ยามค่ำคืนหนึ่งประมาณ 1 ทุ่มเศษ...ผมและคณะนักศึกษาไทยร่วมเดินจากที่พัก...ในกรุงนิวเดลลี...ไปที่คิวรถบัส...มีเป้าหมายไปที่เมืองธรรมศาลาที่อยู่บนเทือกเขาหิมาลัยครับ...รถบัสที่มีคนแน่น...ทะยานออกจากจุดเริ่มต้น...มุ่งหน้าขึ้นสู่ยอดขุนเขาที่สูงขึ้นตามลำดับ...
ท่ามกลางแสงจันทร์ดวงกลมโต...ที่ไล่ตามเราไป...บางครั้งเหมือนกับเราต้องไล่ตาม...
ผมไปกับความมืดแต่มีแสงจันทร์สาดส่องลงมาตลอดทาง...เมื่อมองดูถนนมีลักษณะสูงขึ้น ๆและคดเคี้ยว...ประมาณ 1 กม.แล้วก็ลดระดับลงต่ำ...ประมาณ 1 กม. แล้วก็เริ่มขึ้นต่อไปอีก...เป็นอยู่อย่างนี้...จนผมหลับไป...
มาตื่นอีกทีก็รุ่งเช้ารถเข้าจอดที่เมืองธรรมศาลาแล้ว...เราเดินเข้าไปในตัวเมือง...ด้านซ้ายมือเป็นบ้านเรือนมีตึกที่ลดระดับลงไปตามไหล่เขาแประมาณ 2 กม.แล้วเป็นขุนเขาสูงเสียบทะลุเมฆขึ้นไปดูด้วยสายตาประมาณ 5 กม...ถามคนแถวนั้นเขาบอกว่าฟากโน้น...เดิมเป็นประเทศธิเบต...ปัจจุบันคือประเทศจีนครับ...
เมืองธรรมศาลาเหมือนเป็นเมืองชาวธิเบต...ที่ อพยพ มาอยู่ที่นี้...ในแผ่นดินอินเดียครับ...ลักษณะตัวเมืองตั้งอยู่บนยอดเขา
ที่ต่อออกมาจากเทือกขุนเขาหิมาลัยครับ...แต่มียอดเขาที่มีหิมะปกคลุมอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก...
เมื่อผมเข้าที่พักแล้ว...ขึ้นไปตากอากาศบนดาดฟ้ามีที่นั่งชมวิวสวย ๆหมู่เมฆไหลเข้าตาม
ซอกขุนเขาที่สลับซับซ้อนของเทือกเขาหิมาลัย...สภาพแรงลมบางครั้งรุนแรงบางครั้งแผ่วเบาพัดผ่านร่างกายไป...ขณะเวลาประมาณ 9 โมงเช้าครับ ความหนาวประมาณ 10 กว่าองศา
...กลางวันเราเดินไปท้ายขุนเขาซึ่งเป็นวังที่ประทับขององค์
ทะไลลามะ ประมุขชาวธิเบต...วันนั้นพระองค์เสด็จไปต่างประเทศ...เราจึงพบแต่ตัวแทนของพระองค์...
เมื่อกลับมายามค่ำคืน...1-3 ทุ่ม...ผมออกมาเดินบนถนนสายตรงไปวังนั้นอีกที...คือมีชาวต่างประเทศเยอะ
มากครับ...ผมยืนดูด้านขวามือ...มองลงไปตามไหล่เขา...เห็นแสงไฟอยู่เบื้องล่างทอดยาวไปไกลลิบ ๆเหมือนเรานั่ง...ยืนอยู่บนก้อนเมฆแล้วมองลงมาเห็นหมู่ดวงดาวยามค่ำคืนครับฮา ๆ เอิก ๆ
ผมกลับเข้าที่พักประมาณ 4 ทุ่ม...ในห้องพักมีเครื่องทำความร้อน...ไม่มีพัดลมครับตกดึกที่นี้ติดลบ...รู้สึกหนาว...มาก...แต่ดูชาวธิเบตเหมือนพวกเทวดา...นับถือศาสนาพุทธฝ่าย
มหายาน...ถ้าวิทยาการไม่เจริญผมคงไม่เห็นเทวดาบนเทือกเขาหิมาลัยเป็นแน่แท้...
โปรดติดตามตอนต่อไป
ด้วยความปรารถนาดี
จาก...umi
ไม่มีความเห็น