รายวิชาพื้นฐานใหม่ที่อยากเปิดสอน "การจัดการการเงินและคุณภาพชีวิต"

แม้เงินจะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต แต่เงินก็เป็นปัจจัยส่วนหนึ่งในการมีคุณภาพชีวิตที่ดี

วานนี้ ผมได้มีโอกาสไปประชุมคณาจารย์ผูสอนรายวิชาศึกษาทั่วไปแทนพี่ๆน้องๆที่เป็นผู้รับผิดชอบหลักในรายวิชาดังกล่าว ซึ่งติดภารกิจอยู่ ผมจึงได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนกับท่านรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ และได้ขออนุญาตนำเสนอรายวิชาใหม่ที่อยากให้มีการจจัดการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยของเรา ที่จริงรายวิชาดังกล่าวนี้ต้องยกเครดิตรให้พี่ชายผม ผมได้ไอเดียดังกล่าวนี้เพราะคุยกับพี่ชายผมแหละครับเพราะพี่ผมท่านเปรยขึ้นมาว่า อยากให้มหาวิทยาลัยมีวิชาสอนให้เด็กๆ รู้จักหาเงิน และใช้เงินเป็น และพีผมก็แนะนนำหนังสือให้ผมอ่านอีกหลายเล่ม เกี่ยวกับเรื่องการบริหารจัดการการเงินในชีวิตประจำวัน ซึ่งท่านรองอธฺการก็เห็นด้วยกับความคิดนนี้เพราะมีเสียงสะท้อนมาว่าอยากให้บัณฑิตมีความรู้พื้นฐานด้านการจัดการการเงิน และบัญชี  ท่านจึงรับปากว่าจะนำแนวคิดดังกล่าวไปมอบหมายให้อาจารย์ผู้เกี่ยวข้องสอดแทรกในรายวิชาที่เกี่ยวข้องต่อไป(เพราะผมสอนแต่กฎหมายไม่มมีองค์ความรูด้านการบริหารจจัดการการเงิน)ในสายตาผมผมว่าหากจะมีเนื้อหาในรายวิชานี้ สิ่งที่ผมเองอยากให้มีคือ๑. การทำบัญชีครัวเรือน คุณประโยชน์และวิธีการ

๒. การใช้จ่ายเงินในชีวิตประจำวัน (จ่าย เก็บออม ลงทุน สงเคราะห์ญาติพี่น้อง)

๓. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการลงทุนในปัจจุบัน (ตลาดหุ้น ทอง อสังหาริมทรัพย์ อนุพันธ์การเงิน)

๔.การจัดตั้งกิจการและการบริหารกิจการเบื้องต้น

๕. ความรู้เบื้องต้นในการอ่านและวิเคราะห์งบการเงินสำหรับคนทั่วไป

ที่ผมเสนอนนี้ อยากให้มีเกิดขึ้นจริงในสังคมไทย จะได้ไม่มีใครดูถูกว่าเด็กทุกวันนนี้เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ (ถ้าจะมีคนเปิดจริง ผมจะไปนั่งเรียนด้วย)  ล่าสุด ผมพึ่งคุยกับเพื่อนผมที่ทำกิจการส่วนตัวมีโรงงานทั้งในเมืองจีนและเมืองไทย เธอเล่าให้ฟังว่า"สิ่งที่คล้ายๆกันสำหรับคนเรียนสูงๆ คือการติดกรอบจนไม่กล้าทำอะไร      ส่วนคนที่เรียนไม่สูงแต่ต้องการเอาตัวรอดนั้นทำธุรกิจไปเลย กล้าได้ กล้าเสีย ผิดเป็นครูท้ายสุดจึงเป็นเจ้าของกิจการได้"วันนี้เศรษฐกิจโลกส่อสัญญาณไม่ค่อยดี จะอยู่รอดได้นั้น เราต้องทำงานในองค์กรที่ก่อให้เกิดรายได้อย่างแท้จริง ถ้าขายต่างชาติไม่ได้ เราก็ต้องขายคนในชาติเราเอง ถ้าเราไม่ฝึกให้บัณฑิตเป็นเจ้าขององค์กรธุรกิจ หรือสร้างงานเองแล้ว เราจะอยู่ได้อย่างไร.........