KM00099 : เรื่องที่ ๙๙


จากวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๓ ที่ได้ลองเขียนเรื่องราวลงใน GotoKnow จนถึงวันนี้ ก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะเขียนได้จนมาถึงเรื่องที่ ๙๙

จากวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๓ ที่ได้ลองเขียนเรื่องราวลงใน GotoKnow จนถึงวันนี้ ก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะเขียนได้จนมาถึงเรื่องที่ ๙๙ (จริงๆ ก็เขียนเกิน ๙๙ เรื่องไปแล้วใน GotoKnow แต่เป็นเรื่องทางวิชาการ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับการทำงานในสมุดเล่มอื่นๆ) สิ่งที่เปลี่ยนแปลงหลังจากเริ่มเขียนก็มีให้เห็น จากเป็นคนที่ปล่อยให้อะไรผ่านไป (ประมาณว่าทุกอย่างมันเป็นอนิจจัง) กลับเริ่มต้องสังเกต จดจำ และอยากเก็บเรื่องราวต่างๆ ไว้ แต่อย่างไรก็ตามหลายครั้งที่ไม่สามารถนำมาบอกกล่าวเล่าขานได้ ตามประสาคนที่ยังต้องมีภาระกับห่วง (บ่วง) ทั้งหลาย จนลืมไปหลายเรื่องก็มี อีกเรื่องคือ การอ่าน ไม่แน่ใจว่าอ่านมากขึ้นหรือเปล่า เพราะก็ชอบอ่านอยู่แล้ว ทุกเรื่อง ทุกแนว มีสาระแบบหนังสือธรรมะ ไปจนมีสาระไม่มากอย่าง "ขายหัวเราะ" (ไม่กล้าบอกว่าไม่มีสาระ เพราะอย่างไรก็มีอยู่บ้าง)  แต่เปลี่ยนจากการอ่านผ่านๆ มาเป็นอ่านแล้วเก็บประเด็น พินิจพิเคราะห์เนื้อหามากขึ้น ด้วยเหตุที่หากดีและมีประโยชน์จะได้นำมาบอกเล่าเก้าสิบต่อ

 

"ภาษาไทย" อันนี้เป็นผลพลอยได้จากการเขียนอย่างรู้ตัว (ไม่ได้เขียนผิดนะครับ เพราะหาก "ไม่รู้ตัว" คงเขียนไม่ได้) เพราะบางคำบางประโยคที่เราใช้กันอยู่แทบทุกวัน พอจะนำมาเขียนชักไม่แน่ใจ ต้องเปิดพจนานุกรมกันเลยทีเดียว แต่ก็ถือว่าได้ประโยชน์มาก

 

ปีนี้เป็นปีที่ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงไปมาก จากชีวิตที่อยู่ในระบบราชการหรือหน่วยงานของรัฐ มาทำงานเอกชนได้ไม่นาน (แต่ได้เรียนรู้อะไรมาก โดยเฉพาะเรื่องของคน) ตอนนี้ก็มาทำงานอิสระ มันช่างเปลี่ยนแปลงรวดเร็วอะไรขนาดนี้หากเป็นสถาพอากาศก็คงเป็นหวัดกันไปแล้ว ได้เรียนรู้ชีวิตไปอีกแบบ มีทั้งคนชอบ คนชัง คนให้กำลังใจ ซึ่งก็เป็นไปตาม "โลกธรรมแปด" ที่พระพุทธองค์ได้สอนไว้ (ลาภ เสื่อมลาภ ยศ เสื่อมยศ สรรเสริญ  นินทา  สุข ทุกข์ ) และได้รู้จัก "มิตรแท้" หลายคนที่ให้ความช่วยเหลือเมื่อถึงคราวต้องการ

 

ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมาก็มีเรื่องราวต่างๆ ที่ให้พบเห็นพอสมควร ได้อ่านเรื่องราวของ "ลุงเอี่ยม" ขอทานที่บริจาคเงินล้านให้วัด สะท้อนให้เห็นถึงความไม่ยึดติด แต่อีกมุมก็แสดงให้เห็นถึงคนไทยก็ยังคงชอบทำบุญให้ทานกันอยู่ เป็นเรื่องน่ายินดี ถึงแม้บางครั้งคนให้ทานจะหวังอะไรในใจบ้าง แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการรู้จักปล่อยวาง ขณะเดียวกันก็เหลือบไปเห็นข่าว "ผู้แทน" อมเงิน ซื้อตำแหน่ง มันช่างตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง ไม่ขอวิจารณ์

 

อีกเรื่องอดไม่ได้ที่จะต้องพูดถึงในฐานะ "พ่อ" ผมเคยเขียนและพูดหลายครั้งว่าถ้าอยากให้ลูกเป็นอย่างไร "พ่อแม่ ผู้ปกครอง" ควรต้องทำตังอย่างให้ลูกดู ผมชอบอ่านหนังสือ พอลูกเห็นบ่อยๆ ก็อ่านตามบ้าง ที่เขียนมานี่อยากจะบอกถึงเรื่อง "การกดคะแนนแทนกัน" จะว่าไปหากมองเป็นเรื่องทั่วไปก็อาจไม่แปลกอะไร เพราะก็มีให้เห็นกันบ่อยในสังคมไทย เข้าแถวซื้อของหรือซื้อตั๋วอะไรซักอย่าง แล้วมีเพื่อนเดินมาฝากซื้อ คิวยาวเหยียด คนข้างหลังก็ได้แต่มองกันไป เพราะก็เคยทำเหมือนกันเลยพูดไม่ออก แต่นี้เป็น "รัฐธรรมนูญ" นะครับ ขนาด "ท่านผู้ทรงเกียรติ" ยังทำได้ แล้วเยาวชนจะไม่ทำตามหรือครับ โชคดีที่ลูกผมยังเล็กเลยไม่รับรู้เรื่องเหล่านี้

 

เรื่องสุดท้าย วันนี้เข้าคิวที่ธนาคารแห่งหนึ่ง หลังเขียนใบเสร็จเรียบร้อย พนักงานถาม "มีรายการเดียวใช่ไหมค่ะ" จัดแจงชี้ให้เข้าช่องทางด่วน มีป้ายบอกไว้ "ช่องทางด่วน สำหรับท่านที่ทำรายการเดียว" ช่องนี้คนน้อย แสดงว่าเร็วเพราะทำแค่คนละรายการ ยืนรออยู่นาน จนช่อง "ไม่ด่วน" เสร็จไปหลายคน คนข้างหน้าไม่เสร็จง่าย เริ่มจากทำหนึ่งรายการ พอเสร็จขออีกสอง แต่ละรายการเงินหลายหมื่น กว่าจะนับกันเสร็จ พนักงานยิ้มหน้าเฝื่อนๆ แต่ผมก็เข้าใจ จะไล่ลูกค้าก็ไม่ใช่เรื่อง ยังดีที่พนักงานอีกท่านเห็นท่าไม่ดีเลยเชิญผมไปที่โต๊ะ (ผมแค่ยืนนิ่งๆ นะครับ) แล้วจัดการให้ มองในแง่ดีท่านนั้นอาจไม่เห็นป้ายที่เขียนไว้ครับ

คำสำคัญ (Tags): #km
หมายเลขบันทึก: 486972เขียนเมื่อ 4 พฤษภาคม 2012 00:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม 2012 10:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท