเอาแต่สอนแต่ละคำ ๆ  นักเรียน   ที่คละ ๆ กันอยู่  ที่คิดคล่องคิดเร็วกว่าก็ไม่อยากจะเรียน

แล้วจะสอนอย่างไรให้เด็ก ๆ ทุกคน โดยเฉพาะเด็กที่เก่งน้อย  มีโอกาสเข้าใจจริง ในทุกสิ่งที่เรียน  จากการฟัง พูด คิด อ่าน เขียน ออกมาเป็นคำ ๆ  รวม ๆ กัน เป็นประโยค และเรื่องราวได้จริง ๆ

ก็ทำหนังสือ-สื่อ ดิจิตอล  ให้ใช้ ที่เด็ก ๆ ทุกคนอ่านได้   อ่านไป ๆ  คำใด พยางค์ ประโยคใด แล้วไม่เข้าใจ  ก็คลิ๊กอ่าน  ฟัง  ดู ได้ในได้ทันที เพราะมีทั้ง พจนานุกรม  คำอธิบาย  ภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหว วีดิโอ แอนนิเมชั่น  ตัวอย่าง กรณีตัวอย่าง  หรือ อะไรก็ได้  ที่ทำไว้ให้เด็กเข้าถึง เข้าใจในทุก ๆ คำ พยางค์ และประโยค   อย่างไรก็ดีเด็กคนใดเก่งมาก ๆ หากจะไม่ใช้ก็ไม่เป็นไร เพราะมันก็มีส่วนที่ไม่สะดวกที่ ต้องเปิดคอมพิวเตอร์ เปิด แทบเล็ตอ่าน  ก็อ่านหนังสือแบบปกติไป

นานไปหากไทยทำแทบเล็ตราคาถูกได้ ใช้เป็นวิถึชีวิต เด็ก ๆ ก็เรียนได้สบาย ๆ ไปทุกคน

หากเด็กเข้าใจอะไรจากการอ่านด้วยตัวเอง  การสอนของครูก็จะง่ายขึ้น  การที่ครูจะนำเอาเวลามาทำสื่อการเรียนการสอนก็ลดน้อยลงไป เพราะสื่อการเรียนการสอน ก็คือ สื่อที่จะทำให้ง่ายต่อความเข้าใจในเนื้อหาสาระที่อ่าน  หรือฟัง  หรือ ดู  ถ้าเนื้อหาสาระที่อ่านง่ายต่อการเข้าใจ การสอนของครูก็ง่าย  การเรียนของนักเรียนก็ง่าย  ความเป็น”นักเรียน”  ที่ช่วยตัวเองให้เรียนรู้อะไร ๆ ได้เอง  โดยรับการสอนจากครูแต่น้อย ๆ  เด็ก ๆ ก็จะค่อย ๆ เก่งขึ้นด้วยตนเองได้

 หากเด็ก ๆ เข้าใจภาษาที่มาจากทุกคำ ทุกประโยคที่ได้ฟัง พูด อ่าน เขียน  จนสรุปเป็นความคิดรวบยอดเก็บไว้ในสมองได้  นำไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้  ก็กลายเป็นการเรียนรู้ในเรื่องที่เกี่ยวข้อง  นำไปต่อยอดให้รู้จริงในสิ่งใหม่ได้  แต่ถึงอย่างไร ๆ  ก็ยังเป็นภาระหน้าที่ของครู ที่จะทำให้เด็กเรียน ดีขึ้น ๆ จากพื้นฐานเดิมที่มีอยู่ ประมาณว่า ถ้าเก่งและดีระดับ 5 ก็ต้องเพิ่มให้เป็น 6 7 8 ถ้าเก่งดีระดับ 4  ก็ต้องเป็น 5 6 7  ถ้าเก่งระดับ  1 ก็ต้องเป็น 2 3 4 จะเป็นอย่างนี้ได้ก็ไม่ใช่ให้เด็กอ่าน ๆ  เพียงอย่างเดียว  ต้องฝึก ต้องปฏิบัติ ต้องรับการทดสอบ และอะไรจิปาถะจากครู

ถ้าเด็ก ๆ เราเก่งภาษาไทย  จะเรียนอะไร ๆ  ก็จะง่ายขึ้น  ปัจจุบันนักเรียนเราตกภาษาไทย http://kunnatee.athittaya.com/?p=709   แล้ววิชาอื่น  ๆ  จะไปรอดได้อย่างไร

หมายเลขบันทึก: 488865เขียนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2012 22:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม 2012 11:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

        ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนสะกดคำไม่ได้เป็นปัญหาที่ทำให้การศึกษาไทยไปต่อได้ยาก เพราะภาษาไทยเป็นเครื่องมือในการจะเรียนรู้วิชาอื่นๆ ถ้าเป็นต้นไม้ก็คือรากแก้ว(การศึกษาระดับประถมศึกษา)ที่จะยึดลำต้นให้แข็งแรงและทำหน้าที่หาอาหารมาเลี้ยงลำต้นให้เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์  เพื่อจะผลิดอกออกผลและเป็นที่พึงของตนเองและเอื้อเฟื้อคนอื่นได้  แต่ตอนนี้รากแก้วไม่แข็งแรงแล้วจะทำหน้าที่ดูแลลำต้นได้อย่าไร ใครจะให้คำตอบที่ดีได้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท