ในหมู่บ้านผมตามสี่แยกต่างๆ มักจะมีวงเวียน ทั้งขนาดใหญ่และเล็กแตกต่างกันออกไป นอกจากจะทำให้เกิดความสวยงามจากต้นไม้ที่ปลูกไว้แล้ว วัตถุประสงค์หลักๆ คงต้องการให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ที่ต้องใช้ถนนร่วมกัน โดยปกติรถที่ผ่านวงเวียนก็ต้องเวียนขวา และต้องให้รถทางขวาไปก่อนเสมอ แบบนี้ก็จะลดอุบัติเหตุได้ วงเวียนเหมาะสำหรับเส้นทางสัญจรที่รถไม่มาก หากที่ไหนมีรถมากก็จะกลายเป็น "วงเวียนหัว" และก่อให้เกิดอุบัติเหตุมากกว่าลดอุบัติเหตุ สีแยกที่มีรถมากจึงแนะนำให้ให้ใช้สัญญาณไฟจราจรน่าจะดีกว่า
ประเด็นมันอยู่ตรงที่ ไอ้ที่ "คิดว่า" ทั้งหลาย มันมีคนเห็น แล้ว "คิดว่า" มันไม่ถูกต้อง "คิดว่า" มันไม่ปลอดภัย จึงนำมา Post กันใน Social Network ของหมู่บ้าน ทั้งตักเดือนแบบสุภาพ ทั้งตักเดือนแบบไม่สุภาพ (กระแนะกระแหน -อ่านว่า กระ-แนะ-กระ-แน๋ ไม่ได้เขียนคำนี้ซะนานเล่นเอาไม่แน่ใจ) การตอบสนองของคนที่เห็นก็แตกต่างออกไป ขึ้นกับประสบการณ์ของคนเกี่ยวกับเรื่องจราจรบนท้องถนน บางคนอาจเฉยๆ บางคนอาจหงุดหงิดเพราะเคยมีปัญหาเฉี่ยวชนกับผู้ทำผิดกฏจราจร บางคนอาจโมโหเพราะอาจมีญาติพี่น้องเสียชีวิตจากผู้ไม่เคารพกฏจราจร
ทั้งหมดนี้อาจเกิดจาก สังคมที่เปลี่ยนไป เราไม่ได้สอนให้คนรู้จักเห็นอกเห็นใจคนอื่นเพราะหากเรามีสิ่งนี้ก็แทบไม่ต้องบอกว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ เราพบว่า คนคิดถึงแต่ตัวเองมากขึ้น เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ฟังคนอื่นน้อยลง เน้นวัตถุนิยม กฏ กติกา ใดๆ ก็ใช้ไม่ได้ครับหากคน "ไม่มีจริยธรรม"
เข้าข่าย Permit and Promote ค่ะ คงต้องรณรงค์ให้ทำตามกฎให้มากขึ้น หรือไม่คงต้องมีกฎที่เข้มงวด หรืออาจต้องใช้วิธีการแก้ไขแบบไม่มีโอกาสให้เลือกได้เลยเช่นสร้างสิ่งกีดขวางเป็นต้น (โหดหน่อยค่ะ)
สวัสดียามดึกค่ะ ;)
ผมคิดว่าสำคัญที่สุดคือใจคนนะครับคุณคิดคม ผมยกตัวอย่างที่เคยเจอตอนกลับบ้านนอก สี่แยกไฟแดงในหมู่บ้านเล็กๆ ในขณะที่ไม่มีรถผ่านนานเป็นนาทีแต่ทุกคนรวมทั้งคุณตาที่ขับมอเตอร์ไซด์ จอดรอไฟแดง สิ่งสำคัญที่อยู่ในใจของคนเหล่านั้นกลับค่อยๆ หายไปจากคนเมือง..