ธรรมะสว่างใจ


...

ยามเช้าวันนี้มีอากาศสดใสดีจัง  ในความเป็นไปของธรรมชาติล้วนแต่สอนให้เราเข้าใจสัจธรรมคือความจริง  ความจริงที่มีอยู่ตามธรรมดาทุกสิ่งนั้นละคือความเป็นธรรมชาติที่เราควรรู้เท่าทันในสรรพสิ่งทั้งหลาย

  มนุษย์มีความไม่รู้เป็นเดิมพันชีวิต  จึงตกอยู่ในวังวนของความอยากที่ทับถมจิตใจตนจนเกิดความโลภอยากได้เกินพอดี  แล้วความทุกข์ก็กระหน่ำซ้ำเติมให้มนุษย์จมดิ่งลงอยู่ในห้วงหุบเหวแห่งความทุกข์ยากใจ

        เมื่อมนุษย์มีความมืดบอดทางปัญญาด้วยแล้วแม้มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็แก้ไขปัญหาชีวิตตนเองไม่ได้  บ้างก็ตีโพยตีพายสิ่งรอบข้าง  โดยหลงลืมรากเหง้าของปัญหาที่แท้จริงอยู่ในจิตใจตนนั้นเอง  อันที่จริงทุกเรื่องทุกสิ่งล้วนเกิดมาจากตนเองเป็นสำคัญ 

 การจะแก้ไขอะไรควรหันมาแก้ไขในจิตใจตนเองเสียก่อน  อะไรที่มันเป็นของเรามันก็ย่อมเป็นของเราอยู่วันยังค่ำ  ด้วยมนุษย์ล้วนเป็นไปตามกฎแห่งการกระทำของตนเอง  

 

ตนเองจะมีอะไร  จิตใจตนเองจะทุกข์จะสุขอย่างไรก็สุดแท้แต่ตนเองทั้งนั้น  ด้วยเหตุนี้เองจึงมีคำกล่าวชวนคิดของท่านผู้รู้ว่า   ใครชอบใครชังช่างเถิด  ใครเชิดใครแช่งช่างเขา  ใครบ่นใครเบื่อทนเอา  ใจเราร่มเย็นเป็นพอ...

        การมีชีวิตมีลมหายใจเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้คุณมีรอยยิ้มในมุมปากบ้างรึยัง  ถ้ายังควรสร้างทำความดีมีศีลธรรมในจิตใจตนเพื่อเป็นคนมีความร่าเริงสดใสอยู่เสมอนะครับ  สิ่งเหล่านี้ไร้ราคาอยากได้ต้องทำเอาเองนั้นแล.

หมายเลขบันทึก: 487899เขียนเมื่อ 13 พฤษภาคม 2012 10:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 18:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

...ได้อ่านบันทึกดีดี ในวันพระ สาธครับ

สวัสดีครับ คุณ พ.แจ่มจำรัส

เป็นธรรมะที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาตินะครับผม

ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท